การุณลั่นผิดจริงลาออก ตำรวจขอภาพวงจรปิด

วานนี้ (3 เม.ย.) นายการุณ โหสกุล ส.ส.เขตดอนเมือง พรรคพลังประชาชน

ให้สัมภาษณ์ยืนยันอีกครั้งว่าไม่ได้กระทำผิด จากเหตุการณ์วิวาทกับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และหากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสภาฯ มีข้อสรุปว่าผิดจริง ก็จะลาออกจากการเป็น ส.ส.ทันที
 

"เขาพูดมึง กูออกมา ผมก็บอกว่า พี่พูดเป็นคนเดียวรึไง มึง กู ผมก็พูดเป็นนะพูดง่ายจะตาย คุณอลงกรณ์ (พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์) ก็พูดพาดพิงว่า ถ้าอยู่ข้างนอกนะสวยแล้ว ผมเลยบอกแล้วยังไง สวยยังไง ผมไม่กลัวใครหรอก ผมก็พูดอย่างนี้ ชัดเจนครับ ผมยืนยันคำนี้ครับ" นายการุณ กล่าว และว่าพยานที่เห็นเหตุการณ์มีทั้งฝ่ายตนและฝ่ายนายสมเกียรติ ตนยินดี อยากให้นายอลงกรณ์ ฟ้องเลย ตนจะได้ฟ้องกลับ 

นายการุณ ยังย้ำว่าตนยืนยัน 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าไม่ได้เข้าไปทำร้ายนายสมเกียรติ ถ้าตนทำร้ายจริงก็ยอมลาออก แต่หากตนไม่ได้ทำร้ายจริง นายสมเกียรติจะยอมลาออกได้หรือไม่
 
 

ด้านนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งระบุว่าถูกนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคพลังประชาชน ทำร้าย  กล่าวถึงกรณีที่นายการุณ ยืนยันว่าไม่ได้พูดจาหยาบคายและไม่ได้ทำร้ายตนเองว่า ประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุมีประมาณ 20 คน  ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดเพียงนาทีเดียว แต่เกิดขึ้นประมาณ 10 กว่านาที และมีการปะทะกันหลายรอบ รอบแรกเป็นการปะทะกันระหว่างนายการุณ กับ นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ และนายโกวิท ธารณา ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ และรอบสุดท้ายมาอีกรอบที่ถือถุงกระดาษมาเป็นการปะทะกับ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นการย้ำว่าพฤติกรรมของการหาเรื่องมาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ตน แต่ตนไม่ได้ตอบโต้ และไม่ได้มีคำพูดอะไรออกมาจากปากของตน ดังนั้น กรณีนี้ควรต้องมีการดำเนินการ

 
"เราต้องให้กฎหมายคลี่คลายปัญหานี้ เพราะปัญหานี้มันไม่ใช่เรื่องผมเจ็บขนาดไหน มันเป็นเรื่องเกียรติภูมิของชาติ เพราะผมสงสารประเทศไทยมากที่รัฐสภาอันทรงเกียรติ อำนาจหลักของชาติได้ ส.ส.แบบนี้ ใน 200 ประเทศมีก่อเหตุไม่กี่ประเทศ และเป็นการก่อเหตุซ้ำซากด้วย และผมพูดจริงๆ ว่า อันธพาลและนักเลงไม่ควรอยู่ในรัฐสภา ถ้าประเทศเรามีศักดิ์ศรีจริง" นายสมเกียรติกล่าว 

นายสมเกียรติ กล่าวด้วยว่า ประจักษ์พยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุมากเกินกว่าที่จะบอกว่า นายการุณพูดจริง


โดยเฉพาะที่พูดว่า "อาจารย์ครับ" แล้วมาเปลี่ยนเป็น "พี่ครับ" และไปบอกในรายการ "สยามเช้านี้" ทางช่อง 5 ว่า ตนพูดหยาบคายในสภา ซึ่งตรงนี้ได้บันทึกเทปเอาไว้แล้ว เพื่อจะได้ทราบว่าสิ่งที่พยายามแก้ตัวโดยตลอดถูกต้องหรือไม่
ส่วนกรณีที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎรระบุว่า การลงโทษ ส.ส.ที่กระทำการวิวาท ได้เพียงแค่ว่ากล่าวตักเตือนนั้น นายสมเกียรติ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ต้องแล้วแต่กระบวนการ เพราะกรอบจริยธรรมไม่ใช่เรื่องการลงโทษหนักเบา แต่เป็นมโนธรรมสำนึกส่วนบุคคลว่า จะรักษาเกียรติภูมิของประเทศชาติได้หรือไม่ ซึ่งเป็นมโนธรรมสำนึกของแต่ละคนว่าถ้ากระทำผิดต้องยอมรับเหมือนกรณีที่ตนใช้คำว่า "ไอ้" กับรัฐมนตรีบางคน ตนก็ยอมรับ เพราะรัฐมนตรีคนนั้นใช้คำว่า "ไอ้ 5 พันธมิตร" กับตนมาก่อน 

นายสมเกียรติ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายการุณ นำอาวุธเดินเข้ามาหาว่า นายนิพนธ์ บุญญามณี ยืนยันว่า มีอาวุธอยู่ในถุง


ซึ่งในช่วงนั้นตนนั่งอยู่ห่างประมาณ 3 วา แต่ไม่เห็นอาวุธ เห็นเพียงถุง ซึ่งครั้งแรกที่เดินเข้ามาไม่ได้ถือถุง โดยครั้งแรกที่ต่อกรกับ นายโกวิท ธารณา เห็นว่า นายการุณพยายามใช้มือซื้อหยิบส้อมหนา ๆ ของห้องอาหาร แต่ไม่ได้ทำอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สิงห์ไกร รอง ผกก.สน.ดุสิต ได้ยื่นหนังสือต่อ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เพื่อขอดูภาพวีซีดีวงจรปิดบริเวณสถานที่เกิดเหตุทะเลาะวิวาท ระหว่างนายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชาชน กับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แต่เนื่องจากภาพวงจรปิดไม่ชัดเจน เจ้าหน้าที่จึงได้สเกตซ์ภาพสถานที่นั่ง พยาน ที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุด้วย แต่ยังไม่ได้เรียกพยานเข้าไปสอบปากคำแต่อย่างใด

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์