เลี้ยบชี้คดียุบพรรคสะเทือนศก.

น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.คลัง

ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ปัญหาการเมืองในประเทศกระทบต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดความไม่มั่นใจทั้งต่อนักลงทุนไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะความไม่มั่นใจเกี่ยวกับการยุบพรรค การพิจารณาคดียุบพรรคชาติไทยและมัชฌิมาธิปไตยที่คาดการณ์ว่าอาจเชื่อมโยงถึงการยุบพรรคพลังประชาชนด้วย เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศไทย จึงต้องพิจารณาอย่างมีสติและใคร่ครวญว่าปัญหาเกิดจากอะไร ก่อนหน้านี้มี กกต.บางคนบอกว่าไม่มีทางเลือก ต้องทำตามกฎหมายเพราะรัดคอไว้ คงต้องทบทวนว่ากฎหมายที่มีอยู่มีประโยชน์ ต่อการพัฒนาการเมืองมากน้อยเพียงใด

"ประเด็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองกระทำผิด นำไปสู่การยุบพรรคและตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ถูกหยิบยกขึ้นมาหลังการปฏิวัติ 19 ก.ย.2549 หลายฝ่ายระบุจะช่วยพัฒนาการเมือง คำถามคือพัฒนาได้จริงหรือเพราะอนาคตพรรคการเมืองจะมีจำนวนกรรมการบริหารพรรคน้อยลง อาจเหลือแค่ 10 คน แต่ละพรรคจะเสนอบุคคลที่ไม่ใช่แกนนำเป็นหัวหน้าพรรค เลขาธิการ และกรรมการบริหารพรรค หัวหน้าพรรคที่ชนะการเลือกตั้งอาจไม่ได้เป็นนายกฯ เพราะแกนนำพรรคที่แท้จริงไม่ใช่หัวหน้าพรรค นายกฯ อาจมาจากสมาชิกพรรคคนหนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดประเด็นยุบพรรคและการเพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้ง เป็นวิธีหลบเลี่ยงกฎหมายแล้วจะพัฒนาการเมืองได้อย่างไร ใครทำผิดก็ควรลงโทษคนนั้นอย่าโยนไปสู่องค์กร หากดูกฎหมายธุรกิจ กรรมการหรือผู้จัดการบริษัททำผิดไม่ได้หมายความว่าต้องยุบบริษัท สุดท้ายจะนำไปสู่การเมืองจอมปลอม กรรมการบริหารพรรคจะเป็นตัวปลอม" น.พ.สุรพงษ์กล่าว

น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่า ต้องทบทวนว่าการยุบพรรคเป็นสิ่งสมควรหรือไม่

การกระทำผิดของกรรมการบริหารพรรคคนใดคนหนึ่งเป็นเหตุให้พรรคการเมืองที่มีสมาชิกเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้านคนต้องถูกยุบพรรคตามไปด้วย กรรมการบริหารพรรคคนอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำผิดกลับต้องถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง จึงต้องมองย้อนไปที่รัฐธรรมนูญในมาตราที่เกี่ยวข้องสมควรแก้ไขหรือไม่ ถ้าแก้ไขเพื่อให้ปัญหาความไม่มั่นใจไม่มีเสถียรภาพและไม่ทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาได้จริง ก็ควรแก้ไขเพื่อให้เกิดความมั่นใจแก่ทุกฝ่ายมากขึ้น ส่วนกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญนั้น อยากจะให้เป็นเรื่องของส.ส.หรือสมาชิกรัฐสภา หรือการเข้าชื่อของประชาชนพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร ที่ผ่านมามีนักวิชาการบางคนเห็นว่าการยุบพรรคที่ง่ายเกินไปอาจไม่เหมาะสม

น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่า พรรคพลังประชาชนจะพูดคุยแลกเปลี่ยนกันว่าส.ส.ของพรรคเห็นอย่างไร
 
การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างกว้างขวางจะนำไปสู่การสรุป ทำให้เราสามารถปลดล็อกเงื่อนที่ทำให้ กกต.หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องซึ่งวันนี้ต้องทำไปตามระเบียบหรือกฎหมายที่อาจมีปัญหา ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการพัฒนาทางการเมืองหรือเสถียรภาพทางการเมือง จะได้มีความสบายใจว่าไม่ถูกข้อบัญญัติทางกฎหมายรัดคอในเรื่องที่ไม่แน่ใจว่าเป็นสิ่งที่สมควรกระทำหรือไม่