ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่กระทรวงมหาดไทย ถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปฏิเสธที่จะพูดคุยตามที่ได้เสนอตัวไปก่อนหน้านี้ ว่า ก็คงต้องจบไป และคงไม่คุยกับกลุ่มพันธมิตรแล้ว เพราะอาจไม่พอใจ เนื่องจากมีคดีหมิ่นประมาท 3 คดีที่รอลงอาญาอยู่ ต่างคนต่างทำงานดีกว่า และจะไม่ห้ามชุมนุม จะให้ใช้สนามหลวงโดยไม่ขัดขวาง แต่ทราบมาว่ากลุ่มพันธมิตรและแนวร่วมขัดแย้งกันรุนแรง
'ดังนั้น ถ้ากลุ่มพันธมิตรเป็นอะไรไป โปรดรับทราบไว้ด้วยว่ารัฐบาลไม่เกี่ยวข้อง เพราะเมื่อขัดแย้งคิดไม่ดีต่อกันและกัน ใครตบทรัพย์ใครหรือรีดทรัพย์ใคร หรือไปเอาเงินใครมาก็นำเอาความลับดังกล่าวมาเปิดเผยอาจจะทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นได้ในเร็วๆ นี้ อยากให้ประชาชนรู้ไว้ว่ารัฐบาลไม่ได้มีเจตนาร้ายกับพันธมิตร หรือใครก็ตามที่ไม่เห็นด้วยทางการเมือง' ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตร กล่าวว่า
ร.ต.อ.เฉลิมรู้ดีว่าจุดแข็งของกลุ่มพันธมิตร คือเชื่อมโยงกับภาคประชาชน จึงต้องออกมาพูดเพื่อให้เกิดความแตกแยก แต่ตรงกันข้ามพันธมิตรเป็นปึกแผ่นมากกว่าสมัยชุมนุมที่ท้องสนามหลวงเสียอีก และขณะนี้ได้แบ่งงานกันทำ นายสนธิดูแลการระดมความคิด พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ขยายแนวร่วม ส่วนตนทำหน้าที่ในสภา จะประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 12 มีนาคม จะมีกลุ่มแนวร่วมมาประชุมด้วย รวมทั้งเปิดเผยรูปแบบการเคลื่อนไหวรูปแบบใหม่
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวถึงกรณีนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อยากให้พรรคประชาธิปัตย์แสดงท่าทีที่ชัดเจนกรณีนายสมเกียรติ ส.ส.พรรคไปร่วมเคลื่อนไหวกับพันธมิตรว่า พรรคจะไม่เข้าไปแทรกแซง ไม่จำกัดสิทธิใคร ตราบเท่าที่อยู่ในกรอบของกฎหมาย