อภิสิทธิ์ เตือนระวังปัญหาลุกลาม

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองต่อจากนี้ว่า

ปัญหาการเมืองจะลุกลามหรือไม่ ก็ต้องย้อนกลับไปดูว่า เมื่อไรก็ตามที่รัฐบาลหยิบยกประเด็นซึ่งมีข้อโต้แย้งมาก และแสดงท่าทีว่าตัวเองมีเสียงข้างมาก สามารถผลักดันได้โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร ก็จะเกิดปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรุนแรงทันที เงื่อนไขที่จุดประเด็นมากในขณะนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องรัฐธรรมนูญ ได้ย้ำว่าสังคมยอมรับได้กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และไม่คิดว่าจะมีใครที่จะบอกว่าไม่ยอมให้แก้ แต่ว่าการแก้ไข ถ้ารัฐบาลจะแสดงท่าทีว่า เป็นเรื่องที่สังคมต้องทำร่วมกัน และดำเนินการตามแนวคิดนี้ เชื่อว่าบรรยากาศจะคลี่คลาย และจะทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีโอกาสสำเร็จมากขึ้น แต่ถ้าต้องการที่จะทำทุกอย่างเอง กำหนดว่าต้องเสร็จภายในระยะเวลาเท่านั้นเท่านี้ โดยคิดว่ามีเสียงข้างมากก็ทำเช่นนี้ได้ แบบนี้เป็นการเสี่ยงต่อการเกิดความวุ่นวาย สำหรับการเมืองจะมีปัญหาหรือไม่ ทั้งหมดอยู่ที่รัฐบาล ถ้ายอมรับหลักการของการรับฟัง การมีส่วนร่วมของฝ่ายอื่นๆ ปัญหาจะไม่มี  

สำหรับแนวคิดที่รัฐบาลจะผลักดันแก้ไขรัฐธรรม-นูญในมาตรา 237 และ 309 นั้น

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าแก้ 237 และ 309 ที่พูดถึงไม่ได้พูดถึงหลักการเท่ากับการมีเป้าหมาย ถ้าเริ่มต้นในการพูดหลักการว่า 237 และ 309 เขียนไว้เพราะอะไร เขียนว่าอย่างไร ไม่ดีเพราะ อะไร จะหาจุดเหมาะสมตรงไหน เชื่อว่าจะสามารถทำได้ คุยกันได้ แต่ถ้าบอกว่า 237 ต้องแก้อย่างนี้และ 309 ต้องยกเลิก เพื่อจะล้มคดี อย่างนี้คุยกันไม่ได้ ไม่ควรที่จะเอาประเด็นของตัวเองเป็นตัวตั้ง ต้องเอาความเป็นจริงของ รัฐธรรมนูญเป็นตัวตั้ง ซึ่งตนไม่ปฏิเสธที่จะคุยในสองมาตรานี้ แต่ต้องไม่ใช่ในกรอบของการล้มคดีว่าจะทำอย่างไร 

“เราจะคุยกันไม่ได้ถ้ามีการตั้งธงไว้อย่างเดียวว่าต้องการให้ผลเป็นอย่างนี้ โดยจริงแล้วไม่มีความสนใจว่าหลักการเขียนรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น มาตรา 237 ไม่ได้มีแค่ขาวกับดำ หรือมีกับไม่มี แต่ยังมีสีเทาตรงกลางว่า มีการเปิดโอกาสให้พิสูจน์หรือมีข้อยกเว้นหรือไม่ ซึ่งถ้าพูดกันด้วยเหตุและผลอาจจะมีคำตอบที่ทุกฝ่ายยอมรับ” นายอภิสิทธิ์กล่าว