เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (25 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ในฐานะกำกับดูแลบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ว่า ตนจะตั้งคณะทำงานเพื่อประเมินผลการทำงานของบริษัท อสมท โดยตนเป็นประธาน ซึ่งเบื้องต้นได้รับทราบข้อมูลว่า มีผลประกอบการขาดทุนเป็นเงิน 27 ล้านบาท ซึ่งถือว่าขาดทุนครั้งแรกในรอบ 10 ปี ตรงนี้เป็นที่กังวลของผู้ ถือหุ้นพอสมควร ในฐานะที่รัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และ ตนดูแล อสมท ด้วย จึงจำเป็นต้องดูว่าเหตุผลอะไรที่นำไป สู่การขาดทุน ผู้บริหารชุดปัจจุบันมีความคิดในการแก้ไขปัญหาอย่างไร
เมื่อถามว่า ที่เคยระบุว่ามีการบริหารในลักษณะน่าสงสัยเกิดจากอะไร
นายจักรภพตอบว่า เป็นเรื่อง ที่จะให้คณะทำงานพิจารณา เพราะที่ได้ยินมา ถ้าพูดออก ไปเลยอาจไม่เป็นธรรมแก่ผู้ถูกวิจารณ์ มีข่าวเกี่ยวกับเรื่อง หัวคิวรายการ การสลับย้ายผังรายการ แต่เป็นเพียงเสียงลือเสียงเล่าอ้าง ดังนั้น จะไม่ชี้ชัดอะไรลงไปจนกว่าจะมี การตรวจสอบอย่างเป็นระบบ
นายจักรภพกล่าวว่า การตั้งกรรมการประเมินผลครั้งนี้ ตนไม่ได้มุ่งไปที่ตัวบุคคล
แต่ขั้นตอนจะพาไปสู่จุด นั้นเอง ภายในสัปดาห์หน้าจะเสนอชื่อบุคคลที่จะเข้ารับ หน้าที่เป็นกรรมการบริหาร (บอร์ด) บริษัท อสมท ซึ่งมี 9 ที่นั่ง จาก 13 ที่นั่ง ตามกฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนว่า ต้องมีความเชี่ยวชาญด้านใด ไม่สามารถเสนอเป็นการทั่วไป ได้ และขอยืนยันว่า จะไม่มีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน หรือชื่อ นพ.เหวง โตจิราการ และนาย จรัล ดิษฐาอภิชัย เข้ามาร่วมอย่างแน่นอน ชื่อบอร์ดที่นำ เสนอเข้าไปต้องได้รับการอนุมัติอีกครั้งจากที่ประชุมผู้ ถือหุ้นในเดือน เม.ย. หรือ พ.ค.นี้ จากนั้นการพิจารณาว่า ผู้บริหารปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่