พ.ต.ท.ทักษิณพร้อมนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย เดินทางมาถึงด้วยรถยนต์กันกระสุน โฮลเด้น สีเทา-ดำ ทะเบียน ชย 9894 กทม.
โดยมีรถมอเตอร์ไซค์ตำรวจจราจรนำขบวน 1 คัน รถตำรวจกองปราบฯ 1 คัน และมีรถเลกซัส กันกระสุน ทะเบียน วข 9999 กทม. สำหรับใช้สำรองกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินขับนำหน้า นอกจากนี้ยังมีรถของทีมรปภ.และรถโฟล์กตู้ขับตามหลัง เมื่อ พ.ต.ท. ทักษิณลงจากรถได้ยกมือไหว้รอบทิศและหยุดแวะทักทายจับมือกับกองเชียร์ รวมทั้งอดีตส.ส.พรรคไทยรักไทย ส.ส.พรรคพลังประชาชน ก่อนขึ้นไปยังห้องพิจารณาคดีชั้น 4 ทันที ด้วยสีหน้าเป็นกังวล
ทั้งนี้ศาลเปิดให้สื่อมวลชนแลกบัตรและประชา ชนอีกประมาณ 100 คนเข้าร่วมฟังการพิจารณาคดี ขณะเดียวกันด้านนอกเจ้าหน้าที่ศาลนำโทรทัศน์วงจรปิดมาติดตั้งให้ชมการพิจารณาคดีด้วย
นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความของพ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นศาลว่า วันนี้พ.ต.ท.ทักษิณ มาปฏิเสธคำฟ้องทุกข้อหาและเสนอบัญชีพยานเป็นบุคคลและเอกสาร พยานบุคคลมี 30 ปากซึ่งไม่ซ้ำกับของคตส. เท่าที่ดูในสำนวนมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย และนายวราเทพ รัตนา กร อดีตรมช.คลัง ในฐานะกำกับดูแลกรมธนารักษ์ขณะนั้นเป็นพยานด้วย เพื่อต่อสู้ประเด็นเรื่องราคาที่ดินรัชดาฯ และมั่นใจว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะชี้แจงและตอบทุกคำถามได้ โดยเฉพาะการแสดงความบริสุทธิ์ เพราะสมัยเป็นนายกฯไม่มีอำนาจกำกับกับดูแลกองทุนฟื้นฟูฯ และความเสียหายของกองทุนไม่มี
ขณะที่นายบรรหาร หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า
"ผมไม่ทราบ ก็ผมไม่ทราบเรื่องแล้วจะให้ผมตอบเรื่องอะไร" เมื่อถามว่าสมัยที่เป็นนายกฯกองทุนดังกล่าวอยู่ในการดูแลของนายกฯหรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า "ไม่ทราบ เรื่องนี้ผมจำไม่ได้แล้ว"