ถอดรหัส´ประเทศไทย´ / เปลวสีเงิน

24 พฤษภาคม 2549 กองบรรณาธิการ

"เว้นวรรค" พ้นไปจากทำเนียบฯ พ้นไปจากตำแหน่งนายกฯ นั่นก็เป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองดีอยู่แล้ว ก็เห็นมั้ยล่ะ..กลับมาวันเดียว ที่ภาคใต้ก็ฆ่ากันเหมือนนรกแตก

ที่ภาคเหนือก็ถูกน้ำป่าถล่มราบ "เมืองลับแล" ถูกน้ำกวาด "แลลับ" ไปเลย!

แพร่-น่าน-พะเยา-สุโขทัย-พิษณุโลก โดยเฉพาะ "อุตรดิตถ์" เหมือนถูก "สึนามิจำแลง" ถล่มก็ปานนั้น

ลำพังน้ำป่าหลากก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว ใครที่ไม่เคยเจอด้วยตัวเองอาจไม่ซึ้งถึงสรรพคุณ แต่คนที่เคยถูกมาบ้าง พอบอกว่า "น้ำป่ามาแล้ว.."

เผลอๆ ช็อกตายก่อน!

แต่น้ำป่าครั้งนี้ จะว่า "ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย" ก็ว่าได้ คือมันเพิ่มพลังทำลายล้างให้กับความรุนแรงขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะมีท่อนซุงทั้งเล็ก-ทั้งใหญ่หลากมากับกระแสน้ำด้วย

ฉะนั้น อะไรที่ขวางหน้า ท่อนซุงที่หลากมาจะกลายเป็น "ระเบิดทำลาย" ไปทันที!

ยังคงจำกันได้กระมัง เมื่อครั้งน้ำป่าหลากถล่มใส่ที่จังหวัดแพร่หลายปีก่อน..พูดก็เหมือนซ้ำเติมกัน แต่ถ้าไม่พูดก็เหมือนสนับสนุนพวก "เห็นแก่ตัว" ให้ก่อกรรมทำชั่วไปเรื่อยๆ

"น้ำป่าหลาก" นอกจากเป็นวาระของธรรมชาติแล้ว ส่วนหนึ่งมนุษย์เห็นแก่ตัวพวกนี้แหละ ช่วยเสริมวาระธรรมชาติให้กลายเป็น "ภัยร้ายแรง" จะพูดว่ากรรมสนองกรรม หรือธรรมชาติลงโทษมนุษย์ ก็ครือๆ กัน

คือที่เหนือ โดยเฉพาะแพร่ มีการลักลอบโค่นตัดต้นไม้ทำลายป่า โดยเฉพาะไม้ซุงกันมากเหลือเกิน มากจนกระทั่งกลายเป็นเรื่องปกติของบ้านเมืองไป

จากน้ำหลากที่วังชิ้นครั้งนั้น ก็นึกว่าจะ "ได้สติ" กันขึ้นมาบ้าง เพราะครั้งนั้นท่อนซุงที่ลักซ่อน-ลักตัดมันหลากมากับน้ำ และซุงนั่นแหละกระทุ้ง-กระแทกบ้านช่องผู้คนล้มหายตายยับ!

มาคราวนี้ คืนวานซืนนี้ ที่อำเภอเมืองฯ อำเภอลับแล อำเภอท่าปลา อุตรดิตถ์ "หนักหนา" กว่าเพื่อน ชนิดไฟฟ้า-ประปาต้องตัด ต้องปิดมืดมิดกันไปทั้งเมือง

ก็ด้วยฤทธิ์น้ำผสมซุงเป็นตัวระเบิดทำลาย เหมือนหนังม้วนเดิม!

อีกกี่ครั้งกันถึงจะเข็ด จะหลาบ จะจำว่า มนุษย์กับป่าต้องอยู่แบบเกื้อกูลกัน และต้องจำคำที่ท่าน "มหาตมะ คานธี" บอกไว้ด้วยว่า

"อันทรัพยากรธรรมชาตินั้น มีพอเพียงกับมนุษย์ทุกคน แต่จะไม่พอเพียงเลย ถ้ามนุษย์บริโภคทรัพยากรธรรมชาติกันด้วยความโลภ และความเห็นแก่ตัว"

ครับ..ถ้ามนุษย์รักษาสมดุลป่า ป่าก็จะรักษาสมดุลมนุษย์

ถ้ามนุษย์โค่นทำลายป่า ป่าก็จะโค่นทำลายมนุษย์

นี่คือตรรกะระหว่าง "ชีวิตกับธรรมชาติ" โดยแท้!

สมัยผมทำข่าว เคยไปสัมผัสแถวๆ อ.สวนผึ้ง ราชบุรี ท่านเชื่อมั้ย..กอไผ่ขนาดสิบ-ยี่สิบคนก็โอบไม่รอบ (เพราะกลัวหนามตำน่ะ) ต่อให้ใช้เวลาซักเดือนช่วยกันขุดรากถอนโคน..ก็ไม่มีทางทำได้

แต่พอน้ำป่าหลากจากเทือกเขามาพรวดเดียวเท่านั้นแหละ เสียงอื้ออึงปานฟ้าถล่ม แผ่นดินทลาย เหมือนช้างร้อยโขลงย่ำลงมาพร้อมๆ กัน ใครได้ยินเป็นต้องตื่นตระหนกขี้-เยี่ยวราด กลัวจนหัวใจแทบกระดอนออกทางปาก..

และพริบตาเดียว!

ไผ่ทั้งกอ "ถอนราก-ถอนโคน" ลอยละลิ่ว-ปลิวละล่อง จากที่หนึ่งไปอยู่อีกที่หนึ่ง คล้ายคนกินส้มแล้วถุยเม็ดกระเด็นจากปากทิ้งไปงั้นแหละ

ความแรงและเร็วของกระแสน้ำหลาก มันคมยิ่งกว่าเลื่อยยนต์ยักษ์ คมยิ่งกว่าดาบเพชฌฆาต และทั้งคม-ทั้งเร็วยิ่งกว่าคมดาบของ..โป้วอั้งเสาะ!

สิ่งที่คม มักไม่หนา

ฉะนั้น วาสนาก็ดี ปริญญาก็ดี วีระชัยก็ดี กระทั่งทักษิณก็ดี

จึงหนักไปทาง "หนา" มากกว่าทาง "คม"

มีเรื่องคุยกันเล่นสนุกๆ นะครับ อย่าซีเรียส และอย่าทึกทักเป็นจริงเป็นจัง เด็กเขาปรินต์ข้อความหนึ่งจากคอมพิวเตอร์มาให้ผม เขาก็บอกอย่างที่ผมบอกท่านนี่แหละว่า..ให้อ่านเล่นสนุกๆ อย่าจริงจัง

แต่ผมเห็นว่าเข้าจังหวะตอนนี้พอดี ก็เลยจะนำมาให้ท่าน "อ่านเล่นๆ" บ้าง เขาจั่วหัวว่างี้ครับ

*****************************************

"28 August 2006" ปรากฎการณ์ "ขั้วแม่เหล็กโลกพลิก" เชื่อหรือไม่??? จากคุณ : ศรีวรุณะอิสโร

โหรโสรัจจะ พยากรณ์ดวงเมืองว่า

สิงหาคม หุ้นตกอย่างรุนแรง จะเกิดดีเปรสชั่นผ่านตอนเหนือของประเทศ น้ำป่าเริ่มไหลบ่าจากทางเหนือและอีสานลงมาทางใต้ ต่อเลยมาถึงกรุงเทพฯ เขื่อนทั้งเล็กและใหญ่จะพังทลาย เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัด พืชพันธุ์ธัญญาหารเสียหายยิ่งกว่าครั้งใด

กรุงเทพฯ ต้องจมอยู่ใต้บาดาลเป็นเวลายาวนาน

ปลายเดือน จะมีเรือชนกันเสียหายมากที่อ่าวไทย เรือบรรทุกน้ำมันเสียหายที่สุด น้ำทะเลจะเต็มไปด้วยคราบน้ำมันลอยเป็นแพทั่วไป

ปลายเดือน สนามบินแห่งใหม่จะถูกก่อวินาศกรรม

ไม่เท่านั้น แม้แต่ใน BIBLE CODE ก็ถูกถอดรหัสออกมา ซึ่งเกี่ยวกับประเทศไทยว่า "จะถูกทำลายล้างในวันที่ 28 August 2006" ดังในภาพประกอบข้างล่างนี้

...................

หลายท่านอาจจะดูเป็นเรื่องเหลวไหล แต่..คุณรู้มั้ยว่า

"ทำไมพม่าจึงย้ายเมืองหลวงจากย่างกุ้งไปเมืองเปียงมะนา?"

ถ้าคุณรู้..คุณก็จะตอบได้ว่า

"ทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ และเครือญาติจึงรีบเร่งขายหุ้นชินคอร์ป ทั้งที่เป็นเรื่อง Sensitive ทางการเมือง?"

ที่รีบขายก็เพราะ โหรพม่าตาบอดที่ท่านและคุณหญิงเชื่อเข้ากระดูกดำ ก็ทำนายได้เหมือนโหรโสรัจจะว่า "น้ำจะท่วมกรุงเทพฯ" และพื้นที่ ๑๓ จังหวัด โดยรอบอ่าวไทย

แล้วทำไมพวกท่านจึงคิดเอาตัวรอดแต่พอตัว โดยไม่บอกความจริงกับประชาชน? เรื่องนี้ไม่ใช่เพียงแค่คำทำนายของโหรเท่านั้น...

แต่เป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ และหลายประเทศให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก โดยเฉพาะองค์การอวกาศ NASA และ ESA หรือสถาบัน HYDERABAD ของอินเดีย นั่นคือ ความจริงที่ว่า

โลกกำลังเผชิญกับสภาวะที่เรียกว่า "ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกตัว" เนื่องจากถูกเหนี่ยวนำจากการพลิกขั้วแม่เหล็กของดวงอาทิตย์

เรื่องดังกล่าว..ผมได้นำกราบเรียนท่านรัฐมนตรี....ไปตั้งแต่ปีที่แล้ว คำตอบที่ได้รับคือ

"ถ้าเป็นอย่างที่น้องว่า พี่ก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้แล้ว!"

จนกระทั่ง ผมได้นำเรื่องนี้เข้าเสนอต่อคณะกรรมาธิการ....เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๔๘ ซึ่งมีทั้งอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี และผู้แทนกรมต่างๆ มาชี้แจง แต่คำตอบที่ได้จากอธิบดีทั้งหลายคือ

"เรื่องนี้ไม่อยู่ในอำนาจที่จะเปิดเผย เพราะอาจทำให้เกิดการตื่นตระหนก"

เอวัง...ตัวใครก็ตัวมันครับ เพราะถ้าใครสังเกตให้ดีว่า หลังสึนามิ ๒๖ ธ.ค.๔๗ โลกของเราได้เผชิญเรื่องร้ายๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในรอบ ๒๐ ปี ๓๐ ปี ๕๐ ปี อย่างไรบ้าง ถี่แค่ไหน?

นั่นคือ สัญญาณเตือนจากธรรมชาติ และล้วนเป็นผลข้างเคียงจากปรากฏการณ์ "ขั้วแม่เหล็กโลกพลิก" ทั้งสิ้น

..................

จากคุณ : ศรีวรุณะอิสโร (๔ มี.ค.๔๙ ๑๐:๑๙:๓๑)

*********************************************

ครับ..เป็นไงครับ ผมว่าสนุกดีออก ผมไม่มีความรู้ที่จะปฏิเสธ และก็ไม่มีความเข้าใจที่จะยอมรับ จึงอ่านแบบ "รู้รอบขอบจักรวาล ดีกว่าจมบาดาลอยู่คนเดียว"

ไม่ต้องไปตื่นตระหนก ไม่ต้องไปเชื่อ หรือไม่ต้องเชื่อ ปกติใช้ชีวิตแบบไหน อย่างไร ก็ให้เป็นแบบนั้น อย่างนั้นไปเถอะ

โหรโสรัจจะ นั้น ผมชอบอ่านที่ท่านทำนาย เพราะซาดิสม์ดี แต่ละปี แต่ละเดือนที่ทำนาย ถ้าเป็นจริงตามนั้น ป่านนี้ไม่มีโลกใบนี้ และทั้งไม่มีประเทศไทยเหลือให้โหรมานั่งทำนายอยู่แล้วครับ

ที่เชื่อมโยงไปถึงนายกฯ ทักษิณกับการขายหุ้น และไปโทษท่านว่า "รู้แล้วไม่บอก" นั้น ผมขอเถียงแทนท่านนายกฯ หน่อยเถอะว่า มันพูดจากันเกินเลย และไร้รากฐานอันควรแก่การเชื่อถือมากไปหน่อย!

ส่วนเรื่องน้ำท่วมอันสืบเนื่องมาจากภาวะธรรมชาติที่ว่าด้วย "ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกตัว" นั้น ผมว่าน่ารับฟัง และน่าใคร่ครวญ

เรื่องภัยจากน้ำนี้ ดูเหมือนผมก็เคยนำมาคุย มาเตือนกันตรงนี้ไปบ้างแล้ว ถ้าตัดเรื่องนายกฯ ออกไป และตัดฝอยคำทำนายชนิดบู๊สะบั้นหั่นแหลกของโหรโสรัจจะออกไปบ้าง "กรุงเทพฯ จมบาดาล" ไม่ใช่คำทำนายที่เกินเลย!