การุณ เหน็บหมาอย่าอยู่กับเสือ

นายการุณกล่าวต่ว่า ตนได้ไปแจ้งความกลับที่ สน.ดุสิต กับร้อยเวรคนเดียวกัน ตั้งแต่คืนวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา

เพื่อรักษาสิทธิและศักดิ์ศรี เนื่องจากตนให้เกียรตินายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่พูดในที่ประชุมสภาให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนทั้ง 2 ฝ่าย ตนคิดว่าเรื่องน่าจะจบตรงนั้นโดยรอกระบวนการที่สภาตั้งขึ้นมา แต่การที่เขาให้ข่าวเหมือนเป็นการไม่เชื่อฟังหัวหน้าพรรคของเขา 
 
“เรารู้ว่านายสมเกียรติเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แต่ทำตัวเหมือนกุ๊ยข้างถนน ผมเรียนอย่างนี้ครับ หลายครั้ง ๆ เราบอกว่าทางหมา ๆ เดิน ทางเสือ ๆ เดิน แต่ในเมื่อหมามาอยู่ในเวทีเสือ ปรับตัวไม่ได้ก็ควรไปอยู่อย่างหมา อย่ามาอยู่อย่างเสือครับ” นายการุณกล่าว

เมื่อถามว่า พฤติกรรมที่ผ่านมาทำให้คนนำไปเทียบเคียงกับเหตุการณ์นี้ นายการุณ กล่าวว่า

สิ่งเหล่านั้นสื่อมวลชนวาดขึ้นมาตั้งแต่แรก แต่ตนได้ผ่านกระบวนการกฎหมายและคัดสรรจากประชาชน ถ้าไม่ดีหรือมีนิสัยอย่างนั้นจริง คงไม่ได้รับเลือกเข้ามาอย่างท่วมท้น ตนมั่นใจและภูมิใจในความเป็นตัวของตัวเอง แต่สิ่งที่สื่อพยายามวาดเป็นการกล่าวหาทั้งนั้น ซึ่งถ้าเป็นอย่างที่ทุกคนประณามตนคงไม่มีโอกาสได้มายืนอย่างสง่างามในสภาแห่งนี้
 
เมื่อถามต่อว่า จะมีโอกาสประนีประนอมกับนายสมเกียรติหรือไม่

นายการุณกล่าวว่า ไม่มีอะไรคุยกัน ต่างคนต่างทำงาน ทางเสือ ๆ เดิน ทางหมา ๆ เดิน ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ใครเป็นเสือใครเป็นหมา นายการุณกล่าวย้อนว่า ดูเอาว่าในสภานี้เสือหรือหมาเดินเต็มไปหมด ที่ไปเคลื่อนไหวนอกสภาเขาเรียกเสือหรือหมา เมื่อถามว่าที่เดินกันอยู่ไม่ใช่คนหรือ นายการุณ กล่าวว่า ก็คน แต่ที่เปรียบเทียบเสือคือพยัคฆ์ คือคนที่มีความสง่างามในตัว หมาก็คือหมา