เทพเทือก ฟ้องอาญา-แพ่ง เฉลิม

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ แถลงวานนี้ ( 31 มี.ค.) ว่า 

บริษัทศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด  บริษัทในครอบครัวของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์  มอบหมายนายผดุงเกียรติ พรหมแก้ว ทนายความของบริษัท ไปยื่นฟ้อง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย เป็นจำเลยที่ 1 และ กระทรวงมหาดไทยเป็นจำเลยที่ 2 ในคดีแพ่งฐานละเมิด เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ศาลนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 21 ก.ค. และยังฟ้อง ร.ต.อ.เฉลิมในคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 23 มิ.ย. สาเหตุที่บริษัทศรีสุบรรณฟาร์มฟ้อง ร.ต.อ.เฉลิมเพราะต้องการให้ผู้ที่มีอำนาจมีความรับผิดชอบเวลาให้ความเห็นผ่านสื่อ ไม่ควรที่จะชี้ว่าใครเป็นคนผิดหรือถูก ต้องให้ศาลตัดสิน

ทั้งนี้ บริษัทศรีสุบรรณฟาร์มประมูลที่ดินใน อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี จากกรมบังคับคดีถึง 7 ครั้ง ชนะการประมูลถือว่ามีความถูกต้อง หากจะมีความผิดพลาดน่าจะเกิดจากหน่วยงานราชการมากกว่า 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า

หลังจาก ที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ทราบข่าวว่าถูก บริษัทศรีสุบรรณฟาร์มฟ้องร้อง ก็ได้สั่งเจ้าหน้าที่กองสารนิเทศให้รวบรวมข้อมูลเทปบันทึกเสียงการให้สัมภาษณ์ และภาพประกอบจากสื่อโทรทัศน์ เกี่ยวกับเรื่องที่ดินของ บริษัทศรีสุบรรณฟาร์ม ที่ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการต่อสู้คดีกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจาก ร.ต.อ.เฉลิมมั่นใจว่าไม่เคยพูดในลักษณะที่ว่าบริษัทศรีสุบรรณฟาร์มกระทำผิดในการซื้อที่ดินดังกล่าว มีแต่เพียงระบุว่าที่ดินผืนดังกล่าวออกเอกสารสิทธิไม่ถูกต้อง ดังนั้นอาจจะฟ้องกลับนายสุเทพข้อหาเบิกความเท็จในการนำสืบพยานในชั้นศาล

นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย ผอ.สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีการตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินของบริษัทศรีสุบรรณฟาร์ม ที่ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ว่า

ได้หารือกับกรมที่ดินถึงกรณีดังกล่าวแล้ว กรมที่ดินยอมรับว่าการออกเอกสารสิทธิมิชอบ ต้องเพิกถอนตาม พ.ร.บ.ที่ดิน มาตรา 61 ที่ผ่านมาได้เสนอกรมที่ดินให้เพิกถอนเอกสารสิทธิครั้งแรก 700 ไร่ จากทั้งหมด 2,020 ไร่ ส่วนที่เหลือได้ตรวจสอบแล้วเช่นกับพบว่าการออกเอกสารสิทธิมิชอบ เพราะผู้ขอออกเอกสารสิทธิไม่ได้ครอบครองที่ดินมาก่อนหน้า จึงไม่มีสิทธิ ขอออกโฉนด ขณะนี้เตรียมทำหนังสือแจ้งกรมที่ดินขอให้ เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินที่เหลืออีก 1,320 ไร่ อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รักษาการอธิบดีดีเอสไอ มอบหมายให้ ตรวจสอบที่ดินแปลงดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง