นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์วานนี้ (3 เม.ย.)
กรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและนักวิชาการรวมพลังต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญว่า ไม่ใช่ เรื่องแปลก ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกมากกว่า ที่มีคนพูดว่ามาเปลี่ยนแปลงฉับพลันในตอนนี้ หรือบอกว่ารีบแก้รัฐธรรมนูญเพราะเรื่องยุบพรรค ก็ต้องบอกว่ามีทั้งส่วนจริงและไม่จริง
การแก้ไขรัฐธรรมนูญมีกำหนดเป็นนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว
เพียงแต่ตอนแรก นายกฯบอกว่าควรจะรอเวลาเพื่อแก้ไขในตอนหลัง เพราะเข้าใจว่าฝ่ายที่ไม่ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญจะยอมรับวิถีทางประชาธิปไตยบ้าง ไม่ใช่ว่าบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยแล้วก็ยังใช้ระบบพรรคพวก ไม่ยอมให้บริหารประเทศ วางยาจะให้ประสบความล้มเหลวในการบริหารประเทศ พอจะแก้ไขรัฐธรรมนูญก็มาบอกว่าห้ามแก้ เหมือนกับเรื่องหมาป่ากับลูกแกะ เอ็งไม่เคยทำข้า พ่อเอ็งก็ทำ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เราจะยอมรับได้ในประเทศไทยในปีพุทธศักราชนี้ หากมีความเห็นที่ตรงกันหรือขัดแย้งกันก็ให้แสดงออกมา แต่กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเดินหน้าต่อไป เปลี่ยนแปลงจากระบอบที่ไม่ใช่ ประชาธิปไตยกลับมาเป็นประชาธิปไตย ถ้าไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญก็เสียชาติเกิด
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าขณะนี้มีการพยายามยั่วยุนำไปสู่ความรุนแรง เพื่อที่รัฐบาลจะทำการปฏิวัติตัวเอง
นายจักรภพกล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นนั้น ตอนนี้เราสับสนเพราะอยู่ภายใต้ระบบอุปถัมภ์มานาน พอมาอยู่ในระบอบประชาธิปไตย ไม่มีนายตามสังกัดที่จะคอยบอกว่าจะให้ทำอย่างไร เราเริ่มเข้าสู่ระยะประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ดังนั้นต้องอยู่ร่วมกับคนที่เราไม่ชอบหน้าให้ได้ ลัทธิหมั่นไส้อิจฉาริษยาแบบไทยต้องทำให้ลดลง ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถผลักดันประเทศให้เดินหน้าได้ เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนคนที่ไม่ต้องการก็บอกมาให้ชัดว่าไม่ต้องการให้แก้มาตราใด การไม่เห็นด้วยกับการแก้บางมาตราแล้วมาบอกว่าไม่ควรแก้ทั้งฉบับนั้นเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง การแก้รัฐธรรมนูญเป็นฉันทามติที่รัฐบาลทุกพรรครับมาจากประชาชน ดังนั้นต้องเดินหน้าแก้ไข