ไทยโพสต์
21 พฤษภาคม 2549 กองบรรณาธิการ
ระบอบทักษิณฟูลทีมอีกครั้ง "แม้ว" สบช่องโหน "ตันหยงลิมอ 2" กลืนน้ำลายเพื่อชาติกลับมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกครั้ง อ้างอีกหลายเดือนกว่าจะเลือกตั้ง
ปล่อยไปบ้านเมืองจะแย่ ลูกหาบเชียร์ลั่นขาด "แม้ว" ประเทศไปไม่รอด อ้างทั้งไทยรักไทย-ครม. ประชาชนนับล้าน ช่วยกันดันก้นเข้าทำเนียบฯ ดีเดย์จันทร์นี้ พันธมิตรฯ ชี้เป็นนักฉวยโอกาสทางการเมือง ทั้งที่ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดขึ้นจากน้ำมือตัวเอง เชื่อการรีเทิร์นจะทำให้ไฟใต้ลุกลามหนักขึ้น
สถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนที่ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง หลังการจับครูโรงเรียนบ้านกูจิงรือปะ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพื่อต่อรองให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวผู้ต้องหาในคดีก่อความไม่สงบนั้น กลายเป็นช่องทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ประกาศกลับเข้าทำหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยอีกครั้ง โดยจะเริ่มอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 พฤษภาคม 2549 นี้
พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่หน้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ว่า วันที่ 22 พฤษภาคม จะหารือถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดนราธิวาสกับ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกฯ ซึ่งขณะนี้ให้ พล.ต.อ.ชิดชัยดูแลอยู่
รักษาการนายกฯ บอกว่า ยังคงมีปัญหาเป็นจุดๆ บางจุดฝ่ายก่อความไม่สงบมีการจัดตั้งไว้นาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามเข้าไปทำความเข้าใจอธิบาย และบางจุดในขณะนี้ดีขึ้นมาก แต่บางจุดมันต้องใช้เวลาหน่อย ตนยอมรับว่าเป็นเรื่องที่น่าสลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความจริงคือเรามีภาพกล้องวงจรปิดที่เห็นคนร้ายไปยิงนาวิกโยธินแล้วเอาปืนไป เราก็เอาภาพไปให้ชาวบ้านดูความเข้าใจก็ดีขึ้น แต่ว่าก็ต้องดำเนินคดีผู้ที่ทำผิด
ผู้สื่อข่าวถามว่าประชาชนในพื้นที่ยังไม่ค่อยเข้าใจ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า อย่างที่ตนบอกให้ฟังมีเป็นจุดๆ บางจุดมีการจัดตั้งเข้มแข็งอยู่เดิมของพวกก่อความไม่สงบ ทางเราพยายามเข้าไปอธิบายให้ฟังก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่เผอิญว่าหมู่บ้านที่เกิดเรื่องมีคนคนหนึ่ง ซึ่งฆ่านาวิกโยธิน และเรามีภาพถ่ายเสร็จเรียบร้อย เราก็มีหลักฐานพร้อมแล้วก็ไปจับ พอไปจับมาทางนี้ก็เลยมาปิดล้อม เพราะเข้าใจว่าคนที่เข้าไปทำไม่ดีนั้นเป็นคนดี อันนี้เราก็พยายามเข้าไปอธิบายให้เขาฟัง
เมื่อถามต่อว่าถือเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมมาก พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ใช่แน่นอนไม่เลือกว่าเป็นครูหรือผู้หญิงซึ่งต้องดำเนินคดีอยู่แล้ว และต้องดำเนินคดีต่อไป เชื่อว่ามีผู้ยุยงชาวบ้านแน่นอน
แต่เมื่อซักว่าทำไมเจ้าหน้าที่จึงเข้าไปถึงเหตุการณ์และให้ความช่วยเหลือช้า รักษาการนายกฯ ที่พักงานมาร่วม 2 เดือนตอบว่า วันนี้รายละเอียดตนยังไม่ทราบ ต้องไปถาม พล.ต.อ.ชิดชัย
ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องแบบนี้เคยมีบทเรียนมาแล้วและถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำซาก พ.ต.ท.ทักษิณชี้แจงว่า รายละเอียดขั้นตอนการเข้าไปช้าหรือเร็วตนยังไม่ทราบ รายละเอียดต้องถาม พล.ต.อ.ชิดชัย แต่หลักการเราเคลียร์หมดแล้ว
ซักว่าจะมีการปรับแผนการทำงานหรือไม่ รักษาการนายกฯ ตอบว่า เอาไว้ให้ผมกลับไปทำงานก่อนได้มั้ย "ให้ผมกลับเข้าไปทำงานนิดหนึ่ง"
เมื่อถามว่าวันจันทร์จะมีการเรียกประชุมสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เลยหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า คงจะมีการประชุมไปเรื่อยๆ
ถามต่อว่าจะกลับมาทำงานเต็มตัวแล้วใช่หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า ครับ ก็ต้องทำงานเพราะอีกหลายเดือนกว่าจะเลือกตั้งเดี๋ยวบ้านเมืองจะแย่ ถ้าไม่ทำเดี๋ยวบ้านเมืองจะแย่
"ตอนนั้นนึกว่ามันจะเลือกตั้งเลย ทีนี้พอจะมีอีกหลายเดือนถึงจะเลือกตั้ง ก็คงต้องไปทำงานไม่งั้นบ้านเมืองจะแย่"
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงการเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อค่ำวันที่ 19 พฤษภาคมว่าพระองค์ทรงเป็นห่วงเรื่องอะไรบ้าง พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า ผมขอเข้าเฝ้าฯ ส่วนพระองค์ คงจะพูดอะไรไม่ได้
ด้าน พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกฯ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ปกติเป็นเรื่องที่ต้องระวังอยู่แล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบมาก ซึ่งการเข้าทำงานในพื้นที่ต้องมีการระมัดระวังการถูกปิดล้อม และครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรก ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้บทเรียนก็จะต้องมีแผนในการปฏิบัติงาน และจะได้ระมัดระวังในเรื่องนี้ โดยเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่เป็นประจำมากขึ้น เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าเขายังมีการเคลื่อนไหวในบางพื้นที่
ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องการข่าวไม่สามารถสนับสนุนการป้องกันเหตุได้ รักษาการรองนายกฯ ตอบว่า เมื่อครั้งที่ตนลงไปในพื้นที่ภาคใต้ ได้มีการคุยกับคนในพื้นที่ในปัญหาเรื่องการข่าว และการลงพื้นที่เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ตนบอกได้เลยว่าเราได้ข้อมูลอะไรบางอย่างที่จะเป็นตัวเพิ่มกิจกรรมบางอย่างลงไปในพื้นที่ ซึ่งก็อยู่ในขอบเขตของการข่าวที่จะเพิ่มขีดความสามารถได้ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเราได้อะไร เพราะถ้าบอกจะทำงานไม่ได้ ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ก็ทำงานในเชิงรุกได้มากขึ้น เมื่อเกิดเหตุก็สามารถตามจับคนร้ายได้ทุกกรณี
ซักว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงลงไปล่าช้า พล.ต.อ.ชิดชัยแย้งว่าไม่ใช่ ปกติจะมีกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขระดับอำเภอ ซึ่งจะเป็นผู้ทำงานในส่วนนี้ ส่วนกรณีที่มีการปิดล้อมนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงก็จะลงไปดูเอง ซึ่งมีขั้นตอนปฏิบัติอยู่ ตนไม่อยากให้โทษกันไปโทษกันมา สิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นบทเรียนว่าจะนำไปแก้ไขอย่างไร
"บางชุมชนที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มอิทธิพล เราต้องเชิญกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเข้ามาดูในพื้นที่และหาวิธีการแก้ไข ถ้าวิเคราะห์ให้ดีจะเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีความถี่ของพื้นที่ที่เกิดในตำบล และอำเภอเดิมๆ ซึ่งตรงนี้เป็นเป้าหมายของการสลายการก่อความไม่สงบ โดยจะต้องสร้างสันติสุขขึ้นมาให้ได้ ซึ่งการสลายก็จะต้องใช้วิธีสันติสุข ปฏิบัติการทางจิตวิทยาพัฒนาคุณภาพชีวิต ถอนแก่นของปัญหาที่อยู่ในหมู่บ้านออกมา"
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดูเป็นการร่วมมือกันทั้งหมู่บ้าน พล.ต.อ.ชิดชัยตอบว่า ก็ดูเหตุการณ์ที่ตันหยงลิมอ นั่นแหละคือตัวอย่าง ดังนั้นการทำงานในพื้นที่ไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นได้ตลอด ตนถึงบอกว่าต้องให้กำลังใจเขาเยอะๆ ส่วนเรื่องการปรับเปลี่ยนทัศนคติของชาวบ้าน ก็เปลี่ยนแปลงได้เยอะแล้ว แต่ตอนแรกที่ลงไปตนมองว่ามืดสนิท
"ผมพอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่สามารถแก้เกมได้ ดีกว่าที่เราจะตกเป็นเบี้ยล่างตลอด อย่างเมื่อวันที่ 18 พฤษภา. ผมก็บอกว่าเรื่องการข่าวเรายังตามหลังพวกก่อความไม่สงบอยู่ 1 ก้าว แต่พอเห็นการปฏิบัติงานจริง ก็ต้องชื่นชมว่าเป็นปฏิบัติการในเชิงรุกที่ดี สามารถติดตามได้ ตรวจสอบได้ แต่มากกว่านั้นคือทำอย่างไรถึงจะดักทางผู้ก่อความไม่สงบได้มากกว่านี้ รู้ล่วงหน้ามากกว่านี้" รักษาการรองนายกฯ กล่าว
นายสมชาย สุนทรวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เปิดเผยถึงอนาคตทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งกลับมาทำงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง แม้ว่าจะมีการทำหนังสือราชการว่าขอลาพักจากการเป็นนายกรัฐมนตรีไปจนกว่าจะรัฐบาลชุดใหม่ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการประชุมใหญ่พรรคไทยรักไทย ตนในฐานะประธาน ส.ส.ของพรรคก็ได้สอบถามและพูดคุยกับ ส.ส.ถึงสถานการณ์บ้านเมือง รวมทั้งประเด็นเรื่องบทบาททางการเมืองของหัวหน้าพรรคซึ่งยังคลุมเครือ โดยสมาชิกพรรคทุกคนต่างลงความเห็นพ้องต้องกันว่า อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อแก้ไขปัญหาบ้านเมืองต่อไปอีก
ประธาน ส.ส.พรรคไทยรักไทยบอกว่า สาเหตุที่ไม่อยากให้ ส.ส.ของพรรคออกมาแสดงท่าทีชัดเจนในการสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณให้กลับมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีก เป็นเพราะไม่อยากให้สังคมจับตาวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งความจริงวันนี้ก็คือปัญหาบ้านเมือง อย่างเรื่องยาเสพติด ก็กลับมาระบาดหนักอีกครั้ง ถ้าไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่มีทางที่ยาเสพติดจะหมดไป
นอกจากนี้นโยบายต่างๆ ของพรรคก็ยังต้องการผู้นำที่ดีอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาขับเคลื่อน ซึ่งวันนี้ชัดเจนแล้วว่า ถ้าขาด พ.ต.ท.ทักษิณ นโยบายต่างๆ ของพรรคไม่มีทางสำเร็จได้เลย โดยเฉพาะนโยบายการปราบปรามยาเสพติด ส่วนปัญหาเศรษฐกิจตอนนี้ก็น่าเป็นห่วง แม้ก่อนหน้านี้จะมีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้วางตัวนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองหัวหน้าพรรค ไว้เป็นนายกรัฐมนตรีสำรอง แต่หากมองในแง่ของการบริหาร ความฉับไว บารมี รวมไปถึงอำนาจสั่งการทางการเมืองแล้ว ผู้ที่เหมาะสมที่สุดก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณนั่นเอง การเอานายสมคิดมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทนก็คงอยู่เป็นได้ไม่นาน
"ที่ผ่านมาในการประชุมคณะรัฐมนตรีก็เคยมีการหารือเรื่องนี้ด้วย ว่าวันนี้ต้องเอาบ้านเมืองไว้ก่อน ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่ต้องแก้ทุกๆ ด้านพร้อมกันด้วย การที่ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาเป็นนายกฯ คือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด" รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทยกล่าว
เมื่อถามถึงกระแสต่อต้านจากสังคมหาก พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกทั้งๆ ที่ประกาศเว้นวรรคไปแล้ว นายสมชายตอบว่า อยากให้กลุ่มเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีจิตสำนึกเพื่อบ้านเมืองบ้าง ไม่ใช่เอาแต่เอาชนะคะคานทางการเมืองอย่างเดียว ควรไปพิสูจน์กันในเวทีเลือกตั้งตอนปลายปี 2549 ดีกว่า เพราะขณะนี้สถานการณ์ต่างๆ ได้พิสูจน์แล้วว่า หากไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณแล้วประเทศชาติจะไปไม่รอด และอยากให้กลุ่มพันธมิตรฯ ลองไปถามประชาชนก็ได้ว่าประชาชนจะเอาใครเป็นนายกฯ และอยากให้ใครมาแทนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนเชื่อมั่นว่าประชาชนอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาอย่างแน่นอน
"เชื่อว่าท่านทักษิณจะกลับมา เพราะคนอย่างท่านทักษิณไม่ทิ้งบ้านทิ้งเมืองอยู่แล้ว ขอเพียงทุกคนตัดใจยอมรับว่าประเทศขาดผู้นำอย่างท่านทักษิณไม่ได้"
ผู้สื่อข่าวถามถึงการเคลื่อนไหวสนับสนุน การกลับมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ ส.ส.ไทยรักไทย นายสมชายตอบว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีจิตสำนึกในความรักบ้านเมืองมากกว่าคนบางกลุ่มที่ไม่คำนึงถึงบ้านเมืองและประชาชน ส.ส.ไทยรักไทยทุกคนแสดงจุดยืนชัดเจนอยู่แล้วว่าสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ แต่จะมีการเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่นั้นยังไม่สามารถตอบได้ เพราะ ส.ส.ทุกคนเชื่อมั่นว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
น.ต.ศิธา ทิวารี โฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า จากคะแนนนิยมของประชาชนในการเลือกตั้งทุกครั้งเป็นเครื่องยืนยันชัดเจนว่าประชาชนอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งความรู้สึกของสมาชิกพรรคทุกคนตอนนี้ก็ตรงกับความต้องการของประชาชนหลายล้านคน แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณว่าจะตัดสินใจอย่างไร กระแสกดดันพรรคไทยรักไทยและตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องมีบ้าง เนื่องจากประชาธิปไตยที่เดิมคือระบบของเสียงส่วนมาก ไม่ใช่เสียงดังมาก แต่ตอนนี้คนที่เป็นเสียงส่วนมากจะพูดเบา อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเองก็ไม่อยากให้เกิดความแตกแยกในสังคม การจะทำอะไรก็คงต้องพิจารณาให้รอบคอบ แต่ถึงอย่างไรทั้งหมดทั้งมวลก็ต้องขึ้นอยู่บนฐานของบ้านเมืองเป็นหลัก
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตยและผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงการกลับมาทำหน้าที่ของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ถือเป็นนักฉวยโอกาสทางการเมือง ทั้งที่วิกฤตการณ์ปัญหาที่เรื้อรังเกิดจากตัวเอง และน่าเวทนาอย่างยิ่งที่ใช้วิธีการปูทางด้วยการให้ลิ่วล้อไทยรักไทยตั้งเครือข่ายผู้ได้ลูกคืนจากนโยบายปราบปรามยาเสพติด มาอ้อนวอนขอให้กลับเข้ามาทำงาน ทั้งที่นโยบายปราบปรามยาเสพติด แม้เป็นนโยบายที่ดีแต่รัฐบาลทักษิณใช้วิธีฆ่าตัดตอนจนเกิดศพไร้ข้อหากว่า 3,000 ศพ และยังไม่มีความคืบหน้าในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงอาจจะถึงขั้นตายฟรี และระวังด้วยว่าจะเจอเครือข่ายญาติผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัดตอนมาทวงถามความคืบหน้าเอาบ้าง
"และที่สำคัญน่าเวทนาอย่างยิ่งที่จนป่านนี้ยังไม่รู้ว่าวิกฤตการณ์ปัญหาภาคใต้เกิดจากนโยบายที่ผิดพลาดล้มเหลวของรัฐบาลตัวเอง แต่จะกลับเสนอหน้ามานั่งเป็นประธานแก้ปัญหาดับไฟใต้ เหมือนเป็นตลกร้ายทางการเมือง ต้องยอมรับว่าปัญหาภาคใต้ที่ยังเรื้อรังอยู่เพราะความไม่พอใจต่อผู้นำประเทศ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ถ้าคุณทักษิณยังไม่ยอมรับข้อเท็จจริงก็น่าเป็นห่วงว่าสถานการณ์ภาคใต้อาจจะกลับรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง และล่าสุดแค่มีข่าวว่าคุณทักษิณจะกลับมาสถานการณ์ 3 จังหวัดภาคใต้ก็ดูจะรุนแรงขึ้นหนักกว่าเดิม"
นายสุริยะใสกล่าวด้วยว่า สำหรับท่าทีของพันธมิตรฯ นั้น ถ้าหากเสร็จสิ้นงานพิธีเฉลิมฉลองครองราชย์ 60 ปีแล้ว แต่ พ.ต.ท.ทักษิณยังนั่งอยู่เป็นนายกฯ อีกเราก็พร้อมชุมนุมใหญ่ได้ตลอดเวลา เพื่อเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณลาออกไป แต่ในระหว่างนี้คงใช้วิธีเปิดโปงตีแผ่วาระซ่อนเร้นผ่านรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ และเวทีสัมมนาตามจังหวัดต่างๆ ไปก่อน ส่วนกรณีที่เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจนั้น อยากถามว่าเศรษฐกิจแบบทักษิโณมิกส์ ทำให้คนส่วนน้อยหรือธุรกิจในเครือรัฐบาลเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ แต่สังคมอ่อนแอและชาวบ้านเป็นหนี้เพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว และเกิดระบบเศรษฐกิจแบบผูกขาด จนผู้ประกอบการรายย่อยและขนาดกลางออกมาเดินขบวนกับพันธมิตรฯ.