สาวไส้ กกต.ทำงานสุดชุ่ย ซุกสำนวน ชี้ผิดสารพัดเชื่อติดคุก 5 พันปี

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 พฤษภาคม 2549 16:39 น.

วงเสวนาสาวไส้ กกต.แฉแหลก! ความผิดคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทำงานสุดชุ่ย มติใบเหลือง-แดงไม่ตรงกับคำวินิจฉัย ให้คะแนนการทำงานติดลบ ต่างกับชุดอดีตราวฟ้ากับเหว ชี้ติดคุกอีก 5 พันปี ก็ไม่หมด

วันนี้ (23 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.15 น. ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เครือข่ายจุฬาเชิดชูคุณธรรมนำประชาธิปไตย (จคป.) และสถาบันสหัสวรรษ มีการเสวนาเรื่อง สาวไส้ กกต. โดยมีผู้ร่วมเสวนา คือ นายคมสัน โพธิคง อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช นายวรินทร์ เทียมจรัส อดีต กกต.กทม. และ นายการุณ ใสงาม รักษาการ ส.ว.บุรีรัมย์ โดยมี นายวุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันสหัสวรรษ เป็นผู้ดำเนินการเสวนา

นายคมสัน กล่าวว่า ในฐานะที่เคยเข้าทำงานร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นกรรมการฝ่ายสืบสวนสอบสวนของ กกต.ใน กกต.ชุดที่แล้ว เปรียบเทียบการทำงานของ กกต.ว่า กกต.ชุดที่แล้วมีพนักงานเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศแค่ 300 คน ขณะที่ปัจจุบันรวมแล้วกว่า 2 พันคน การทำงานก็ต่างกันซึ่งในอดีตจะใช้วิธีการยืมตัวจากหน่วยงานต่างๆ จึงทำงานได้เต็มที่และเป็นอิสระ เช่น เมื่อมีมติให้ใบเหลืองหรือใบแดงวันรุ่งขึ้นก็จะออกคำวินิจฉัยออกมาทันที แต่ในยุคนี้ยังไม่เคยคำวินิจฉัยออกมาเลย

อดีตอนุกรรมการฝ่ายสืบสวนสอบสวน กกต.ผู้นี้ยังชี้ให้เห็นว่า การทำงานของ กกต.ชุดนี้ยังไม่เห็นการจับกุมการทุจริตเลือกตั้ง ไม่เคยเห็นหลักฐานไม่ว่าจะเป็นเงินสดหรืออะไรก็ตามสักครั้งเดียว

ถ้าหากให้ผมให้คะแนนแล้ว กกต.ชุดแรกผมให้ 7 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 ขณะที่ชุดปัจจุบันผมให้ลบ 7 ซึ่งต่างกันราวฟ้ากับเหว นายคมสัน ระบุ และว่าหลักการทำงานของ กกต.มี 3 ข้อ คือ เป็นกลาง สุจริต และเที่ยงธรรม และว่า กกต.ชุดนี้เป็นกลางเหมือนกัน แต่เป็นกลางในลักษณะมีเสียงเล่าลือว่ามีกำลังภายในสามารถทำให้ใบเหลืองหรือใบแดงหลุดได้

นายคมสัน ได้ยกตัวอย่างการวินิจฉัยบางเขตที่ไม่ชอบมาพากล กรณีการในเขตการเลือกตั้งที่ 3 จ.นนทบุรี กรณีของ นางพิมพา จันทร์ประสงค์ ทำให้สามารถมีการสมัครรับเลือกตั้งหลายครั้งในการเลือกตั้งครั้งเดียว รวมทั้งเกิดขึ้นลักษณะนี้ในหลายเขตทางภาคใต้

นายคมสัน ยังกล่าวถึงผลสรุปการสอบสวนกรณีพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กนั้น ตามปกติแล้วระเบียบปฏิบัติเอาไว้ชัดเจนว่า เมื่ออนุกรรมการสรปผลการสอบสวนแล้ว กกต.ต้องวินิจฉัยโดยพลัน นั่นคือทันที ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า กกต.ชุดนี้ละเมิดกฎหมายมาตลอด

ด้าน นายวรินทร์ กล่าวว่า กกต.ชุดนี้ไม่เข้าใจบทบาทและหน้าที่ตัวเองว่าต้องทำอย่างไรและทำอะไรบ้าง และระบุว่าในบางครั้งในเว็บไซต์ของ กกต.ยังเคยมีการลงข่าวปรากฏว่ามี กกต.บางคนลงโฆษณาในโครงการจัดสรรที่ดินด้วย พร้อมทั้งยกตัวอย่างให้เห็นถึงมาตรฐานในการทำหน้าที่ขององค์กรที่รับผิดชอบ เช่น กรณีที่เคยยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาเสนอให้ยื่นตีความว่าการเลือกตั้งมิชอบ แต่ปรากฏว่าเมื่อหลังวันที่ 25 เมษายน ได้มีอาจารย์นิติศาสตร์ได้ยื่นตีความในประเด็นเดียวกัน กลับมีการรับเรื่องแล้วเสนอให้ตีความในที่สุด

นายการุณ กล่าวว่า เริ่มพบความไม่ชอบมาพากลของ กกต.ชุดนี้อย่างชัดเจน หลังจากที่มีอยู่ในคณะกรรมาธิการสอบสวนทุจริตของวุฒิสภา ตรวจพบว่า องค์กรอิสระมีการขึ้นเงินเดือนตัวเอง และในหลักฐานการสอบสวนยังพบว่าในคำวินิจฉัยของ กกต.เกี่ยวกับการให้ใบเหลือง-ใบแดงไม่ตรงกัน รวมทั้งไม่มีการลงนามพร้อมกันมาตลอด

ผมเชื่อว่าความผิดของ กกต.ชุดนี้จะต้องติดคุกไม่ต่ำกว่า 5 พันปี ถึงจะหมด อย่าว่าแต่ 1 เดือนที่ขอเวลาทำให้เสร็จเลย ต่อให้เขียนคำวินิจฉัยอีก 10 ปีก็ไม่เสร็จ รักษาการ ส.ว.บุรีรัมย์ กล่าวว่า และยังเปิดเผยว่าจากการเคยเข้าให้ปากคำกับคณะกรรมาธิการของวุฒิสภาของ นายจรัล บูรณพันธุ์ศรี หนึ่งใน กกต.ก่อนเสียชีวิต ได้ระบุว่าไม่เคยลงนามเห็นด้วยในมติและคำวินิจฉัย และนอกจากไม่ลงนามแล้ว ยังทำเครื่องหมายกากบาทเอาไว้ด้วย แถมยังเขียนกำกับว่าคำวินิจฉัยบางครั้งมีมติให้ใบเหลือง และเขียนคำวินิจฉัยเป็นใบแดง

นายการุณ กล่าวว่า กกต.ชุดนี้ทำงานแบบตำรวจ คือ การซุกสำนวน เพราะบางครั้งมีหลักฐานระบุว่าได้ปล่อยให้คดีขาดอายุความเกิน 1 ปี หรือบางครั้งมีการเลือกตั้งผ่านไปนานนับปีแล้วถึงจะมีคำวินิจฉัยออกมา และจากการให้ปากคำของนายจรัล ยังพบว่าในการประชุมของ กกต.ยังไม่มีการบันทึกการประชุม แม้จะมีการเสนอให้บันทึกการประชุมก็ไม่ยอมทำ

กกต.ชุดนี้ส่อไปในทางทุจริต และประพฤติมิชอบมากมาย แล้วเชื่อว่าในอนาคตยังมีความผิดในข้อหาแก้ไขเอกสารเพื่อปกปิดความผิดของตัวเองด้วย นายการุณ ระบุ พร้อมทั้งให้มีการปฏิรูปการเมือง โดยแก้ไขรัฐธรรมนูญในหลายประเด็น เพราะมีการเกี่ยวโยงกันในหลายประเด็น