สุรยุทธ์ ไปนอกปัดแจงคดีทักษิณ

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตที่เกิดขึ้นในรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 

เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (24 มี.ค.) ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นายกล้านรงค์ จันทิก คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะอนุกรรมการตรวจสอบกรณีการเอื้อประโยชน์ต่อตนเองและพวกพ้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ คตส.มีหนังสือเชิญ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ทราบว่า พล.อ.สุรยุทธ์เดินทางไปต่างประเทศ โดยให้นายทหารคนสนิทมาแจ้ง คตส.ทราบว่าไปราชการ และมีหลักฐานในการเดินทางไปจริง โดยที่ประชุมคณะอนุ-กรรมการฯ จะร่วมหารือและจะนัดวันเวลาที่จะเชิญอดีตนายกรัฐมนตรีมาอีกครั้งหนึ่ง

ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ต้องเดินทางมาให้ข้อมูลด้วยตนเอง จะมอบหมายให้บุคคลอื่นมาแทนไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่เชิญท่านมาเป็นพยาน เพราะ คตส.ต้องการข้อมูลที่ท่านทราบและเคยให้สัมภาษณ์ร่วมประกอบพิจารณา โดยมีคำถามที่ต้องการข้อมูลในหลายประเด็น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเวลาเดียวกัน ขณะที่รถเบนซ์ รุ่นเอสคลาส 320 สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน สฬ 7337 กทม.ของนายสัก กอแสงเรือง กรรมการ คตส.ได้ขับเข้าบริเวณด้านหน้าสำนักงาน สตง.

ปรากฏว่าได้มีกระเบื้องตกแต่งอาคาร สตง.ซึ่งปูนหมดอายุของได้หล่นลงมาใส่กระโปรงท้ายรถคันดังกล่าวแล้วกระเด็นขึ้นไปด้านบนของหลังคารถ และสุดท้ายมาตกที่ฝากระโปรงหน้า เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้บริเวณดังกล่าวเป็นแผลเจาะลึกในเนื้อเหล็ก โดยนายสักไม่ได้สนใจดูพร้อมบอกคนขับรถให้เรียกบริษัทประกันภัยรถมาดูที่เกิดเหตุและ ความเสียหายแทน

นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวว่า

ส่วนเรื่องถึงการของบประมาณ 19 ล้านบาทเพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายและการฟ้องคดีเองของ คตส.ว่า อยู่ในระหว่างการประสานระหว่างสำนักงบประมาณกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนจะได้รับการจัดสรรหารือไม่นั้นอยู่ที่ ครม. แต่ตามประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ข้อ 4 ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องสนับสนุนงบประมาณในการทำงานของ คตส.ถือเป็นกฎหมายที่รัฐบาลจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายด้วย

เมื่อถามว่า คตส.ทำงานลำบากมากขึ้นหรือไม่

นายสักตอบว่า เราทำงานในลักษณะนี้มานานแล้ว จนชินแล้ว ไม่ใช่เรื่องลำบาก ส่วนเรื่องเงินงบประมาณหากไม่ได้รับ ไม่ใช่ปัญหาในการทำงานของ คตส. เพราะเราได้รับเงินเดือน หรือไม่ได้รับ เราก็ทำงานไปตามหน้าที่ ขณะนี้เข้าขั้นอดเงินเดือนแล้ว แต่ยังไม่ถึงกับอดข้าว คตส.จะทำงานไปจนถึงที่สุด โดยส่วนตัวคิดว่าหากถึงที่สุด จะทำรายงานผลงานของ คตส. ให้ประชาชนทราบ หากประชาชนเห็นด้วยกับงานของ คตส. ก็จะขอให้ประชาชนช่วยสนับสนุนการทำงาน