ทักษิณห่วงชาวบ้านถูกล้างสมองเป็นแนวร่วมโจรใต้

นายกฯประเดิมงาน ฟัง"ชิดชัย"รายงานสถานการณ์ใต้ พร้อมห่วงใยชาวบ้านที่ถูกล้างสมองกลายเป็นแนวร่วมกลุ่มผู้ไม่หวังดี ด้านรองนายกฯเตรียมลงคลี่คลายปัญหาในพื้นที่สัปดาห์หน้า ชวนติงอย่าประเมินสถานการณ์ใต้ต่ำ


(22พค.) พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยภายหลังการรายงานสถานการณ์ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ว่า ได้รายงานสถานการณ์ให้นายกรัฐมนตรีรับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและได้เสนอมาตราการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า 4 ข้อ คือ 1.ให้มีการหารือร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการเกี่ยวกับเรื่องครูและนักเรียนในพื้นที่ 2. ให้แม่ทัพภาคที่ 4 ประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด ครูและตำรวจในพื้นที่วางกำลังเพื่อให้เกิดความมั่นใจ 3. เรื่องการข่าว และ4.เข้าไปพัฒนาหมู่บ้านโดยเพิ่มงานด้านจิตวิทยามวลชน

" ผมจะลงพื้นที่ในสัปดาห์หน้า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม ส่วนการแก้ไขปัญหาจะต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดผลกระทบข้างเคียง ต้องวางแผนร่วมกัน ซึ่งคงจะพูดรายละเอียดไม่ได้ ถ้าหากพูดไปผู้ก่อความไม่สงบจะดักทางถูก " พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวปฏิเสธที่จะบอกถึงแนวทางป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ถูกทำร้ายอีก

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงใยเป็นพิเศษในเรื่องกองกำลังที่ถูกล้างสมอง ที่สามารถทำเรื่องที่โหดเหี้ยม ฉะนั้นต้องลงไปในหมู่บ้านเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติ

ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ที่ล่าสุดมีการจับครูเป็นตัวประกันและทำร้ายร่างกายว่า สถานการณ์ตอนนี้คงต้องให้เจ้าหน้าที่แต่ละฝ่ายช่วยระดมกำลังเพื่อป้องกันให้กับครูและชาวบ้านก่อน ซึ่งที่ผ่านมา พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้พูดถึงสถานการณ์ภาคใต้ทุกเดือน และแต่ละเดือนก็พูดว่าดีขึ้น ๆ ซึ่งตนคิดว่าเป็นเรื่องที่จะต้องระมัดระวัง เพราะการประเมินจากผู้ใหญ่ลงไปจะทำให้คนหลงทางได้ หากประเมินว่าเหตุการณ์ดี ก็อาจจะเกิดการประมาทขึ้นได้ ดังนั้นการประเมินเหตุการณ์จะต้องเอาความจริงมาพูดกัน และต้องไม่ประมาท

ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การประเมินเหตุการณ์ต้องอย่าไปหวังเพื่อปลอบใจตัวเองหรือปลอบใจใคร ต้องเอาความจริงมาพูดกัน เพื่อไม่ให้คนประมาท เพราะความประมาทเป็นเรื่องใหญ่ ตอนนี้ก็ต้องหาทางให้เจ้าหน้าที่ช่วยไปดูแลพี่น้องประชาชน และครูอย่างจริงจัง เป็นมาตรการป้องกัน ส่วนนายกรัฐมนตรีก็ควรไปทบทวนการทำงานเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งตนจะไม่ขอพูดตรงนี้แล้ว เพราะพูดมามากแล้วว่า ผลที่เกิดขึ้นมาจากการที่เอานโยบายความมั่นคงมา ทำโดยไม่ค่อยคำนึงถึงความเป็นจริง แล้วไม่ปรึกษาหารือผู้รู้ด้านนี้ ทำตามความคิดตัวเอง พอเกิดความผิดพลาดขึ้นมาในที่สุด แก้ไขยาก

นโยบายบางเรื่องอาจจะผิดพลาดแล้วแก้ไขได้ง่าย ลดตัวเลขได้ ชดเชยตัวเลขได้ แต่สำหรับความมั่นคงนั้นลดไม่ได้ ชีวิตที่สูญเสียไป ชีวิตที่บาดเจ็บ อย่างครูสองคนที่ทุกข์ทรมานจากการทำร้าย ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ชดเชยด้วยอะไรก็ไม่ได้ ดังนั้นคือสิ่งที่เตือนให้ผู้กำหนดนโยบายระลึกตลอดเวลาว่า นโยบายความมั่นคงของชาติทดลองไม่ได้ เอามาทำเล่นไม่ได้ เอาทดลองไม่ได้ ต้องรู้จริง ๆ ต้องเข้าใจจริง ๆ และความจริงบ้านเมืองก็มีผู้รู้ อย่างน้อยหน่วยความมั่นคงที่เกี่ยวข้องถือว่าเป็นผู้ที่รอบรู้ในเรื่องนั้นอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนแรก ๆ เราละเลยเรื่องนี้ไป มารู้สึกตัวในตอนหลังเริ่มหันมาหาสภาความมั่นคงแห่งชาติอีกที ก็ไปไกลแล้ว ตอนนี้ต้องขอให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติทั้งฝ่ายตำรวจ ทหาร ฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมือง รวมถึงประชาชนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่น รวมถึงพระสงฆ์ ขออย่าประมาทนายชวน กล่าว

ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเข้าไปแก้ไขปัญหาภาคใต้มา 30-40 ปี ทำให้เหตุร้ายในภาคใต้เบาลง ๆ คือความร่วมมือที่พระองค์รับสั่งถึงความเข้าถึง เข้าใจ และพัฒนา ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก การที่จะให้ประชาชนมาร่วมมือนั้นจะต้องใช้ความอดทนสูง ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องอดทนและทำอย่างต่อเนื่องโดยไม่เว้น คือทำให้รู้สึกว่ารัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา ส่วนคนที่ทำผิดจะต้องดำเนินการโดยไม่ละเว้น และต้องมีความชัดเจน หากกลับไปกลับมา วันหนึ่งทำอย่าง อีกวันทำอีกอย่าง ไม่อยู่ในร่องในรอยจะมีปัญหา ซึ่งตนเชื่อว่าประชาชนในพื้นที่ทุกศาสนาต้องการให้คนผิดต้องรับผิด และต้องการให้คนบริสุทธิ์ได้รับความคุ้มครอง ไม่ว่าจะเป็นชาวพุทธหรือมุสลิม และอย่าประเมินอย่างประมาทว่า การที่ชาวบ้านไม่พูดจะแสดงว่าเห็นด้วย หรือการไม่พูดจะเป็นการยอม อย่างไรก็ตามเห็นว่าขณะนี้แม่ทัพภาคที่ 4 พยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหา แต่ควรมีการประสานงานมากขึ้น เพราะสิ่งหนึ่งที่ประชาชนพูดเสมอคือการประสานงานระหว่างฝ่ายต่าง ๆ ตั้งแต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ลงไปถึงชาวบ้านถือเป็นสิ่งที่ต้องทำต่อเนื่อง และละเว้นไม่ได้