นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าววานนี้ (27 มี.ค.)
ถึงกรณีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติ 6 ต่อ 1 เห็นว่า ถ้ากรรมการบริหารพรรคกระทำทุจริต ก็ถือว่าพรรคการเมืองนั้นกระทำความผิดไปตามมาตรา 103 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่า กกต.ต้องมีการวินิจฉัย และส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน ในส่วนพรรคที่ถูกตัดสิทธิ์ ส.ส.ยังสามารถทำหน้าที่ในสภาฯ ได้ต่อไป และการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมพรรคการเมือง ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลฎีกาก่อน ดังนั้นผู้ที่มีหน้าที่ต่อสู้คดี ก็ต้องเดินหน้าชี้แจงต่อไป และอย่านำเรื่องดังกล่าวมาเป็นเงื่อนไขการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ไม่เห็นด้วยจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 และ 309
“ขอเรียกร้องพรรคพลังประชาชนอย่าใช้เสียงข้างมาก ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของตนเอง ขอให้ฟังเสียงของสังคม เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว และว่า ในส่วนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นั้น นายสุเทพซื้อที่ดินมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากมีการเพิกถอนสิทธิ์ต้องดูที่มาที่ไปของการซื้อขายด้วย และหากพบว่า ทำผิดจริงก็สามารถเอาผิดตามกฎหมายได้อย่างเต็มที่
ขณะที่เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอให้ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงตรวจสอบพื้นที่ ที่จ.สุราษฎร์ธานีด้วยตนเอง ตนยินดีให้ความร่วมมือ และพร้อมให้ตรวจสอบทุกอย่าง