ผัน ชี้เรื่อง สุชน ศาล รธน.ไม่ยุ่ง - ยัน 3 ศาลเป็นกลางแก้วิกฤตชาติ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2549 19:44 น.

ผัน ระบุ ที่ประชุมศาล รธน.วันนี้ พิจารณาเรื่องรับไม่รับคำร้องยุบ ปชป.คดีเสนอมาตรา 7 ไม่ใช่กรณียุบ ทรท.โยนเรื่อง สุชน สรรหา กกต.เป็นหน้าที่ศาลฎีกา รับเห็นด้วยเรื่องภาพลักษณ์ 3 ศาล แก้ปัญหาการเมือง ย้ำยึดความเป็นกลางในการพิจารณาตลอด ไม่ได้กดดันข้างใดข้างหนึ่ง

วันนี้ (24 พ.ค.) นายผัน จันทรปาน ตุลาการผู้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ในการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ ที่ประชุมคณะตุลาการจะพิจารณา ว่า จะรับคำร้องกรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ประธานเครือข่ายพลังประชาชนเพื่อประเทศไทย อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาที่ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 18 พ.ค.และขอให้พิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์ ไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า คณะตุลาการจะพิจารณาคำร้องยุบพรรคไทยรักไทย อาจเป็นความคลาดเคลื่อนในการสื่อสารก็ได้ เพราะที่เกี่ยวกับการขอให้ยุบพรรคไทยรักไทยขณะนี้ ยังไม่มีการส่งมาให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา โดยเฉพาะตนก็ยังไม่ได้รับการประสานจากอัยการสูงสุดเลย

ทั้งนี้ ประเด็นที่ นายสุรพงษ์ ไปยื่นเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์ การที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ปราศรัยที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 24 มี.ค.และออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนขอพระราชทานนายกฯโดยอาศัยมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญเข้าข่ายการกระทำผิดตามมาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญที่บัญญัติไว้ว่า บุคคลจะใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญมิได้ ซึ่งเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญสามารถพิจารณายุบพรรคได้

ทั้งนี้ ตุลาการผู้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่ นายสุชน ชาลีเครือ รักษาการประธานวุฒิสภา เตรียมส่งเรื่องให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ดำเนินการส่งรายชื่อบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งเป็น กกต.ในตำแหน่งที่ว่างตามรัฐธรรมนูญมาตรา 138(3) ว่า ได้รับทราบข่าวผ่านทางสื่อมวลชน และที่ผ่านมา หลังจากที่ นายสุชน ได้โทรมาหารือ อย่างไม่เป็นทางการ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อ หรือประสาน จากนายสุชน เกี่ยวกับเรื่องนี้อีกเลย จึงไม่แน่ใจว่า นายสุชน จะมีการดำเนินการตามที่เป็นข่าวจริงหรือไม่ หากมีการดำเนินการจริง ก็จะเป็นหน้าที่ของ เลขาธิการศาลฎีกา จะเป็นผู้พิจารณาในเรื่องดังกล่าวเอง ในส่วนของศาลรัฐธรรมนูญนั้นคงไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม การประชุมหารือของประมุข 3 ศาล ที่มีกระแสข่าวว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งในเร็วๆ นี้ และจะมีการกำหนดท่าทีต่อประเด็นดังกล่าวนั้น ขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการประสานจากประธานศาลฎีกา และศาลปกครองสูงสุด แต่อย่างใด จึงยังไม่รู้ว่ากรอบการหารือรอบใหม่จะเป็นเรื่องอะไร และวันใด อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้การกำหนดท่าทีในเรื่องดังกล่าวของประมุข 3 ศาลคิดว่ายังไม่มี

ส่วนตัวคิดว่า เรื่องนี้คงไม่มีอะไร และอยากจะให้ทุกคนปล่อยให้เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นเดินไปตามกระบวนการของมันเอง ไม่อยากจะให้คนนอกเข้าไปยุ่งเกี่ยวมากนัก รวมถึงไม่อยากจะให้ไปพูดกันมาก ซึ่งในขณะนี้ มันก็ไม่มีเรื่องอะไร ทุกอย่างก็ดีอยู่แล้ว ก็ไม่ควรจะทำให้มันมีปัญหา เพื่อให้กระบวนการต่างๆ มันเดินต่อไปได้ นายผัน กล่าว

ส่วนที่มีนักวิชาการด้านกฎหมายของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความเป็นห่วงต่อการแสดงออกของศาลนั้น ตนก็เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว และที่ผ่านมา การประชุมของประมุข 3 ศาลเกี่ยวกับปัญหาวิกฤตทางการเมืองทุกครั้ง ซึ่งที่ประชุมประมุข 3 ศาล ต่างก็ให้ความสำคัญในเรื่องความเป็นกลาง อย่างมาก และเราก็ยึดถือเรื่องนี้มาตลอด

เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวของศาลช่วงที่ผ่านมา ถือว่าเป็นการกดดันให้กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหรือไม่ นายผัน กล่าวว่า สิ่งที่เป็นข้อสรุปในการหารือ ถือว่าเป็นข้อยุติ ที่ต้องการให้ปัญหาที่เกิดขึ้น สามารถคลี่คลายและเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นการกดดันกับฝ่ายใด ส่วนการแถลงผลการประชุมทุกครั้ง ก็เพื่อแจ้งให้กับสังคมรับทราบว่า ความคิดเห็นของประมุข 3 ศาลที่ได้รับมอบหมายภารกิจมีความคืบหน้าไปอย่างไรบ้าง

ส่วนที่มีการมองว่า การเคลื่อนไหวของนายสุชนในเรื่องนี้ดูเหมือนที่ต้องการที่จะให้เกิดปัญหาความขัดแย้งทางข้อกฎหมาย เพื่อที่จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นดังกล่าว นายผัน กล่าวว่า ในขณะนี้ ยังไม่มีอะไร และตนก็ไม่อยากให้มีปัญหาอะไร แต่หากปัญหาดังกล่าวเข้าข่ายที่จะนำเข้าสู่กระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ ขบวนการ และขั้นตอนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญก็มีระเบียบถือว่าเป็นข้อกฎหมายที่จะต้องดำเนินการอยู่แล้ว