สมัครโบ้ยสื่อ ถามนำปฏิวัติ

นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความไม่พอใจที่สื่อหลายฉบับเสนอข่าวเรื่องกระแสข่าวปฏิวัติ ที่มีความคลาดเคลื่อน
 
โดยกล่าวว่าการทำมาหาข่าวอยากได้แต่ให้ นายกฯพูดจา พอเราพูดแหยมเข้าไปหน่อยเป็นไม่ได้ เริ่มต้นตนเป็นคนจุดชนวนเรื่องปฏิวัติ โดยการตอบคำถาม ของสื่อ เรื่องใบปลิวตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา (25 มี.ค.) ตนก็ตอบไปว่า มี และอธิบายให้ฟังว่า เคยได้อ่านจากที่มีการนำมารายงานในที่ประชุม ครม. ซึ่งจริงๆ ยังมีคนคิดยังซ่องสุม ประชุมกันอยู่ก็ไปเขียนเป็นรายงานข่าวกันอีก พอวันศุกร์ก็มาถามอีกว่าเกี่ยวข้องกับทหารหรือไม่ ตนก็บอกว่าทหารไม่เกี่ยว และพยายามใช้วิธีไล่ต้อน แต่สุดท้ายก็พาดหัวว่าตนปูดข่าวเรื่องปฏิวัติ ทั้งที่บอกว่า ไม่เกี่ยวกับทหารเลย  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ นายสมัคร ได้หยิบหนังสือพิมพ์หลายฉบับขึ้นมาอ่านให้ฟังเป็นตัวอย่าง
 
พร้อมกับกล่าวว่า “ต้องถามว่า นี่มันบ้าหรือเปล่าที่คิดอย่างนี้ นี่บ้าอะไรกัน ที่วงการสื่อสารมวลชนทำกันอย่างนี้ บ้างก็ว่าจับตานายกฯตัวจริงมาแล้ว สถาน-การณ์อย่างนี้นายกฯทักษิณ ต้องกระโดดเข้ามาด้วย นี่บ้าอะไรกัน มีคนสั่งสอนผมว่าอย่าไปพูดจาว่ากล่าวอะไร แต่นี่มันสุดแสนจะทน ต้องตำหนิสื่อสารมวลชนที่ถามล่อไปล่อมา มีการขุดหลุมล่อไว้ ขนาดที่ปรึกษาก็มาเลยทันที บอกว่าจี้แล้ว ทำไมคิดกันได้เท่านี้ มีสติปัญญาจะช่วยดูแลบ้านเมืองกันอย่างนี้หรือ น่าเสียดายคนดีมีสติปัญญา ถ้าทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงก็ว่าไป แต่นี่เพิ่งเข้ามาไม่ทันไร ต้องตำหนิ และขอให้หมั่นไปสัมมนากันหน่อย”

ในตอนท้ายรายการ นายสมัครกล่าวเพิ่มเติมว่า อยากจะบอกให้นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามให้รู้บ้างว่า ตนไม่ได้ไปต่อต้านใครปฏิวัติ อย่ามาขุดหลุมล่อ ตนไม่บอกหรอก ว่าใครหรืออย่างไร แต่ตนยืนยันไปแล้วว่า ทหารเขาไม่เกี่ยวข้อง ตนรู้ว่าจะมาเอาเรื่องมาตราต่างๆ ของ รัฐธรรมนูญมาพูด ยากครับ ไม่ต้องมาขุดหลุมล่อ



นายสมัครกล่าวต่อว่าเริ่มรับตำแหน่ง และทำงานเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ยังไม่เต็ม 2 เดือนเลย

คอลัมน์ แวดวงรอบกรุง ก็ได้เขียนถึง จากนั้นนายสมัครก็อ่านรายละเอียดของเนื้อหาที่กล่าวพาดพิงถึงรัฐมนตรีหลายคนและหน้าห้องของนายกรัฐมนตรีถึงการทำงานว่ามีพฤติกรรมส่อทุจริต พร้อมกับกล่าวว่า เอาเถอะกรณีของนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็จะได้ชี้แจงเอง

“แต่กรณีนายกรัฐมนตรีสมัครทำได้ อย่างไร ผมบอกเลยว่าภายใน 3 วัน หนังสือพิมพ์ขอไม่ออกชื่อ ฉบับที่เขียนอย่างนี้ ไม่ส่งเอกสารการที่ไปเรียกร้องทุจริตให้ผม ผมจะถือว่าหนังสือพิมพ์ฉบับนี้เสนอความเท็จ เอาความเท็จสาดใส่คนอื่น เห็นแก่ได้ ตามใจชอบ แต่ก่อนคุณเขียนไป คนที่ถูกเขียนถึงก็เสียหาย แต่คนเขียนถึงคือผม ผมไม่ยอม คุณว่ามาอย่างนี้ ต้องบอกเลยว่า ภายใน 3 วัน ผมจะรอ ขอให้ส่งให้ที่ทำเนียบรัฐบาล เอาหลักฐานที่ระบุว่าหน้าห้องตนไปรีดไถใครมา เอามาเลย ทำงานกันไม่ทันจะ 2 เดือน งานบ้าบอคอแตกยังไม่ทันจะทำ งบประมาณยังทำอะไรไม่ได้ ยังดำเนินการ ไม่ได้ กล่าวหามาแล้ว ไหวหรือ แถมยังเขียนหนังสือวกวน เขียนเอง เออเอง สำนวนการเขียนก็ใช้ไม่ได้ หากคนอ่าน ไม่มีวิจารณญาณ อ่านไปจะทำอย่างไร” นายสมัครกล่าว


นายสมัครกล่าวถึงความทุกข์ของความเป็นนายกรัฐมนตรีหน้าใหม่ว่า เข้ามานั่งในตำแหน่งยังไม่ถึง 2 เดือน
 
แต่ตำแหน่งนายกฯ ซึ่งใครๆ ก็บอกว่าเป็นบุคคลสาธารณะ ใครจะด่าว่ากล่าวหรือโจมตีอะไรก็ได้ แต่สำหรับตนนั้น ไม่ได้ทุกอย่างหรอก หรือแม้กระทั่งการรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ที่ต้องใช้เข้มงวด เพราะตนต้องการไปเดินตลาดซื้อกับข้าว ไปต่างจังหวัดซึ่งต้องไปคนเดียว แต่ก็ถูกห้ามว่าไม่ได้  ก็ขอบคุณที่ รปภ.คุมอยู่ข้างนอก ไม่ตามไปด้วย หากต้องตามไปถ่ายอุจจาระด้วยจะทำอย่างไร เป็นความทุกข์ที่มีการ รปภ.กันอย่างเกินเหตุเหมือนเป็นเกียรติยศต้องเอามาแบกใส่บ่านายกฯไว้ โดยไม่มีอิสรเสรีภาพ แต่ตนเป็นนายกฯที่ต้องการอิสรเสรีภาพ ความปลอดภัย หรือใครๆก็กลัวตาย แต่ถูกกำหนดไว้ รวมถึงการพูดจาหรือแสดงความคิดเห็นอย่างที่ต้องการก็ทำไม่ได้ ตนเป็นคนช่างพูดช่างคิด บางทีแม้แต่คิดยังไม่ให้คิด ยิ่งพูดยิ่งไม่ได้ มีกรอบมาใส่เลย 


“ผมเป็นนายกรัฐมนตรีหน้าใหม่ บางครั้งก็พลาดพลั้งไปบ้างก็ต้องให้อภัยผมบ้าง  ผมจะไปรู้ได้อย่างไร ไปบ้านเมืองนี้  ก็อยากรู้ความเป็นไปของบ้านเมืองเขา พอไปฟังความเสร็จก็พูดไม่ได้  ต้องเก็บไว้  เล่าไม่ได้ เพราะในโลกนี้มีคุณพ่ออยู่หลายคน  แบ่งกันหลายค่าย แต่ก่อนนี้มีค่ายคอมมิวนิสต์ มีค่ายประชาธิปไตย แต่ ปัจจุบันนี้มีค่ายนายทุน  แล้วคนมหาอำนาจคิดอย่างไร ประเทศเล็กๆอย่างเราต้องคิดตามด้วย นี่แหละทุกข์ใจของนายกฯหน้าใหม่ที่เกิดมาไม่เคยรู้อย่างนี้ คำว่าเหตุผลบางครั้งต้องเอาออกจากพจนานุกรม ต้องทำอะไรที่ไม่มีเหตุผล คำว่าจริงใจ เห็นใจ ใช้ไม่ได้ อย่างนี้จะคบค้าสมาคมกันอย่างไร ผมต้องบ่น แต่จะไม่ให้กระเทือนคนที่รับผิดชอบอยู่ ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเลย แต่สัญชาตญาณของคนต้องวิจารณ์ อย่างเว็บไซต์กูเกิ้ลเอาคำที่ผมพูดเผยแพร่ ไปทั่วโลก  และคอยจ้องว่าลูกพี่ว่าอย่างไร เราก็ต้องว่าอย่างนั้นด้วย อะไรกันนักหนา เป็นสิ่งที่ชอบกล อีกทั้งไม่สามารถอธิบายมูลเหตุปัญหา ต้องบ่น ไม่เช่นนั้นจะเป็นอย่างนี้ไปอีกเป็นศตวรรษ  เพราะเป็นอย่างนี้มา 50 ปีแล้ว” นายสมัครกล่าว  


นายสมัครยังกล่าวด้วยว่า มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่ประเทศที่รักอิสรเสรีภาพเหนือสิ่งใด แต่มาเอาเท้ามาเหยียบคนอื่นไว้ให้คิดตามตัวเอง

ตนไม่ได้ออกชื่อ ออกประเทศ ไม่ได้บอกว่ากระทรวงไหน แต่มีสิทธิ์ต้องบ่นที่ว่าตนจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง และห้ามเดินนอกกรอบ เรื่องทุกข์ใจที่มีการว่ากล่าวกันอย่างไม่มีเหตุผลก็ยังพอแก้ไข ตอบโต้กันตรงนี้ได้ แต่เรื่องนี้ห้ามตอบโต้ แสดงความเห็นไม่ได้ ต้องอยู่ในกรอบว่าหากนายกฯไทยพูดอย่างไรนโยบายจะเป็นอย่างนั้น นี่มันบ้า ความเห็นส่วนตัวก็ไม่ได้อีก และตนจะเป็นนายกฯไม่ตลอดรอดฝั่งก็เพราะความรู้สึกนึกคิดแบบนี้ และเป็นความทุกข์ในใจของตน 


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์