หมัก ฉุนถูกสื่อบางส่วนอัดไม่จงรักภักดี

นายสมัครกล่าวถึงสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่องหนึ่งว่า

ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ออกอากาศด่าว่าตนอย่างเสียหาย นั่งด่ากันทั้งวัน และด่านายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลสถานีโทรทัศน์ NBT ด้วยนั้นว่า เอาข่าวของประเทศเนปาลที่เลิกสถาบันพระมหากษัตริย์ หาว่าเน้นรายการนี้และพาดพิงมาถึงตน ซึ่งตนได้ตรวจสอบแล้วก็พบว่าเป็นรายการข่าวต่างประเทศ แต่ก็ไปกล่าวหาว่าโทรทัศน์ช่องนี้ไม่จงรักภักดี ซึ่งไม่ใช่ สถานีโทรทัศน์ก็เสนอข่าวนี้กันทุกช่อง แต่ไม่ไปดู เวลานี้นายจักรภพถูกแจ้งความในระหว่างแสดงปาฐกถา แต่ตนดูแล้วไม่มีอะไร

“ไอ้หัวเถิกซอกแซก ตอนนี้ผมโดนเข้าด้วยแล้ว เมื่อก่อนนายกฯทักษิณโดนเรื่องไม่จงรักภักดีราชวงศ์ แต่เวลานี้ผมโดนด้วยแล้ว ไอ้สถานีนี้นี่แหละรวบหัวรวบหางเหมากันแล้ว เหมาตรงที่ผมช่วยดูแลนายกฯทักษิณ ดังนั้นผมก็ต้องด้วย หาว่าเลือดสีน้ำเงินจริงหรือเปล่า นี่มันฆ่ากันไม่ตาย ขายกันไม่ขาด แต่จะเอาผมด้วย เจ้าหัวเถิกนี่แหละ เริ่มเป่าข่าวอีกว่าผมไม่จงรักภักดีราชวงศ์ จะท้าทายกันไปขนาดไหน ส่องกระจกดูตัวเองบ้างหรือเปล่า เข้าไปอยู่ใกล้ชิดแล้วก็เสียหาย เกลียดชัง เพราะผลประโยชน์ส่วนตัว ผมไม่ออกชื่อ แต่บ้านเมืองไม่สงบหรอกถ้าคนพรรค์อย่างนี้อยู่ เดินหน้ากันมาถึงขนาดนี้ ทั้งปฏิวัติรัฐประหารเลิกแล้ว ก็ตกลงกันถึงป่านนี้ว่าจะทำอะไร นี่จะมาเอากันอีกแล้ว มันเจ็บช้ำน้ำใจอะไรกันนักหนา คนอย่างผมนี่หรือไม่จงรักภักดีพระราชวงศ์ ลองดูก็แล้วกัน ผมประกาศท้าทายได้เลย จะมาแซะผมเหมือนกับแซะทักษิณ ตัวเองขอให้ส่องกระจกดูเถอะ” นายสมัครกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อมีคำถามขอให้นายสมัครแสดงความเห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ (มธ.) นายสมัครกล่าวตอบว่า

ไม่อยากแสดงความเห็น เพราะคนที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายตน ซึ่งเป็น ส.ส. ได้ออกไปเย้วๆกับเขาด้วย และพรรคประชาธิปัตย์มีคนไปขึ้นเวทีด้วย ก็ให้ว่ากันไป แต่ทางเราไม่เอาด้วย เช่น เดียวกับวันนี้ที่จะมีการประชุมกันที่โรงแรมรอยัล รัตนโกสินทร์ แล้วจะไปล่อขว้างกันคิ้วแตก ไม่ทราบจะทำอย่างไร แต่เนื้อหาที่มีการพูดกันและมีพาดพิงถึงใครหลายคน หรือ พูดง่ายๆว่าต้องการจะจุดชนวนขึ้นอีก และคิดว่าที่จุดชนวน อีกนี้ก็เพื่อทหารจะทำปฏิวัติอีก ก็คิดอย่างนี้ก็คิดไป แต่ตน ขอบอกว่าคงยาก เพราะบ้านเมืองไม่มีเหตุอย่างนั้นหรอก

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ดังนั้นใครเป็นชาวพุทธขอให้ดูที่พระพุทธเจ้าบอกว่า ให้ดูที่ต้นเหตุ ถ้าความทุกข์ ของท่านอยู่ที่การปลุกระดมกันไม่หยุด
 
จ่อชนวนให้ข่าวออกไป มีการปลุกระดม เพราะเห็นอยู่ชัดว่าต้องการทำเพื่อให้บ้านเมืองปั่นป่วนเสียหาย ความเกลียดชังนายกฯ ทักษิณที่สะสมกันมา และยังมีไกลกว่านั้นคือ เรื่องยุบพรรค จะเป็นอย่างไร แต่ตนขอบอกว่า ใครทำเรื่องยุบพรรคก็ ทำไป นายยงยุทธ ติยะไพรัช โดนใบแดงใบที่ 1 ไปแล้ว ต้องไปขึ้นศาลฎีกา แต่ศาลจะว่าอย่างไรไม่ทราบ แต่ทราบว่าเขามีกันเหนียว ว่าจะโดนใบแดงใบที่ 2 ที่ว่ามีนายทหารยศพลเอกฟ้อง กกต.ว่า นายยงยุทธกล่าวหาพาดพิงทหาร ในขณะหาเสียง แล้ว กกต.ตั้งอนุกรรมการขึ้นมาสอบแล้ว สรุปกลับว่าเป็นจริง

นี่นายยงยุทธอาจจะได้ใบแดงไว้กันเหนียวเผื่อว่าจะไม่ได้ใบแดงแรก อย่างนี้แปลว่าอย่างไร ต้องเอากันให้ตายหรือ เพราะคนที่ประชาชนเลือกมาเป็น หัวหน้าฝ่ายนิติบัญญัติก็ไปโดนคดีความขึ้นมา ถ้าศาลพิจารณาอย่างที่ต้อนกันไว้ก็เสร็จ บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร

นายสมัครกล่าวต่อว่า ในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารหากไม่ปรารภให้ฟังแล้วจะเป็นอย่างไร

อย่างที่นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นินทา และ ใครจะว่าเอารัดเอาเปรียบก็ว่าไป ทีเอาเอกชนมาด่าหัวหน้ารัฐบาลด่าได้ แต่หัวหน้ารัฐบาลเอาสถานีรัฐ มีรายการออก โทรทัศน์ ก็บอกว่าใช้สถานีโทรทัศน์ไปว่าคนอื่น ไม่ยุติธรรม เลย งานนายกฯก็ทำ แต่ปากไม่หุบเฉยๆหรอก หัวหน้าฝ่าย นิติบัญญัติก็ต้องถูกวินิจฉัย เพราะเขาสร้างกระบวนให้เป็น อย่างนั้น หัวหน้าฝ่ายบริหารก็ต้องถูกอีกอำนาจจัดการ ให้วินิจฉัยให้เป็นอย่างนั้น หากกฎหมายผิดไม่ร้องทุกข์ แล้วจะเป็นอย่างไร คิดแต่ว่าจะแก้กฎหมาย แต่ไม่คิดว่า กฎหมายผิด และเขียนดุด่าว่ากล่าวกัน รายการนี้ต้องมีอยู่ ต่อไป เพราะยังต้องมีหัวหน้ารัฐบาลอยู่ สงสารแต่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.การคลัง ที่ไปทำ โร้ดโชว์ แต่ต้องมาตอบคำถามว่าจริงหรือที่จะปฏิวัติ แม้ว่า ทหารจะชี้แจงแล้ว และจริงหรือไม่ที่ว่าคนนั้นคุมคนนี้ไม่ได้ ออกใบปลิวเสียหาย บ้านเมืองยังไม่มีวันจบ แต่ขอให้ดูว่าใครที่เป็นคนปลุกระดม ใครเป็นคนก่อเหตุ