ชมรมสื่อฯประณามเด็กแม้วหิ้ว นักข่าวเอพี ฐานตั้งคำถาม สภาโจ๊ก หรือสภาจริง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 กุมภาพันธ์ 2549 19:22 น.

ผู้สื่อข่าวเอพี เผย เหตุถูก ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ เลขาฯคนสนิทแม้ว สั่ง จนท.หิ้วออกจากห้องประชุมที่รัฐสภา หลังตั้งคำถาม สภาจริง หรือ สภาโจ๊ก จวก ลุแกอำนาจ คุกคามสื่อ ด้าน ชมรมสื่อมวลชนเพื่อประชาชนฯ" ประณามพฤติกรรมของรัฐบาล บ่งบอกถึงรัฐมาเฟีย ชอบใช้อำนาจขาดความอดทนที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน

วันนี้ (28 ก.พ.) นายสุทิน วรรณบวร ผู้สื่อข่าวสำนักงานข่าวเอพี กล่าวถึงกรณีที่ถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐ และนายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ เลขานุการคนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ปิดไมโครโฟน และนำตัวออกมาจากห้องประชุม ระหว่างการหารือร่วมของ 14 พรรคการเมือง ที่อาคารวุฒิสภา เมื่อวานนี้ ว่า ตนเองได้เข้าไปสังเกตุการณ์ในห้องประชุมฯแล้วเห็นว่ามีหัวหน้าพรรคการเมืองขนาดเล็ก เข้าร่วมประชุมจำนวนหลายคน เช่น นายวรัญชัย โชคชนะ ซึ่งดูแล้วทำให้รู้สึกว่า รัฐบาลจะทำเล่นหรือทำจริง ดูแล้วเหมือนเป็นเรื่องตลก ตอนนั้นรู้สึกตลกมากที่เห็นนายกฯทำอะไรก็ได้ เพื่อรักษาอำนาจของตัวเองเอาไว้ จึงถามนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นสภาจริง หรือสภาโจ๊ก ซึ่งตนถามไปก็ไม่ได้สนใจว่า จะได้รับคำตอบหรือไม่ เพียงแต่ต้องการรู้ว่า ถ้าเป็นสภาโจ๊กจะได้ไม่ถามต่อ แต่ถ้าเป็นสภาจริงก็จะได้ถามต่อว่าทำไมต้องทำอย่างนี้ แต่ปรากฏว่า ทางเลขานุการคนสนิทของนายกฯได้ปิดไมโครโฟน และสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฉุดกระชากตัวเองออกจากห้องประชุม และสอบสวนว่า เป็นใคร ตนบอกว่า เป็นนักข่าวและถามกลับว่าทำไมจึงทำอย่างนี้ เขาบอกว่าเป็นหน้าที่ ตนถามว่าเป็นหน้าที่อะไร เขาไม่ตอบก่อนที่จะเดินหนีไป

การกระทำของคนสนิทนายกรัฐมนตรี เป็นการล่วงละเมิด ลุแกอำนาจ และคุกคามสื่อมวชน ที่ผ่านมาเขาเคยทำกับสื่อมวลชนคนอื่นจนเคยชิน ผมไม่อยากให้เขามาทำอย่างนี้อีก และขอยืนยันว่า ได้แสดงออกบนพื้นฐานของการทำหน้าที่สื่อมวลชน ไม่ได้กระทำอะไรที่เกินเลย เราสามารถตั้งคำถามได้ สากลเขาก็ทำแบบนี้ เพราะไม่จำเป็นต้องตั้งคำถามเอาใจรัฐบาล นายสุทิน ระบุ

ด้านชมรมสื่อมวลชนเพื่อประชาชนและประชาธิปไตย ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องต่อสื่อมวลชนในการป้องศักดิ์ศรีเพื่อนร่วมวิชาชีพ โดยระบุว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐบาล และเลขานุการคนสนิทของรักษาการนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นการล่วงละเมิดทางร่างกายในขณะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสื่อมวลชนต่อหน้าสาธารณชน เหล่านี้บ่งบอกถึงวิธีคิดที่ค่อนข้างคับแคบ ไม่เป็นประชาธิปไตย บ่งบอกถึงรัฐมาเฟีย ที่มักชอบใช้อำนาจขาดความอดทนในการที่จะต้องตอบคำถามต่อสื่อมวลชน

แถลงการณ์ดังกล่าวระบุอีกว่า ทางชมรมจึงเรียกร้องต่อสื่อมวลชน ว่า การปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลในสังคมไทย จะต้องให้เกียรติในวิชาชีพและเคารพในศักดิ์ศรีของมนุษย์ที่มีอยู่ในทุกวิชาชีพเสมอ การตั้งคำถามของสื่อมวลชนกรณีนายสุทิน ถือเป็นการตั้งคำถาม และสะท้อนถึงสถานการณ์ทางการเมืองดำรงอยู่จริงทางสังคม การที่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจไม่เหมาะ สมควรได้รับการประณาม