เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลไม่สนใจที่จะเข้าไปแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ฝ่ายค้านเขาพูดเราก็ต้องฟัง แต่ถามว่าให้ความสำคัญหรือไม่ ตนให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวด ตนเดินทางออกมาจากบ้านในช่วงเช้าก็คุยโทรศัพท์กับผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ปัตตานี จนถึงทำเนียบ เพราะผู้บังคับการฯ เคยทำงานกับตนมาในสมัยที่ตนรับราชการตำรวจ รู้รายละเอียดครบถ้วน แต่สถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ แก้โดยรัฐบาลโดยกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทยไม่ได้ ต้องเป็นองคาพยพ รู้อะไรก็พูดยาก แต่ในวันที่ 21 มี.ค.นี้ เวลา 09.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล จะมีการประชุมกัน โดยนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นัดประชุมทุกภาคส่วนเป็นองค์คณะใหญ่
“ เราอุตส่าห์ไปขอความกรุณาฝ่ายค้านโดยพรรคประชาธิปัตย์มี ส.ส.ในพื้นที่มาก ก็คิดว่าน่าจะรู้อะไรเยอะ ผมไม่อับไม่อาย ผมเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์รู้เยอะกว่าผม เพราะเขามีผู้แทนในพื้นที่ ถามว่าผมสนใจหรือไม่ ผมเรียนตรงๆ ว่าติดตามสถานการณ์ทุกอย่างทุกวัน ผมมีตำรวจในพื้นที่ ซึ่งเป็นลูกน้องเก่าระดับผู้กำกับเยอะ ก็ทราบรายละเอียด ไม่ใช่ว่าไม่สนใจ และคิดว่าถึงเวลาแล้วสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ผมอุตส่าห์ไปหาถึงห้องผู้นำพรรคฝ่ายค้าน ท่านอย่ามาวิพากษ์วิจารณ์เลย ผมยอมรับว่าผมไม่มีปัญญาแก้ มหาดไทยอย่างเดียวไม่มีทาง งานนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องช่วย ” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นเพราะฝ่ายค้านไม่ให้ความร่วมมือหรืออย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า อย่าไปบอกว่าเขาไม่ให้ความร่วมมือ แต่เขาไม่ได้บอกมา
ซึ่งเขาอาจจะกำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ ปัญหาภาคใต้ต้องช่วยกันอย่าไปมองว่าใครเป็นรัฐบาล ใครเป็นฝ่ายค้าน ประชาธิปัตย์รู้ประเด็นข้อเท็จจริงมากกว่า เมื่อถามว่าเป็นเพราะรัฐบาลและพรรคพลังประชาชนไม่มีนโยบายที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาภาคใต้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะนโยบายมีแผน ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี ทุกอย่างชัดเจน ความไม่สงบเรียบร้อยจะไม่แก้ได้อย่างไร แต่เวลาตนพูดอะไรออกไปก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ เราต้องยอมรับว่าวิธีการขณะนี้เมื่อแก้แล้วมันเกิดปัญหา ต้องหาวิธีการใหม่ แต่พอจะมีวิธีการใหม่ๆ ไอ้นี่ก็ทำไม่ได้ ไอ้นั่นก็ทำไม่ได้ อย่าพูดเดี๋ยวเสียหายก็เลยยังไม่ได้คิด
ซึ่งเหมือนกับการทำธุรกิจ ถ้าทำอยู่แล้ว มันขาดทุนก็ต้องเปลี่ยนวิธีการ
ถ้าไม่เปลี่ยนวิธีการ ปัญหาก็เกิด ถ้าถามว่าทำไมตนไม่อยากไปภาคใต้ ตนก็ต้องบอกว่าอยากไป เพราะจับโจรมาทั้งชีวิต ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว แต่ปัญหาคือเวลาเราไปแค่ไปฟังบรรยายสรุป ซึ่งเป็นเรื่องที่รู้หมดแล้ว รู้ทุกเรื่องไปฟังบรรยายสรุป ได้แค่ออกโทรทัศน์ นั่งเครื่องบินไปกลับฟรีมันไม่มีประโยชน์จะทำให้เจ้าหน้าที่เขาเดือดร้อนที่ต้องเอากำลังมาดูแลรักษาความสงบ
เหลิมหมดท่าสารภาพไร้ปัญญาดับไฟใต้
เมื่อถามว่าเหตุการณ์รุนแรงขึ้นถึงขนาดเกิดระเบิดที่ โรงแรมซีเอส ปัตตานีซึ่งประชาชนคิดว่าปลอดภัยที่สุด
แต่เหตุใดนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ไม่ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาลงไปแล้วมันสงบหรือไม่ ก็มีแต่แรงหนักขึ้น ตนรู้ลึกรู้เท่าไม่น้อยกว่าพวกพรรคประชาธิปัตย์รู้ แต่พูดไม่ได้ เลยมาหาวิธีการโดยตนและปลัดกระทรวงมหาดไทยคุยกันตลอด ต่อข้อถามว่าสามารถบอกภาพรวมได้หรือไม่ว่าเหตุการณ์ที่รุนแรงขึ้นรัฐบาลจะทำอย่างไรให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความสบายใจ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ถ้าพูดไปก็ว่าเฉลิมโว เฉลิมโม้ รายละเอียดนั้นตนรู้ละเอียดว่ารถคันที่ระเบิดเอามาจากไหน ต่อข้อถามว่าเมื่อรู้แล้วเหตุใดจึงแก้ไขปัญหาไม่ได้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เพราะเหตุการณ์เกิดซ้ำซากอยู่อย่างนี้มันจึงแก้ยาก เมื่อถามว่าเหตุใดไม่หาวิธีป้องกันไม่ให้เหตุเกิดซ้ำซาก ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ทำแล้ว ทำทุกส่วน
“ ยอมรับว่าเรื่องใหญ่ ยอมรับว่าหนักจริงๆ สำหรับปัญหาภาคใต้ ไม่ใช่ไม่ยอมรับและให้ความสนใจ ให้ความสนใจจริงๆ แต่ยังหาวิธีการที่จะทำอย่างไรให้เบาบางไม่ได้ งานนี้ผมไม่อายผู้สื่อข่าว ลำพังผมไม่มีปัญญาหรอก เพราะสถานการณ์ภาคใต้ต้องช่วยกันหลายส่วน เขาถึงยกภารกิจหน้าที่ในการดูแลทั้งหมดให้กับกองทัพไทย ซึ่งกองทัพก็ดำเนินการไปตามลำดับในพื้นที่ภาคใต้ แม่ทัพภาคที่ 4 มีอำนาจในการดำเนินการเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไม่ใช่ผู้ว่าฯ อำนาจผมไม่มีในการที่จะสั่งเพิ่มกำลัง มีแต่ผู้ว่าฯ ที่จะทำงานสนับสนุนและทำงานด้านมวลชน มหาดไทยเป็นเพียงตัวเสริมแบบแลคตาซอย ไม่ใช่กำลังหลัก ซึ่งงานด้านมวลชนเวลานี้ก็ทำได้ดี มีการปลูกจิตสำนึกกำนันผู้ใหญ่บ้าน และมีมวลชนของมหาดไทยชัดเจน” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว