เล็งสอบเด็กเสิร์ฟคดี การุณ

วานนี้ (4 เม.ย.)  ที่รัฐสภา พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง

กรณีการทะเลาะวิวาทระหว่างนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคพลังประชาชน กับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการดำเนินการสอบสวนกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้มี 3 พรรคการเมือง ส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็นกรรมการแล้ว 3 พรรคคือ พรรคพลังประชาชน ส่งนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคประชาธิปัตย์ ส่งนายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน ส่ง ม.ร.ว.กิติวัฒนา ไชยันต์ ปกมนตรี ส.ส.สัดส่วน  ได้สั่งให้ ผอ.สำนักรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ประสานไปยังพรรคที่เหลือให้ส่งชื่อมาโดยเร็ว จะได้เรียกประชุมทันต้นสัปดาห์หน้า ผู้สื่อข่าวถามว่า ม.ร.ว.กิติวัฒนาระบุว่า ได้ยินเสียงด่าทอในห้องอาหารจริง จะมีผลเสียต่อนายการุณหรือไม่

พ.อ.อภิวันท์ตอบว่า เข้าใจว่าเป็นการให้สัมภาษณ์ก่อนได้รับแต่งตั้งจากพรรค

แต่ขณะนี้กรรมการสอบสวนทุกคนต้องรักษามารยาท จึงควรงดให้สัมภาษณ์ จนกว่าจะได้ข้อสรุป อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้นจากกล้องวงจรปิด ไม่พบภาพเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ สามารถตรวจสอบพยานแวดล้อมอื่นได้อีก โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเด็กเสิร์ฟกาแฟบริเวณนั้น ซึ่งน่าจะมีน้ำหนักมากกว่าพยานบุคคลของพรรคประชาธิปัตย์ หรือพลังประชาชน

พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า ส่วนที่ระบุว่ามีการถ่ายคลิปวีดิโอของเหตุการณ์ไว้ได้นั้น ถ้าใครมีให้ส่งมายังคณะกรรมการจะได้ง่ายต่อการหาข้อเท็จจริง
 
ขณะนี้ยังคาดเดาไม่ได้จะสรุปผลได้ภายใน 30 วันหรือไม่ เพราะต้องสืบ พยานหลายปาก เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือว่าจะไม่เป็นมวยล้ม พ.อ.อภิวันท์ตอบว่า ตนมีศักดิ์ศรี วุฒิภาวะ และกรรมการที่แต่ละพรรคแต่งตั้งมาก็ล้วนมีวุฒิภาวะ ขอ ให้ความมั่นใจว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ทั้งนี้ ต้องหาข้อเท็จจริงให้ได้ก่อน จากนั้นจึงค่อยพิจารณาว่าจะไกล่เกลี่ยหรือหาบทลงโทษ ส่วน ส.ส.พลังประชาชนจะขู่เข้าชื่อถอดถอนนายสมเกียรติที่พูดจาท้าทายก่อนก็เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่ได้เป็นการท้าทาย การกระทบกระทั่งกันก็มีบ้าง เพราะมนุษย์ปุถุชนก็มีอารมณ์เป็นธรรมดา ซึ่งการสอบสวนจะใช้ประมวลจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรปี 2542 มาประกอบการพิจารณา  

ด้านนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคพลัง-ประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีการทะเลาะวิวาทระหว่างนายการุณ โหสกุล กับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ว่า

จากนี้ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรแล้ว หยุดให้สัมภาษณ์ เนื่องจากผู้ใหญ่ในพรรคขอไว้ พร้อมไปชี้แจงข้อกล่าวหาทุกอย่าง เรื่องจริงคือเรื่องจริง อะไรผิดก็ว่ากันไป เมื่อหยาบคายมาก่อนก็หยาบคายกลับไป เรื่องที่ไปถีบขอยืนยันไม่มีแน่ เห็นได้จากที่ได้ท้าพวกที่บอกเป็นพยานให้ไปสาบาน ไม่เห็นมีใครกล้าสาบานเลยว่า ถ้าไปถีบจริงขอให้ฉิบหาย ตายโหง ฟ้าผ่าตาย

ทั้งนี้ ถ้าผลสอบออกมาว่ามีการถีบจริง ลูกผู้ชายคนนี้จะลาออกจาก ส.ส.แน่นอน

แต่ถ้าไม่ผิดนายสมเกียรติจะรับผิดชอบโดยการลาออกหรือไม่ ส่วนกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องนี้มีการวางแผนมาก่อนนั้น ขอยืนยันไม่มีใครมาบงการอยู่เบื้องหลัง อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีคนโทรศัพท์เข้ามาให้กำลังใจจำนวนมาก แต่ก็มีคนโทรศัพท์เข้ามาด่าด้วยถ้อยคำรุนแรงนับร้อยคน