ม็อบต้านพันธมิตรฯ สุดเถื่อน! ควักเจ้าโลก ท้าทาย

ตร.ขนสิบล้อกั้น 2ฝ่ายเอาไม่อยู่ ม็อบต้านพันธมิตรฯ ปิดล้อมมธ.สกัดเข้า-ออก มือมืดปาอุจจาระใส่ฝ่ายตรงข้ามแต่โดน ตร.ดวงซวยหัวเหม็นหึ่ง ช่างภาพช่อง7 โดนลูกหลงแก้วคิ้วเลือดอาบ หาบส่งรพ. ควัก'เจ้าโลก'ท้าทาย 'เฉลิม'ปูดสนช.ไถพ่อค้าหนุนพันธมิตร (ดูภาพประกอบ)

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยาการของกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต้านงานสัมมนา

ติดอาวุธทางปัญญา ยามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 51 ว่าเวลาประมาณ 19.30 น.ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านฝ่ายพันธมิตรฯ ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น จากการเดินทางมาสมทบของกลุ่มชมรมแท็กซี่อีสาน และกลุ่มผู้ชุมนุมหน้าเดิมกับที่ชุมนุมคัดค้านพันธมิตร เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ทั้งหมดพยายามพังรั้วเหล็กที่ตำรวจกั้นเอาไว้ออก และลงไปเดินบริเวณถนนกว่าร้อยคน

โดยอ้างว่าถูกฝ่ายพันธมิตรฯ ให้หนังสติกยิงลูกแก้วมาใส่กลุ่มของตน จึงพยายามที่จะต่อสู้ โดยการพังรั้วเหล็ก บุกลงมาบริเวณถนน เพื่อหวังจะเข้าไปยังฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการเสริมกำลัง ให้ตำรวจหน่วยปราบจราจล ที่มีอาวุธครบมือ ถือโล่ห์ และกระบอง เข้ามาช่วยควบคุมสถานการณ์ จึงทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงไปได้    
  
ขณะที่กำลังเกิดเหตุการณ์ชุลมุนอยู่นั้น มีชาย 1 คนของฝ่ายคัดค้านพันธมิตรฯ ได้หลุดเข้าไปบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้วตะโกนต่อว่าฝ่ายพันธมิตรฯ จนหวิดจะเกิดการรุมทำร้ายกัน โชคดีที่มีผู้ติดตาม (การ์ด) ของนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร ขี่จักรยานยนต์มานำตัวออกไป เพื่อป้องกันไม่ให้ชายคนดังกล่าวถูกรุมทำร้าย
      
จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. ได้มีฝนตกลงมาทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงไปบ้าง เนื่องจากฝ่ายต้านพันธมิตรฯ พากันหลบฝน และมีการเก็บเครื่องเสียงเข้าไปหลบฝนด้วย  แต่เมื่อฝนหยุดตกกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปักหลัง โดยส่วนหนึ่งเข้าไปปิดล้อมประตูเข้า-ออกม.ธรรมศาสตร์

ม็อบต้านพันธมิตรฯ ขู่โจมตีหลังเสวนา

แม้ว่าจะมีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นภายนอก การเสวนาบนเวทียังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ กลุ่มต่อต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังคงรวมตัวปราศรัยโจมตี กดดันการจัดรายการสัมมนายามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อย่างต่อเนื่องท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุวุ่นวายมีการยิงลูกแก้วใส่กลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ บริเวณประตูทางเข้าหอประชุมเล็ก ทำให้กลุ่มต่อต้านแยกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ แยกเป็น 2 จุด พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลรักษาความปลอดภัย และรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม

ทั้งนี้ แกนนำกลุ่มต่อต้านประกาศจะมีการกระจายกำลังกลุ่มผู้ชุมนุมปิดกั้นทุกประตูทางออกมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมข่มขู่ทำร้ายร่างกายกลุ่มพันธมิตรฯ ภายหลังเสร็จสิ้นการสัมมนาด้วย

ตร.จับน.ศ.สุราษฎร์ฯปาหินใส่กลุ่มต้าน

ในช่วงใกล้ค่ำ กลุ่มต่อต้านพันธมิตร ได้แบ่งกลุ่ม เคลื่อนไปบริเวณประตู มธ.ฝั่งวัดมหาธาตุ พร้อมใช้เครื่องขยายเสียงโจมตีพันธมิตร ขณะเดียวกัน ได้มีบุคคลจากใน มธ.ปาก้อนหินไปยังกลุ่มที่ชุมนุมฝั่งสนามหลวง ทำให้กลุ่มดังกล่าวไม่พอใจ และพยายามจะข้ามถนนมายังฝั่ง มธ. จนตำรวจต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ โดยนำแผงเหล็กมากั้นผู้ชุมนุมฝั่งสนามหลวงเพิ่มอีกชั้นหนึ่ง และกันผู้ชุมนุมฝ่ายพันธมิตร ที่อยู่ฝั่งธรรมศาสตร์ให้อยู่ห่างจากแนวรั้วกำแพงมหาวิทยาลัย เพื่อไม่ให้ยั่วยุฝ่ายตรงข้ามและป้องกันเหตุ ส่วนบุคคลที่ปาหินนั้น ทางกลุ่มพันธมิตรนำตัวไปตักเตือน

ต่อมาตำรวจเข้าควบคุมตัวนายศราวุธ ศรีภิรมย์มิตร อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยรามคำแหง ชาว อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นผู้ขว้างอิฐออก จากรั้ว มธ.ใส่กลุ่มต้านกลุ่มพันธมิตร ไปดำเนินคดีที่ สน.ชนะสงคราม

งัด 'เจ้าโลก' ท้าทายเป็นทิวแถว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่สถานการณ์กำลังชุลมุนวุ่นวาย จู่ๆ ชาย 2-3 คนจากกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ  ก็ปลดซิบกางเกงควักอวัยวะเพศออกมาท้าทายฝ่ายพันธมิตรฯ  โดยยืนอยู่หน้าแผงกั้นของเจ้าหน้าที่ มีชายวัยกลางคนรายหนึ่งเป็นฝ่ายเริ่ม จากนั้นมีชายอีก 2-3 คนเลียนแบบพฤติกรรมดังกล่าว พร้อมทั้งตะโกนยั่วยุและด่าทอใส่กลุ่มพันธมิตร  นอกจากนี้ยังมีผู้ชุมนุมคนอื่นๆ ให้ของลับด้วยการชูนิ้วกลางใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

ม็อบต้านปาขี้โดนหัวตำรวจ - ช่างภาพช่อง 7 แก้วปักคิ้วแตก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 

ทันทีที่เวทีเสวนาปิดลงท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายนอกหอประชุมใหญ่ม.ธรรมศาสตร์  นายเสรี อุมา ช่างภาพจากสถานีกองทัพบกช่อง 7 ได้โดนลูกหลงจากกลุ่มต้านพันธมิตรฯ โดยถูกขวดแก้วปาเข้าศรีษะขณะที่นายเสรีกำลังทำหน้าที่สื่อมวลชน ถ่ายภาพเหตุการณ์อยู่ในบริเวณป้ายรถเมล์หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ทำให้นายเสรีถึงกับคิ้วข้างซ้ายแตกเป็นแผลยาว  ขณะเดียวกันผู้ชุมนุมยังคงปิดล้อมหน้าประตูเข้า-ออกม.ธรรมศาสตร์ สกัดไม่ให้ฝ่ายพันธมิตรฯ เดินทางออกมาจากรั้วมหาวิทยาลัยได้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าฝ่ายม็อบต้านพันธมิตรฯ ได้ปาอุจจาระเข้าใส่ฝ่ายตรงข้าม ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องโชคร้ายโดนลูกหลงแถมกลิ่นเหม็นไปด้วยอีกราย แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บก็ตาม 

เวลาประมาณ 22.35 น.รถพยาบาลฉุกเฉินของรพ.วชิระนำช่างภาพช่อง 7 ไปรักษาทำให้เกิดการเข้าใจผิดคิดว่ามีการจับกุมผู้ชุมนุม ทำให้ผู้ชุมนุมบริเวณสนามหลวงข้ามมายังบริเวณ มธ.

'เฉลิม' ปูดสนช.ไถพ่อค้าหนุนพันธมิตร

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า

ได้รับมอบหมายจากนายกฯให้ดูแล จึงสั่งการ ให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น) และนายวิชัย ศรีขวัญ อธิบดีกรมการปกครอง  ตรวจสอบอย่าให้มีการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มพันธมิตรกับกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย

''ได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า จะมีคนกลุ่มหนึ่งก่อเหตุให้เกิดความวุ่นวาย อาจจะนำไปสู่ความเสียหายให้แก่บ้านเมือง แต่ไม่ได้เกิดจากการกระทำของรัฐบาล เพราะรัฐบาลมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย เมื่อเกิดเหตุใดๆ ขึ้นความเสียหายก็จะเกิดกับรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงอยากให้หลีกเลี่ยงการมาชุมนุมไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมในรูปแบบใดๆ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารด้วย'' ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว เมื่อถามว่า เหตุการณ์จะดำเนินออกมาในรูปแบบใด ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ขึ้น อยู่กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น โดยอาจจะเริ่มจากเล็กไปสู่ใหญ่

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวถึงเงินทุนสนับสนุนกลุ่มพันธมิตรว่า
 
มีคนไปเจรจาขอเงินมาจากพ่อค้า ซึ่งคนนั้นก็เป็นอดีตสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และก็เป็นคนที่โด่งดังในทางลบ แต่ไม่ถึงกับโค่นล้มรัฐบาล แต่เมื่อมีการไปตื๊อไปขอก็ได้มานิดหน่อย เมื่อถามว่าอดีต สนช. คนดังกล่าว เป็นคนที่ออกมาโจมตีอดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ทำอยู่เสมอแบบประปราย กลุ่มคนดังกล่าวเป็นกลุ่มคนที่ชอบทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย เช่น กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมานที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการเมือง ก็ยังด่ากันได้ทุกวัน กล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลัง จะฟอกตัว เมื่อคดีสู่ศาลแล้ว ท้าพันธมิตรจับมือปชป.ลงเลือกตั้ง

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่กลัวจะมีการออกมาชุมนุมคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ ถ้าประชาชนเข้าใจว่า
 
แก้อย่างไรก็จบ แต่สงสัยว่ากลุ่มพันธมิตรนั้นได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ แอบอ้างว่าเป็นคนเปิดเผยความจริง พูดแต่ละครั้งกำหนดชะตาบ้านเมือง อยากแนะนำให้กลุ่มพันธมิตรไปตั้งพรรคเข้าร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ในการตรวจสอบรัฐบาล หากรัฐบาลทำงานไม่ดีก็ให้ส่งคนลงสมัครในการเลือกตั้ง ถ้าเลือกตั้งออกมาแล้วได้ที่นั่งมาก นายสนธิ ลิ้มทองกุล ก็เป็นนายกรัฐมนตรีไป การที่ออกมาเคลื่อนไหวแบบนี้ไม่ทราบต้องการอะไร

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่า

เรื่องการชุมนุมนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อม โดยได้มีการคุยกับ พล.ต.ท.อัศวิน ทราบว่าตำรวจจะมีการวางแผงเหล็กกั้น ซึ่งได้มีการให้แนวคิดไปว่า ห้ามไม่ให้มีการเผชิญหน้ากันโดยเด็ดขาด หากทางฝ่ายพันธมิตรจะด่าว่าใคร อย่าไปห้าม ให้ช่วยดูสายไฟ อย่าให้ไปตัด เพราะจะมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่คิดอุบาทว์จะทำให้เหมือนว่า รัฐบาลไปแกล้ง

เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับตาดูกลุ่มคนที่จะสร้างความวุ่นวายหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของทางตำรวจอยู่แล้ว หากมีการกระทำความผิดต้องถูกดำเนินคดี หากเกี่ยวพันถึงตนและครอบครัว ได้เห็นเอกสารเมื่อไร ก็จะแจ้งจับ

ตร.ขนสิบล้อกั้น2ฝ่ายสกัดปะทะ

ทั้งนี้ ก่อนพันธมิตรจะเปิดเวทีในเวลา 16.00 น.นั้น บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้า มธ.ฝั่งสนามหลวง มีฝ่ายต่อต้านพันธมิตรประมาณ 400 คน ประกอบด้วยกลุ่ม นปก. กลุ่มฅนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ และกลุ่มพลังประชาธิปไตยต่อต้านกลุ่มพันธมิตร ปราศรัยโจมตีแกนนำกลุ่มพันธมิตรเป็นระยะ ขณะที่ตำรวจนำรถ 10 ล้อคุมขังผู้ต้องหา 3 คันและรถบรรทุกขนาดใหญ่อีก 1 คันมาจอดริมถนนฝั่งประตู มธ. ด้านสนามหลวง พร้อมรั้วเหล็ก 2 ชั้น ป้องกันการเผชิญหน้าและปะทะกันขึ้นระหว่างสองฝ่าย โดยประตูทางเข้า มธ.ฝั่งสนามหลวงนั้นเปิดให้เข้าออกผ่านประตูเล็กเพียงประตูเดียวเท่านั้น และมีเจ้าหน้าที่ของกลุ่มพันธมิตรคอยตรวจสอบหาวัตถุต้องสงสัยกับผู้ที่เข้าออกทั้งชาย-หญิง

ต่อมา พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจ  นครบาล (ผบช.น.)  พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 เดินตรวจสอบด้านหน้าบริเวณโดยรอบ พล.ต.ท.อัศวินกล่าวว่า จัดวางกำลังตำรวจทั้งบริเวณภายใน มธ. และนอก มธ. ทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 3,000 นาย โดยที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือช่วงกลางคืน ที่เป็นห่วงเรื่องการดูแลความปลอดภัยขณะที่ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งทยอยกลับบ้าน และจะไม่ให้ขว้างปาสิ่งของกันและกัน เพราะอาจบาดเจ็บได้

คนล้นหอประชุมใหญ่จนต้องนั่งกับพื้น

ขณะที่ภายใน มธ.นั้น ประชาชนทยอยเดินทางเข้าไปจองที่นั่งในหอประชุมใหญ่ มธ.ที่จุคนได้ประมาณ 2,500 คน ตั้งแต่ช่วงเที่ยง จากนั้นสมาชิกกลุ่มพันธมิตรทยอยเดินทางมาสมทบเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ