เมินเสียงเตือนอานันท์-ประเวศ นายกฯยันแก้รธน.เพื่ออนาคต

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าววานนี้ (4 เม.ย.)

ระหว่างการพบสื่อประจำทำเนียบรัฐบาล กรณีนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี และ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เลือกตั้งเสร็จแล้วรัฐบาลจะลุกขึ้นมาเสนอแก้ไข แต่เป็นเพราะก่อนที่จะมีรัฐบาลมีการปฏิวัติยึดอำนาจ เมื่อวันที่
19 ก.ย.2549 มีการฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง และตั้งคนของตัวเองขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญ ตามใจที่ต้องการ ช่วงนั้นไม่มีใครคัดค้าน เพราะเป็นคณะปฏิวัติ ทั้งที่รู้ว่ารัฐธรรมนูญปัจจุบันดีสู้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ไม่ได้ ที่มีเจตนาให้รัฐบาลเข้มแข็ง แต่ก็มีข้ออ้างว่ารัฐบาลโกง จึงปฏิวัติฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง หวังว่าสิ่งที่กล่าวย้ำครั้งนี้คนทั้งประเทศคงไม่ลืม
 

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเขียนขึ้นเพราะไม่ชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
 
จึงมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. และเขียนมาตรา
309 ล็อกไว้ว่า สิ่งที่ทำทั้งหมดถูกต้อง  ในการลงประชามติก็บอกให้รับไปก่อน แล้วแก้ไขภายหลัง เรื่องนี้ลืมได้อย่างไร รัฐธรรมนูญศักดิ์สิทธิ์มากแค่ไหน ถึงแตะต้องไม่ได้ และพรรคที่หาเสียงว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ ก็ได้รับเลือกด้วยคะแนน 233 เสียง ส่วนพรรคที่บอกว่าไม่แก้รัฐธรรมนูญ ได้รับเลือกมา 164 เสียง สิ่งที่เจ็บช้ำที่สุดคือการกล่าวหาว่าคนทำผิดแล้วจะแก้ไขกฎหมาย ทำไมไม่ย้อนถามบ้างว่า ถ้ากฎหมายผิด แล้วคนจะอยู่กันได้อย่างไร ตนยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ทำเพื่อประเทศชาติ และอนาคตการเมืองข้างหน้า ไม่มีใครบังคับขู่เข็ญ การแก้รัฐธรรมนูญมันเป็นธรรมชาติ ถ้าไม่ทำใครจะทำ เลือกตั้งใหม่ก็ต้องทนใช้กันต่อไป 

"ผมขอตอบคำถามคุณอานันท์ ปันยารชุน ว่า ผมแก้รัฐธรรมนูญเพื่อคนไทยในอนาคตที่ยังจะต้องใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป และจะไม่มีตัวผมลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่ลงแล้วครับ การแก้รัฐธรรมนูญไม่ใช่เพื่อตัวของผมเอง แต่เพื่อคนไทยในวันข้างหน้า ฉะนั้นถ้าคน 233 คน มีโอกาสที่จะแก้ได้ แต่ไม่แก้ ก็ถือว่าเสียของ ยืนยันว่าจะมีการแก้รัฐธรรมนูญแน่ และคนเหล่านี้ไม่ได้ประโยชน์อะไร ผมเป็นคนไม่มีอนาคต ที่ทำก็ไม่ใช่เพื่อตัวเอง เพราะการแก้ไม่ได้คุ้มครองตัวผม อย่างมาตรา 309
ที่ผมไม่เห็นด้วยให้ตัดทิ้ง เพราะคิดหมากชั้นเดียว ไม่ได้คิดว่าต้องไปต่อสู้กับใคร เพราะไม่ได้ทำผิด ส่วนจะโดนหรือไม่โดนก็สุดแล้วแต่ แต่พวกที่เขาโดนคดีความ เขาอยากให้แก้ เมื่อเหตุผลฟังได้ก็แก้ เป็นเรื่องธรรมดา" นายกรัฐมนตรี กล่าว
 

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ


ส่วนตัวคิดว่าควรจะมีการประชุม ส.ส.ทั้งหมด เพื่อรับฟังความคิดเห็น ไม่ต้องรีบร้อน ต้องให้ได้ข้อยุติก่อน จากนั้นจึงจะตั้งอนุกรรมการจัดการยกร่างแก้รัฐธรรมนูญ  การแก้ไข ไม่จำเป็นต้องตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพราะ ส.ส.เป็นตัวแทนประชาชน ที่ผ่านมา ส.ส.ก็ทำหน้าที่ออกกฎหมาย หากจะตั้งตนเป็นหัวโจกแก้รัฐธรรมนูญก็ได้ เพราะตนไม่ลงเล่นการเมืองอีกแล้ว จึงไม่ต้องกลัวว่าผลประโยชน์จะตกที่ตน วันนี้รัฐบาลมีเหตุผลในการแก้ไข คิดว่าประมาณ
1-2 สัปดาห์ คงจะมีความชัดเจน และจะไม่มีการเลือกตั้งใหม่ทันที หลังแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ เพราะรัฐบาลจะอยู่ 4 ปี 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าตั้งแต่มีการเสนอเรื่องแก้รัฐธรรมนูญมีกระแสต้านรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น

นายสมัคร กล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา กระแสต้านรัฐบาลจะมีก็มีไป เพราะเป็นสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย คนไม่ชอบก็ต้องมี แต่คนชอบก็ต้องมาก สถานการณ์วันนี้ ขอยืนยันว่าไม่เหมือนกับพรรคไทยรักไทยขณะถูกต่อต้าน เมื่อถามว่า แต่ประชาชนอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชนก่อน นายสมัคร กล่าวว่า มือหนึ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ อีกมือหนึ่งแก้รัฐธรรมนูญได้หรือไม่
ต่อข้อถามว่า หลายฝ่ายระบุว่าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจทำให้เกิดวิกฤติของบ้านเมืองขึ้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่พูดและไม่ได้ยิน จะได้ไม่มีเรื่อง

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์