ผบ.สส.ยืนยัน ไม่ทราบเรื่องของบุตรชายมท.1

ผบ.สส.ยืนยัน ไม่ทราบเรื่องการขอกลับเข้ารับราชการทหารของบุตรชายมท.1 แต่หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเซ็นอนุมัติแล้ว ก็ไม่ถือเป็นการข้ามขั้นตอนแต่อย่างใด


พลเอกบุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เปิดเผยกับไอเอ็นเอ็น ว่ายังไม่รู้เรื่องการขอกลับเข้ารับราชการทหารของ บุตรชายคนเล็กรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ ทั้งนี้ เงื่อนไขการขอกลับเข้ารับราชการมีความซับซ้อนทางกฏหมาย โดยขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนอย่างไรก็ตามแม้เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของข้าราชการประจำจะยังไม่ทราบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว และหากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เซ็นอนุมัติแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นการดำเนินการที่ข้ามขั้นตอนแต่อย่างใด

ร้อยตรีดวง อยู่บำรุง ตกเป็นผู้ต้องหาในคดี ฆ่าดาบยิ้ม ดต.สุวิชัย รอดวิมุติ เมื่อปลายปี 2544 และศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2547 โดยอัยการไม่ยื่นอุทธรณ์

ด้าน พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ รองโฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุยังไม่ทราบรายละเอียด แต่เป็นสิทธิตามปกติของข้าราชการที่ถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน มีสิทธิกลับเข้ารับราชการได้ หากคดีความสิ้นสุดและไม่พบว่ามีความผิด ซึ่งโดยสามัญสำนึก การขอกลับเข้ารับราชการจะต้องให้คดีถึงที่สุดจริง ๆ และก่อนที่กระทรวงกลาโหมจะพิจารณาเรื่องใด จะมีฝ่ายกฎหมายและกรมพระธรรมนูญดูอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มาจากพลเรือน เท่าที่ตนทราบจะยิ่งรอบคอบมากกว่ามาจากทหาร จะกลั่นกรองอย่างมาก เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด หรือเกิดน้อยที่สุด ส่วนเหตุผลให้กลับเข้ารับราชการจะพิจารณาตามความรู้สึกไม่ได้ สมมติว่าคน ๆ นั้นอาจจะเคยมีชื่อเกี่ยวข้องในคดี จนเป็นข่าวใหญ่โตทางสื่อ แต่ข้อเท็จจริงก็คือข้อเท็จจริง

อย่างไรก็ตามทางด้าน นางสุพัตรา รอดวิมุติ ภรรยา ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุต ตำรวจกองปราบปราม หรือ "ดาบยิ้ม" เปิดเผยสำนักข่าว ไอเอ็นเอ็น ภายหลังจากรับทราบข่าวว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ เซ็นหนังสือคืนตำแหน่ง ร้อยตรี ให้กับ นายดวง อยู่บำรุง ว่าเพิ่งทราบข่าวเช่นกัน จะมีการคืนตำแหน่งให้ ซึ่งในส่วนตัวก็ไม่ทราบจะทำอย่างไรเหมือนกัน คงได้แต่เก็บความรู้สึกอัดอั้นต่างๆ ไว้ และที่ผ่านมามีโอกาสก็ได้คุยกับลูกชายว่า ให้ตั้งใจเรียน เพราะเราสู้อำนาจเงินและบารมีของเขาไม่ได้