นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าววันนี้ (18 เม.ย.)
ถึงกรณีที่รัฐบาลจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้องค์กรอิสระปัจจุบัน ที่มีที่มาไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญปี 2540 ให้พ้นวาระ และต้องสรรหาใหม่ภายใน 180 วัน หลังรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขมีผลบังคับใช้ ซึ่งรวมถึง กกต.ด้วย ว่า กกต.ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง พร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย และเชื่อว่า กกต.ชุดใหม่จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ทันที เพราะ กกต.ชุดนี้ปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมาย
“เชื่อว่า กกต.ชุดใหม่จะสามารถพิจารณาสำนวนต่าง ๆ ได้ทันที ไม่คิดว่าจะกระทบต่อคดีที่ กกต.ชุดนี้พิจารณาไว้ รวมทั้งคดีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน เพราะ กกต.ชุดนี้ทำตามขั้นตอนกฎหมาย และจะไม่หยุดทำงาน จนกว่าจะมี กกต.ชุดใหม่เข้ามา” นางสดศรี กล่าว
นางสดศรี กล่าวอีกว่า กกต.ชุดนี้มาจากรัฐธรรมนูญปี 2540 ไม่ได้มาจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)
เพราะที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา และ ส.ว.ที่มาจากประชาชน เป็นผู้คัดเลือกเข้ามา แต่ระหว่างรอพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เกิดการปฏิวัติขึ้น ขณะเดียวกัน ก็จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่น คมช.จึงนำ กกต.ชุดที่ผ่านการสรรหาแล้ว เข้ามาปฏิบัติหน้าที่
“การทำหน้าที่ที่ผ่านมา เราทำด้วยความเป็นกลาง การเมืองไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงได้ ซึ่งเราทำตามกฎหมาย ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด และประชาชนก็ทราบดีว่า เราปฏิบัติหน้าที่อย่างไร แต่ปัญหาขณะนี้ดูเหมือนว่าจะเกิดจากปัญหาการเมือง และทำให้ กกต.ไม่สามารถอยู่ตรงจุดไหนได้ แม้แต่ตรงกลาง ดังนั้น เราคิดว่า หากผู้มีอำนาจแก้ไขอย่างไร เราก็พร้อมปฏิบัติตาม ยิ่งแก้ให้เร็วยิ่งดี จะได้พ้นวาระเร็ว ๆ” นางสดศรี กล่าว
นางสดศรี กล่าวด้วยว่า กกต.ทั้ง 5 คน จะไม่มีการเรียกร้องใด ๆ
รวมทั้งไม่มี กกต.คนไหนคิดจะสมัครกลับเข้ามาเป็นอีก เพราะกฎหมายปัจจุบันกำหนดให้อยู่ได้แค่วาระเดียว และการทำหน้าที่มา 2 ปีกว่า รู้สึกเหนื่อยใจมาก จึงรู้สึกขอบคุณรัฐบาลที่จะให้เราพ้นไปภายใน 180 วัน เวลานี้ทุกคนก็เตรียมเก็บของกันแล้ว ไม่มีปัญหา และที่พูดก็ไม่ได้เป็นการประชด
“เวลานี้อายุ 60 กว่าปีแล้ว รู้สึกเหนื่อย ต้องการให้รัฐบาลกำหนดให้พ้นจากตำแหน่งให้เร็ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี จะไปทำอะไรตามประสาคนแก่ ตามปัจฉิมวัย และยืนยันว่าจะไม่เล่นการเมือง” นางสดศรี กล่าว 
ด้าน นายสุเมธ อุปนิสากร กกต. กล่าวว่า
พร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย และเชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่กระทบต่อสำนวนคดีนายยงยุทธ เพราะอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลฎีกา ซึ่งเป็นเอกสารที่ตายตัว แก้ไขไม่ได้ รัฐบาลคงไม่มีอำนาจในการแก้ไขเอกสารสำนวน และสำนวนดังกล่าว กกต.ลงมติไปแล้ว พยานต่าง ๆ ครบถ้วน
“ผมเชื่อว่า หาก กกต.ชุดนี้หมดวาระ กกต.ชุดใหม่สามารถเข้ามาปฏิบัติหน้าที่และสานต่อได้ และเชื่อว่า หากมีการเลือก กกต.ชุดใหม่มา ก็คงจะเลือกคนดี มีความรู้ ความสามารถ เข้ามาทำหน้าที่ อย่าเพิ่งไปมองเขาในแง่ร้าย ควรมองในแง่ดี เราอย่าเพิ่งไปคิด ควรให้โอกาส” นายสุเมธ กล่าว
ขณะที่นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. กล่าวว่า
ไม่ต้องการแสดงความคิดเห็น เพราะมีส่วนได้ส่วนเสีย อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง และประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่า กกต.ทำงานดีสมกับตำแหน่งหรือไม่ ที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่ที่มีอยู่ และทำอย่างดีที่สุด ไม่มีการเมืองเข้ามาแทรกแซง กกต. และ กกต.ชุดนี้ไม่ได้มาจาก คมช.
“ผมเคารพตัวเอง และมีศักดิ์ศรี ให้เกียรติในดุลพินิจ ซึ่งกันและกัน และไม่อยากมองว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องนี้ มาจากการพิจารณายุบพรรคของ กกต. หรือคดีของนายยงยุทธ” นายสมชัย กล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
