สมัครยันแก้ รธน.ไม่หนียุบพรรค หวังพึ่งศาลฎีกาตัดสิน

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

กล่าวในรายการ'สนทนาประสาสมัคร' เรื่อง'รัฐธรรมนูญกินไม่ได้ ทาไม่ได้ แต่เป็นหัวใจของการปกครอง เพระามีคนผูกจึงต้องมีการแก้' ว่า คอลัมนิสต์หลายคนเขียนโจมตีว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ทำอะไร ตั้งหน้าตั้งตาแก้รัฐธรรมนูญอย่างเดียว แสดงให้เห็นว่าคนเขียนตั้งใจตำหนิการแก้รัฐธรรมนูญ ถ้ามีความคิดจะเห็นว่า งานนี้เป็นของฝ่ายสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยฝ่ายบริหารหรือที่เรียกว่าคณะรัฐมนตรี(ครม.) เอื้อเฟื้อเล็กน้อยเท่านั้น เช่น นัดหัวหน้าพรรคมาคุยให้ลงตัว อย่างไรก็ตาม การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องมีเหตุ ไม่ใช่อยู่ดีๆจะคิดแก้

'คือคนเรามันประหลาดตรงนี้ คือเมื่อไม่นานมานี้ วันที่ 19 กันยายน 2549 เขามีการยึดอำนาจในบ้านเมืองนี้ และคนที่ยึดอำนาจนี้เขาฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งทั้งฉบับ และร่างรัฐธรรมนูญใหม่ขึ้นมา 39 มาตรา ไม่มีใครว่าเลย ทนอยู่กันได้ นักวิชาการ นักอะไร คนเขียนคอลัมน์หนังสือพิมพ์ แหม ผมจะใช้สำนวนแบบผม เดี๋ยวจะว่าผมอีกว่าพูดจาหยาบคาย ผมไม่ใช้หรอก แต่จะอธิบายให้ฟังหน่อยว่า คำที่อยากจะใช้จริงๆ คือว่าตอนนั้นไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ไม่มาทักไม่มาท้วง ไม่มาแสดงความคิดเห็นเลย ปล่อยให้เขาทำตามใจชอบ ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งทั้งฉบับ อ้างว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ลงพระปรมาภิไธย แล้วคนที่พูดไม่คิด ว่าที่ฉีกทิ้งไปนั้นก็ลงพระปรมาภิไธย' นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายสมัคร กล่าวเพิ่มเติมว่า
 
การแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 309 นั้น ไม่ได้ช่วยให้หนีคดียุบพรรคได้ เพราะต้องถูกตีความว่ามีผลย้อนหลังหรือไม่ ทั้งนี้หากไม่มีเรื่องยุบพรรค คงไม่มีการคิดแก้ไข หากจะถูกพรรคและรัฐบาลนี้จะอยู่ไม่ยืด จึงต้องแก้ไข ส่วนมาตรา 237 ต้องแก้เพื่อคนข้างหน้า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เติมวรรค 2 เพื่อฆ่าพรรคการเมืองใหม่ที่จะเกิด โดยเล่นงานที่ตัวกรรมการบริหารพรรค ซึ่งตนหวังพึ่งศาลฎีกา แผนกคดีอาญาทางการเมืองต่อไป

'มีพยาน 10 คน 9 คนเขาบอกว่าเขาถูกหลอกมา ปรากฎว่าคนเดียวเท่านั้นที่ไปเก็บกักเขาอยู่ คนเดียวใช้การ ทั้งนี้ก็เชี่อคนเดียว อีกข้าง 9 คนไม่เชื่อไม่ฟัง ไม่รับคำให้การ ได้ไง นี่โชคดีได้ขึ้นศาลฏีกา และพิจารณากันในศาล นำสืบได้หมดเลย ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง 6 เดือน ใครทำอะไร อย่างไร ใครย้ายใครไปดักหน้าอย่างไร และจะต้องต้อนคนนี้ให้เข้ากรงได้อย่างไร เขียนกฎหมายเปิดช่องไว้เลย เขียนรัฐธรรมนูญเปิดช่องไว้ แล้วไปต้อน ทั้งขวากทั้งหนาม' นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายสมัคร กล่าวเพิ่มเติมว่า

ความหวังของตนอยู่ที่ศาลฏีกา ถ้าศาลฎีกาเห็นแตกต่าง รัฐบาลชุดนี้ก็จะบริหารงานต่อไป แต่ถ้าเห็นเหมือนกระบวนการยุติธรรมชั้นล่างก็ยกไป จึงเป็นความคิดว่าทำไมต้องแก้รัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่พรรคพลังประชาชนประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ตนทำงานอยู่ที่ทำเนียบ ซึ่งมารู้ผลภายหลัง ซึ่งตนไม่เห็นด้วย เช่นเดียวกับนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ แต่ก็เป็นเสียงข้างน้อย

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์