สมัคร เชื่อบ้านเมืองอยู่ได้ แม้มีคนจุดชนวนให้ปฏิวัติ

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "สนทนาประสาสมัคร" ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT วันนี้ (27 เม.ย.) เกี่ยวกับกรณี การเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์บางแห่งที่พาดพิงตนเองในทางเสียหาย โดยระบุตนเองไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และแผ่นดิน ว่า
 
มีการพยายามที่จะปลดตนเองให้ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เหมือนที่เคยทำกับ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาแล้ว ทั้งๆ ที่ขณะนี้บ้านเมืองก้าวผ่านการปฎิวัติมาแล้ว ก็ยังพยายามที่จะจุดชนวนให้เกิดขึ้นอีกครั้ง แบบนี้เป็นเรื่องที่ใช้ไม่ได้


“บ้านเมืองเราเดินมาถึงขนาดนี้ผ่านปฏิวัติรัฐประหารมาแล้ว ยังจะเอากันอีกจะแซะนายสมัครออกจากตำแหน่งอีก คนอย่างตนมีหรือไม่จงรักภักดีต่อราชวงศ์ อยากให้คนที่พูดได้ลองส่งตัวเองในกระจกดูเสียก่อน โดยตนเองยอมไม่ได้หากจะมีการปลุกระดม ทำให้บ้านเมืองเสียหาย โดยตนเองจะชี้แจงกับประชาชนให้เข้าใจ ทำให้เห็นว่าคนกลุ่มใดที่พยายามคิดทำเช่นนั้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายสมัคร กล่าวถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายระหว่างการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า

ส่วนตัวไม่ค่อยอยากพูดถึงเท่าใดนัก ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร แต่เห็นว่าหากมองที่เนื้อหาการปราศรัยจะพบว่า มีการกล่าวพาดพิงบุคคลชื่อดังหลายคน พูดกันกันไปมาจึงทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น เขาคิดว่าเรื่องที่พูดกันนี้จะจุดชนวนให้ทหารลูกขึ้นมาปฏิวัติกันอีก แต่ตนว่าคงยากเพราะไม่มีเหตุให้ต้องทำแบบนั้น                

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า

หากใครเป็นชาวพุทธลองดูว่า พระพุทธเจ้าท่านชี้ว่าให้ดูที่ต้นเหตุ หากความทุกข์ของท่านพวกนี้ปลุกระดมกันไม่หยุด จ่อชนวนให้เหตุการณ์เกิด ถ้าจะดับชนวนนี้ต้องไปดูเหตุการดับทุกข์ คือ การปลุกระดม ว่าเขาต้องการอะไร เขาต้องการให้บ้านเมืองเสียหาย เพราะความเกลียดชังอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่หมดไป               

นายสมัคร กล่าวอีกว่า

ส่วนเรื่องยุบพรรคฯ ก็ทำต่อไป คดีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช กำลังอยู่ที่ศาลฎีกาเป็นใบแดงใบที่ 1  แต่ยังมีอีก 1 ใบแดงใบที่ 2 เป็นทหารเป็นพลเอกอยู่กรุงเทพฯ ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง แต่ไปฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) บอกว่านายยงยุทธ เวลาไปหาเสียงพูดจาพาดพิงว่าไปค้นบ้านราษฎร ทำให้ราษฎรเข้าใจผิดในการลงคะแนน จากที่ กกต.ไปตรวจสอบพบว่ามีการไปค้นจริง ไปปราศรัยจริง กลายเป็นว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช ต้องโดนใบแดงใบที่ 2 หากใบแรกไม่สำเร็จจะเอาใบนี้ให้ได้แปลว่านี้ คือ การเอาให้ตาย ตนพูดในฐานะที่อยู่พรรคพลังประชาชน              

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า
 
ตนขอแจ้งว่างานของนายกรัฐมนตรีก็ทำ แต่ปากก็ไม่หยุดขยับเพราะต้องชี้แจงให้คนเห็น เนื่องจากเป็นหัวหน้า 1 ใน 3 อำนาจการปกครอง แต่ต้องโดนอำนาจตุลาการตรวตสอบ และมีการสร้างกระบวนการให้ต้องเป็นไปอย่างนั้น ที่สื่อมวลชนเขียนบทความพูดว่า ทำผิดแล้วไปแก้กฎหมาย ทำไมไม่คิดว่าหากกฎหมายผิดอยู่แล้วจะเป็นอย่างไร เขียนดุด่าว่ากล่าวกันถึงขนาดนั้น อย่างไรก็ตามรายการสนทนาประสาสมัครคงจะมีต่อไป ตราบใดที่ตนเป็นรัฐบาลอยู่