หมัก ฉุนด่าสำนักข่าวฯเลว

นายสมัคร ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงความจำเป็นต้องเลื่อนการประชุมร่วมกับ 6 หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล

เพื่อหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปก่อน เนื่องจากติดปัญหาเรื่องความไม่พร้อม และบางพรรคการเมืองก็ยังไม่มีตัวแทนเข้ามาร่วมประชุม อีกทั้งตนเองก็ยังติดภารกิจต้อนรับ พล.อ.เต็ง เส่ง นายกฯ สหภาพพม่า ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.-1 พ.ค.นี้ เอาไว้นายกฯ พม่ากลับแล้วค่อยคุยกัน ส่วนจะมีการนัดประชุมครั้งใหม่เมื่อใดนั้น คงต้องรอเช็กความพร้อมของแต่ละพรรคให้แน่ชัดอีกครั้ง
  
ต่อมา นายสมัคร ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการเลื่อนนัดหารือกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า

ต้องโทษสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ปกติตนไม่พูดกับที่นี่อยู่แล้วแต่ดันเปลี่ยนเสียงคนโทรฯมาสัมภาษณ์ที่บ้าน ตนก็พูดกลับไปแค่ 2-3 คำเท่านั้นกลับไปออกข่าวเป็นเรื่องใหญ่ มันแย่ เลวจริง ๆ ต่อไปนี้จะไม่คุยด้วยแล้ว ซึ่งความจริงหลังจากกลับจากเยือนมาเลเซียตนยังไม่เคยบอกเลยว่าจะนัดพบกับ 5 หัวหน้าพรรคร่วมในวันที่ 28 เม.ย. แต่นักข่าวไปเขียนกันเอง เพราะเวลานี้ก็ยังไม่รู้ว่านายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กลับจากจีนหรือยัง อีกทั้งหัวหน้าพรรครวมใจไทยฯ ก็ลาออก ตนก็มีงานยุ่งทั้งวัน จึงได้บอกไปว่าจะขอเลื่อนไปก่อน

เมื่อถามว่า ขณะนี้หัวหน้าพรรคร่วมการเมืองบางพรรคยังมีความเห็นที่แตกต่าง นายสมัคร กล่าวว่า

ยังไม่ทันนั่งพูดคุยกันจะให้ความเห็นได้อย่างไร แม้ตนจะได้เจอกับนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 เม.ย. แต่ก็ยังไม่ได้คุย เพราะต้องการรอคุยทีเดียวพร้อมกันทั้ง 6 พรรค วัตถุประสงค์ก็เพื่อฟังเสียงและให้รู้ว่าทิศทางควรจะเป็นอย่างไร จะแก้ตรงไหน เพราะเป็นรัฐบาลร่วมกัน และเราก็ต้องการ 316 เสียง รวมกับวุฒิสมาชิก ถ้ามัวแต่ไปทำไม่รู้ไม่ชี้และอวดศักดาเดี๋ยวจะแก้ไม่ได้ เมื่อถามว่าจะทันกรอบเวลาที่วางไว้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จะต้องไปกำหนดกรอบทำไมถึงเวลาทำได้ก็ทำ
  

ผู้สื่อข่าวถามว่า ห่วงกระแสภายนอกที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งหรือไม่

นายกฯ ตอบว่า ไม่ห่วง แต่อยากถามว่าทำไมถึงต้องทำกันขนาดนี้ ตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องออกมาต่อต้านจะเป็นจะตายจะเอาให้บ้านเมืองพัง แล้วทำไม พวกที่ฉีกรัฐธรรมนูญบ้านเมืองถึงไม่พัง แล้วพวกที่บอกว่าต้องการ ส.ส.ร. แล้วเป็นอย่างไร แล้ว ส.ส.ร. 1 ที่ร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 ก็เห็นชมว่าดีนักหนาแล้วเป็นอย่างไร ก็ไม่เชื่อกันแล้วต้องเปลี่ยนใหม่

ต่อข้อถามว่าได้เตรียมแผนรับมือกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างไรเพราะดูเหมือนเขาไม่ยอมลดราวาศอก
 
นายสมัคร กล่าวว่า เป็นเรื่องของพันธมิตรไม่ใช่เรื่องของตน ส่วนที่เกิดความวุ่นวายในการชุมนุมเมื่อวันที่ 25 เม.ย. นั้นก็อยู่นอกเหนือการดูแลของตนเพราะตนคงไม่ได้ออกไปเดินจับมือห้ามใครต่อใคร
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า 2-3 เดือนที่ผ่านมามีแรงต้านในตัวนายกฯ มากรู้สึกอย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า ตนไปที่ไหนเขาต้อนรับดีทั้งนั้น ไม่เห็นมีใครต่อต้าน
  
“การที่พันธมิตรฯ บอกว่าวันใดที่รัฐบาลยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญจะเคลื่อนไหวทันทีก็เป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของผม เขาจะคัดค้านก็มีสิทธิทำได้แต่การลงคะแนนพันธมิตรไม่ได้ลงสภา อยากถามว่าเขาลงคะแนนข้างถนน หรือ เขาลงคะแนนกันในสภา รู้จักสภาหรือไม่ เลขที่ 1 ถนนอู่ทอง เขาลงและนับคะแนนกันที่นั่น” นายสมัคร กล่าวและยังกล่าวถึงโพลต่าง ๆ ที่ ออกมาในขณะนี้ว่า ก็เป็นโพลเฮงซวยโดยเฉพาะโพลเอแบคบอกได้เลยเพราะอธิการบดีก็เป็นเพื่อนตน แต่มันเฮงซวย ตั้งคำถามมาอ่านแล้วไม่รู้เรื่องโพลทางเหนือของกรุงเทพฯ ก็เฮงซวย หลายสำนักแย่