"สนธิ"ฉะรัฐรับใช้ปฏิณญาฟินแลนด์
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤษภาคม 2549 22:30 น.
"สนธิ" ฟันรัฐทำงานสอดคล้องปฏิณญาฟินแลนด์ และมีข้อมูลจริงในการประชุมพรรคไทยรักไทย ย้ำ"สู้เพื่อในหลวงไม่ต้องการระคายเบื้องพระยุคลบาทในการแก้ปัญหา แต่ต้องการให้รัฐเคารพพระราชอำนาจ จวกเบ๊นายกฯ ปล่อยวิทยุชุมชนโจมตี ฟันธงแม้วเป็นอีแอบ หาช่องเอาตัวรอด ระบุพันธมิตรเคารพมติศาล หากคำวินิจฉัยชี้หมดสถานะ ได้เจอดีแน่แถมประท้วงใหญ่กว่าเดิม ส่งท้ายไล่แม้วไปใช้เงินเมืองนอก
วันนี้ (20 พ.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำสำคัญของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนก่อนขึ้นปราศรัยบนเวทีในการจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ณ สวนลุมพินี ในเวลา 21.30 น. ว่า สิ่งที่ตนจะขึ้นกล่าวในวันนี้ มีอยู่ 2 เรื่องด้วยกัน คือ 1. เรื่องปฏิณญาฟินแลนด์ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และ 2.เรื่องบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยสำหรับเรื่องปฏิณญาฟินแลนด์นั้นเป็นข้อมูลจริงที่มีการประชุมกันจริงๆ ที่พรรคพรรคไทยรักไทยและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี จะดำเนินการนำพาประเทศไทยไปสู่เป้าหมายตามปฏิณญาฟินแลนด์
4- 5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลชุดนี้ได้ทำอะไรหลายอย่างสอดคล้องกับ 5 ข้อของปฏิณญาฟินแลนด์ ผมก็จะมาเตือนสติให้ฟัง
ทั้งนี้ นายสนธิ กล่าวว่า สาเหตุที่วันนี้ตนใส่เสื้อ เราจะสู้เพื่อในหลวง นั้น ก็เพราะว่า ที่ผ่านมา ตนไม่คิดว่าการเคลื่อนไหวจะมาจนถึง ณ จุดนี้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงต้องลงมาแก้ปัญหาวิกฤติด้วยพระองค์เอง เพราะที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรต่อสู้เพื่อให้รัฐบาลเคารพในพระราชอำนาจ แต่กลับถูกมองว่าจะนำไปสู่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
โดยนายสนธิกล่าวว่า ตนจะกล่าวถึงหน้าปกของหนังสือพิมพ์มติชนรายสัปดาห์ฉบับวันที่ 28 เม.ย. 4 พ.ค.ที่ลงพระบรมฉายาลักษณ์ของกษัตริย์ประเทศเนปาลเป็นกรณีศึกษาว่ากษัตริย์เนปาลทรงคืนพระราชอำนาจให้แก่ประชาชนนั้นเป็นการส่งสัญญาณที่ผิด ซึ่งจะนำเปรียบเทียบกับประเทศไทยไม่ได้ ตนเป็นห่วงเรื่องนี้จะนำขึ้นมาพูด อย่างไรก็ตาม ก็เคารพหนังสือพิมพ์มติชนรายสัปดาห์ที่มีนายเสถียร จันทิมาธร เป็นบรรณาธิการอยู่ และอยากย้ำว่ากรณีศึกษาดังกล่าวจะนำมาเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยไม่ได้
นายสนธิกล่าวอีกว่า การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้มาตรา 3 ในรัฐธรรมนูธในการแก้วิกฤติของชาติ โดยให้ 3 ศาลลงมาช่วยแก้ปัญหา ในขณะที่รัฐบาลใช้วิทยุชุมชนคลื่นเอฟเอ็ม 94.25 ภายใต้การควบคุมของนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รักษาการ รมว.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ด่าออกอากาศทั่วประเทศ ตนไม่เข้าใจว่ารัฐบาลปล่อยให้ออกมาอาละวาดได้อย่างไร โดยมีรัฐบาลหนุนหลัง ขณะที่สื่อที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลกลับถูกกีดกั้น จึงชี้ให้เห็นว่าเหล่านี้เป็นการกระทำที่นำไปสู่ปฏิณญาฟินแลนด์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ 3 ศาลแก้วิกฤติทางการเมือง เราจึงต้องฟังมติศาล พันธมิตรฯ เองก็เลิกการชุมนุม เพราะศาลไม่เห็นด้วย เราเคารพมติศาล ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกกติกา แต่รัฐบาลไม่ยอมหยุด ไม่เคารพมติศาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเข้ามาทำงาน จะมีความคิดเห็นอย่างไร นายสนธิ ตอบว่า ไม่เห็นด้วย พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีสัจจะ นึกจะเข้าทำเนียบก็เข้า จะบอกว่าตัวเองเป็นคนว่างงาน นึกจะมาทำงานก็มาทำงาน เห็นประเทศชาติเป็นของเล่น ถือว่าผิดสัจจะ และอย่าทำตัวเป็น อีแอบ พอกระแสแรงก็หลบ พอกระแสเงียบก็โผล่มาทำงาน และการที่อ้างว่ากลับมาทำงานเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดและเศรษฐกิจนั้น ก็เป็นผลงานล้มเหลวในอดีต โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดที่รัฐบาลชุดนี้มีการฆ่าตัดตอน ถูกฟ้องร้องไปยังองค์การสหประชาชาติ ไม่ใช้กระบวนการไต่สวนในการจับกุม ไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรมในการจับผู้ต้องหายาเสพติด เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา
เรามีนายกฯ ที่อ้างว่าตัวเองเสมอว่าเคารพกติกา แต่กลับไม่เคารพกติกา ควรจะอยู่เฉยๆ รอคำพิพากษาของศาลก่อนออกมาจะดีกว่า
จากนั้น ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงกรณีที่ผบ.เหล่าทัพออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพคำวินิจฉัยของ 3 ศาล เช่นเดียวกับการวินิจฉัยให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลาออกจากตำแหน่งนั้น นายสนธิ ชี้แจงว่า ตนเป็นห่วง พ.ต.ท.ทักษิณเพราะขณะนี้ศาลปฏิบัติหน้าที่แทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่กกต.ไม่ลาออก เป็นการปฏิบัติที่สวนทางกับศาล ถือเป็นการทำสงครามตัวแทน เพราะกกต.ปฏิบัติตาม พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคไทยรักไทย
คุณทักษิณควรไปอยู่เมืองนอกซะดีกว่า มีเงินเยอะก็ไปอยู่เมืองนอกสิ จะไปช้อปปิ้งหรือไปซื้อห้างอะไรก็ได้ ดีกว่าอยู่เมืองไทย เพราะวิกฤติที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เกิดกับคนๆ เดียว ประเทศชาติจะเสียหายอีกเท่าไรกับคนๆ นี้
ต่อคำถามถึงกรณีที่นายชัยอนันต์ สมุทวณิช ผู้บังคับการวชิราวุธวิทยาลัย ออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะต้องออกไปก่อนเดือน ก.ค. นี้เพราะจะมีการเคลื่อนไหวใหญ่ นายสนธิ ตอบว่า ตนไม่ทราบว่าจะมีการเคลื่อนไหวอะไรที่จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกไปหรือไม่ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณรู้อยู่แก่ใจว่า ทำอะไรอยู่หรือให้ลูกน้องตัวเองเตรียมการทำอะไร
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเข้ามาทำงานอีก ทางกลุ่มพันธมิตรฯ จะมีท่าทีอย่างไร นายสนธิ ระบุว่า จะมีการประท้วงต่อ และจะประท้วงใหญ่กว่าเดิม โดยขณะนี้กำลังรอคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดที่มีผู้ไปร้องเรียนต่อศาลถึงสถานะการเป็นนายกรัฐมนตรีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าหมดสภาพแล้วหรือไม่ว่า หากศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า พ.ต.ท.ทักษิณหมดสถานะการเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังดื้อด้านอยู่ ฝืนคำสั่งศาล ทำตัวเหนือกฎหมาย ก็พูดตอนนี้ได้เลยแม้ไม่มีการประชุมกับกลุ่มแกนนำว่าจะมีการประท้วงใหญ่อย่างแน่นอน
คงจะมีคำพิพากษาจากศาลปกครองสูงสุดเร็วๆ นี้ ถึงสถานะการเป็นนายกรัฐมนตรีของนายทักษิณ ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่หรือไม่ เราเคารพมติศาลว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ถ้าบอกว่าทักษิณถูกยังเป็นนายกฯ อยู่ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าศาลบอกว่าทักษิณผิด หมดสถานะการเป็นนายกรัฐมนตรี ได้เจอดีแน่ นายสนธิ กล่าวทิ้งท้าย