ทักษิณ เตรียมตั้งกองทุนแสนล้านบาท

เมื่อวันที่ 16 เม.ย. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า
 
พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหลังการประชุมผู้นำทางธุรกิจ ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่า มีแนวคิดที่จะตั้งกองทุนตราสารทุนของเอกชนขึ้นมาบริษัทหนึ่ง โดยมีกองทุนสูงถึง 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 155,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินดังกล่าวไปลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่างๆในเอเชีย ที่ถึงแม้การปันผลจากกองทุนประเภท นี้ไม่แน่นอน แต่จะมีอัตราสูงกว่าอัตราปันผลจากกองทุนตราสารหนี้ หากทรัพย์สินของตนและครอบครัว เกือบ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 62,000 ล้านบาท ได้รับคืนทั้งหมดจากรัฐบาลไทยที่ยึดไว้ ในส่วนของคดีที่ถูกกล่าวหาเรื่องฉ้อโกงภาษี

ชวนเพื่อนมหาเศรษฐีลงขัน 7,750 ล้าน

“ตอนนี้ได้ชักชวนเพื่อนฝูง 20 คน ช่วยกันลงขันตั้งกองทุนดังกล่าวคนละ 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 7,750 ล้านบาท เราต้องรื้อฟื้นความเชื่อมั่นให้ กับนักลงทุนทั้งหลาย หลังเหตุการณ์ปฏิวัติในไทย เพราะความมั่นใจเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ การเมืองภายในประเทศต้องมีเสถียรภาพมากกว่านี้ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ร่างขึ้นโดยกองทัพทหารช่วงที่ขึ้นปกครองประเทศก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนแก้ไข เพราะเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเรียกความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติกลับคืนมามากขึ้น”

อดีตนายกฯของไทยกล่าวและว่า

เคยกล่าวอ้างก่อนหน้านี้แล้วว่า จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ในไทยอีกแล้ว และย้ำคำสัญญาหลายครั้งว่า จะใช้ทรัพย์สินเงินทองที่มีอยู่ และใช้ความสัมพันธ์แนบแน่นที่มีกับเพื่อนๆนักธุรกิจชาวต่างชาติ ชักชวนให้หันมาลงทุนธุรกิจในเมืองไทยให้ได้

ผจก.ตลาดหุ้นหนุน “ทักษิณ” ตั้งกองทุน

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีแนวคิดจะลงขันลงเงินกับกลุ่มเพื่อนนักธุรกิจชาวต่างชาติ ตั้งกองทุนเพื่อลงทุนในหุ้นของบริษัทในเอเชีย มูลค่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 155,000 ล้านบาท ว่า หากสามารถตั้งกองทุนได้ขนาดใหญ่เช่นนั้นจริง ก็จะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นเอเชียรวมทั้งไทย เพราะตลาดหุ้นไทยเป็น 1 ในตลาดหุ้นเอเชียที่มีความน่าสนใจลงทุนเช่นกัน โดยเฉพาะหากเป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนระยะยาว จะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดหุ้น เนื่องจากจะทำให้เกิดความสมดุลกับกองทุนเก็งกำไรต่างชาติ (เฮดจ์ฟันด์) ที่มีจำนวนมากขณะนี้ ที่มักเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นในลักษณะเข้าเร็วออกเร็ว ทำให้ตลาดมีความผันผวน

“ไม่ว่าจะเป็นกองทุนอะไรที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเป้าหมาย ลงทุนในไทยหรือเอเชีย หากเป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนระยะยาวจะเกิดผลดีต่อตลาดหุ้นทั้งสิ้น ซึ่งการที่ตลาด หลักทรัพย์ได้มีแผนการออกไปโรดโชว์นำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจและการลงทุนในตลาดหุ้นไทยให้กับนักลงทุนต่างชาติ ก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อออกไปชวนให้มีการตั้งกองทุน เพื่อเข้ามาลงทุนระยะยาวในตลาดหุ้นไทยทุกครั้ง” ผู้จัด การตลาดหุ้นกล่าว