ชัยอนันต์ ชี้ ก.ค.นี้ แม้ว ไปแน่-ปูดข่าวทหารเคลื่อนไหว

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤษภาคม 2549 19:15 น.

นักวิชาการตั้งวงยำ ชัยอนันต์ ชี้ ภายในเดือน ก.ค.ทักษิณ ไปแน่ ย้ำ จะรู้ทันแม้วต้องรู้ทันข่าวสาร เผยทหารมีความเคลื่อนไหวสำคัญแล้ว ขณะที่ แก้วสรร อัดซ้ำรัฐบาลเผด็จการจำแลงประชานิยม เห็นแก่ตัวใช้เงินหลวงหาเสียงกับรากหญ้า แฉพิรุธ กกต.เรียก 1 ล้าน แลกหลุดใบเหลืองเลือก อบต.-ส.จ.

วันนี้ (19 พ.ค.) ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดเสวนา ซึ่งจัดโดยเครือข่ายจุฬาฯเชิดชูคุณธรรมนำประชาธิปไตย ในหัวข้อ การเมืองเรื่องจิตสำนึก โดยมี นายชัยอนันต์ สมุทวณิช นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ผู้บังคับการโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย และ นายแก้วสรร อติโพธิ รักษาการ ส.ว.กทม.เข้าร่วม

นายชัยอนันต์ กล่าวว่า ประเทศไทยแปลกประหลาด เพราะคนไทยเรียนรู้จิตสำนึกทางการเมืองจากการเข้าร่วมต่อสู้โดยตรง เช่น กรณีเหตุการณ์ 14 ต.ค พฤษภาททิฬ หรือการต่อต้านระบอบทักษิณ แม้ประชานส่วนใหญ่ที่ยากจนถูกสอนให้รับในสิ่งที่รัฐบาลให้มาจนเคยตัว จึงเห็นแก่ประโยชน์ระยะสั้นที่นักการเมืองเสนอให้เหมือนที่พรรคไทยรักไทยใช้ คือ 1.แนวทางพรรคคอมมิวนิสต์ 2.การตลาด และ 3.วัฒนธรรมพื้นบ้านเป็นนโยบายพรรค

ที่ถามกันว่า ทักษิณจะไปเมื่อไหร่ ผมเชื่อว่า เดือนกรกฎาคมนี้ทักษิณไปแน่นอน เพราะจะมีการเคลื่อนไหวสำคัญเกิดขึ้น โดยกล่าว อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ให้รายละเอียดการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นเรื่องอะไร และว่า ระบบการศึกษาของไทยไม่ได้สอนให้คนเกิดความเข้าใจทางการเมือง และพรรคการเมืองเองก็ไม่ได้สร้างความเข้าใจกับประชาชน จิตสำนึกทางการเมืองเกิดขึ้นเป็นหย่อมๆ ไม่ได้สร้างภักดีต่อพรรค หรือความผูกพันต่อพรรคการเมือง เพื่อให้เกิดการต่อยอดไปเป็นจิตสำนึกในทางการเมืองแบบประชาธิปไตยที่รับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างสมบูรณ์ถูกต้องไม่ถูกปิดกั้น

จะรู้ทันระบอบทักษิณเป็นเรื่องที่ต้องรู้ข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้นอย่าวงสมบูรณ์และปะติดปะต่อให้เห็นเป็นรูปธรรม เช่น ทักษิณขายหุ้นชิน หุ้นจะเพิ่มขึ้นถ้าทักษิณขาย กฟผ.ได้ นายชัยอนันต์ระบุพร้อมกับเปิดเผยว่าวันนี้(19 พ.ค.)ทราบข่าวว่า มีรถถังออกมา 40 คันจากสระบุรีมาถึงวังน้อยแล้ว ขณะที่ช่วงบ่ายทักษิณบินเข้าเฝ้าฯ ดังนั้นคืนนี้อยู่อยู่บ้านให้ดีก็แล้วกัน

ด้าน นายแก้วสรร กล่าวว่า จิตสำนึกทางการเมืองที่สำคัญ คือ การจัดความสมดุลความรับผิดชอบ และอำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์และรัฐบาล แต่รัฐบาลยุคทักษิณ บิดเบือนความรับผิดชอบกับหน้าที่เป็นเผด็จการจำแลง ประชาชนถูกทำให้เป็นสมบัติของรัฐภายใต้นโยบายประชานิยมทำให้ประชาชนไม่มีอำนาจประชาธิปไตย แต่ทำให้ประชาชนถูกจัดตั้งกลายเป็นคนรากหญ้าที่ไม่มีอำนาจ ทั้งยังถูกยั่วยุทำให้ถูกแบ่งแยก สุดท้ายประชาชนก็ไร้ซึ่งอำนาจอธิปไตย

ทักษิณใช้เงินในการหว่านหาคะแนนนิยมโดยไม่ใช่เงินเสียงส่วนตัว แม้แต่บาทเดียว ซึ่งเงินที่ใช้ คือ จากคนจน คือ เงินจากกองสลากฯเอาไปแจกชาวบ้าน ส่วนเงินที่ใช้เลี้ยงพรรคไทยรักไทยก็เป็นเงินจากการเล่นหุ้น มันก็คือเงินจากการเล่นพนันนั่นแหละ

นายแก้วสรร ยังกล่าวถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ระบบการให้ใบเหลือง-ใบแดง เป็นการให้ดาบ ให้อำนาจมากเกินไปกับ กกต.ซึ่งมีข่าวว่าการหลุดใบเหลืองของผู้สมัครองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ต้องจ่าย 1 ล้านบาท หรือแม้แต่ผู้สมัครสมาชิกสภาจังหวัด (ส.จ.) ก็จะต้องจ่าย 1 ล้านบาทเช่นเดียวกัน