วันนี้ (22 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์จำหน่ายข้าวถุง
พบว่า ยังมีจำหน่ายไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะห้างค้าปลีกรายใหญ่ที่จุดจำหน่ายข้าวถุงเป็นพื้นที่โล่ง มีแต่ข้าวเหนียวเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ข้าวหอมมะลิ และข้าวขาวเหลือให้เลือกเพียง 1-2 ยี่ห้อเท่านั้น พร้อมปรับราคาขึ้นมากจากช่วงสงกรานต์ ข้าวหอมมะลิบรรจุถุง 5 กิโลกรัมจาก 145-150 บาท ขึ้นเป็น 210 บาท ส่วนข้าวขาวขึ้นจาก 110-120 เป็น 160 บาท
ทั้งนี้ ห้างค้าปลีกทุกแห่งยังจำกัดปริมาณซื้อข้าวถุง เช่น เทสโก้ โลตัส ให้เพียง 3 ถุงต่อคน ลดจากเดิมที่ให้ 6 ถุง
โดยให้เหตุผลว่าต้องการกระจายข้าวถุงให้ถึงมือลูกค้ามากที่สุด ขณะเดียวข้าวถุงบางยี่ห้อไม่มีการติดป้ายราคาหน้าถุงด้วย โดยเมื่อสอบถามประชาชนยอมรับว่า ข้าวแพงมากขึ้นถึงถุงละ 40-50 บาท แต่ต้องจำใจซื้อเพราะกลัวข้าวขาด ไม่มีรับประทานและอยากให้รัฐบาลดูแลราคาข้าวถุงบ้าง นอกจากนี้ยังพบว่าที่ห้างเทสโก้ โลตัส ไม่มีน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวดวางขายในหลายสาขา เหลือแต่น้ำมันปาล์ม น้ำมันสกัดเมล็ดทานตะวัน และรำข้าวเท่านั้น
ด้านข้าวถุงที่ผลิตโดยองค์การคลังสินค้า (อคส.) ชนิดหอมมะลิ 100% ก็ขาดตลาดเช่นกัน
เพราะมีปริมาณสั่งซื้อเพิ่มขึ้นผิดปกติ โดยเฉพาะจากข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ได้แห่จองจำนวนมากจนทำให้ อคส. ต้องจำกัดโควตาร์ซื้อให้ไม่เกินคนละ 3 ถุง นอกจากนี้ อคส. ยังแจ้งลูกค้าอีกว่าเตรียมปรับราคาขึ้นอีกรอบภายในสัปดาห์นี้ จาก 150 บาท เป็น 160 บาท ซึ่งถือเป็นการขึ้นรอบที่ 2 ในรอบ 2 เดือน จากเดิมที่ถุงละ 135 บาท
นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวว่า
ข้าวถุงยังไม่ลดราคา เพราะห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ไม่ยอมลดค่ากำไรหลังร้าน (แบ็ก มาร์จิน) 3-10% ตามที่รับปากกับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ไว้ และขณะนี้ยังปรับขึ้นไปแล้ว 10% อีกทั้งมีแนวโน้มว่า ราคาข้าวถุงขนาด 5 ก.ก.บางยี่ห้อมีโอกาสทะลุถุงละ 200 บาทอย่างแน่นอน เพราะราคาวัตถุดิบข้าวปัจจุบันผันผวนมาก และเปลี่ยนแปลงทุกวัน ดังนั้น สมาคมอยากให้รัฐบาลนำข้าวสารในสต๊อก 100,000-200,000 ตัน มาทำข้าวถุงราคาถูกขายประชาชน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
