ปชป.ท้าทรท.แฉหลักฐาน ยันไม่มีคนสนิทในอนุกกต.

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤษภาคม 2549 15:41 น.

ปชป.ปฎิเสธข้อกล่าวหาทรท.อ้างอนุกกต.บางคนใกล้ชิดพรรค ยันไม่เป็นความจริง ท้าเปิดหลักฐานอย่ากล่าวหาลอยๆ เชื่อเป็นการดิ้นรนสร้างความสับสนให้พ้นผิด ดักคอพี่หนาและพวกเลิกสั่งสอบสวนเพิ่มหวังซื้อเวลาอุ้มพรรคใหญ่

วันนี้(19พ.ค.)นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะทำงานด้านกฎหมายของพรรค กล่าวถึงกรณีที่พรรคไทยรักไทยยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เปลี่ยนตัวอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีจ้างพรรคเล็กลงรับเลือกตั้ง ของ กกต. ก่อนจะดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม โดยอ้างว่า อนุกรรมการบางคนใกล้ชิดพรรคประชาธิปัตย์ ว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากอนุกรรมการชุดดังกล่าวถูกแต่งตั้งโดย กกต. และพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง พร้อมท้าทายให้พรรคไทยรักไทยเปิดเผยรายชื่อของอนุกรรมการที่แอบอ้างถึง

การกระทำครั้งนี้เป็นการพยายามดิ้นรนและสร้างความสับสนเพื่อให้พรรคไทยรักไทยพ้นจากความผิด พร้อมทั้งขอให้ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต. ทบทวนคำสั่งในการให้อนุกรรมการสอบสวนเพิ่มเติมในเรื่องดังกล่าว ว่าเป็นการทำเพื่อช่วยเหลือใครหรือไม่ เพราะอนุกรรมการพูดชัดเจนว่า ไม่อยากเอาชื่อเสียงมาเสี่ยงกับเรื่องนี้นายถาวรกล่าว

ส่วน นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าว่า การจะร้องให้เปลี่ยนอนุกรรมการ ต้องร้องก่อนที่จะมีการสอบสวน ไม่ใช่ผลสอบออกมาสรุปไม่ถูกใจว่าพรรคไทยรักไทยจ้างพรรคเล็กจริง จึงมาร้องให้เปลี่ยนอนุกรรมการ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ และอนุกรรมการชุดนี้ล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่มีใครสั่งได้ โดยเฉพาะนายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะอนุกรรมการฯ ที่เป็นถึงอดีตรองประธานศาลฎีกา ส่วนกรณีพรรคไทยรักไทยระบุว่าอนุกรรมการฯบางคนเคยพักอาศัยอยู่บ้านเดียวกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์นั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะนายชวนพักอยู่ที่บ้านซอยหมอเหล็ง แค่นายชวน พักอาศัยและหนังสือของนายชวนก็ไม่มีพื้นที่ให้ใครได้นอนแล้ว

ส่วนความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ โฆษกศูนย์ฯกล่าวว่าขณะนี้พรรคได้ติดตั้งฉากหลังแถลงข่าวในห้องศูนย์อำนวยการเลือกตั้งของพรรค โดยมีรูปนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ยื่นอยู่บนโพเดียมแสดงท่าทางกำลังปราศรัยบนเวทีปราศรัย สีน้ำเงินเป็นฉากหลัง มีข้อความ วาระประชาชน เศรษฐกิจคุณภาพ สังคมคุณธรรม อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำแนวใหม่ฉากหลังดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า พรรคชูภาพความเป็นผู้นำแนวใหม่ของนายอภิสิทธิ์

ขณะเดียวกัน ที่สำนักงานอัยการสูงสุด กลุ่มประชาชนประมาณ 20 คน นำโดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ประธานเครือข่ายพลังประชาชนเพื่อประเทศไทย อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด โดยมีนายอรรถพล ใหญ่สว่าง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด รับหนังสือแทน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและยุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากกระทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยนายสุรพงษ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์สมควรถูกยุบ เนื่องจากใช้อำนาจโดยมิชอบล้มล้างระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะการที่นายอภิสิทธิ์ ได้ปราศรัยที่สนามหลวงเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 49 เสนอให้ใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 7 เพื่อขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน ถือเป็นการกระทำที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า หลักฐานที่ตนยื่นในครั้งนี้ถือว่ามีข้อมูลเพียงพอ ทั้งเนื้อหาการปราศรัยของนายอภิสิทธิ์ รวมทั้งสำเนากระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่กล่าวถึงเรื่องมาตรา 7

ทั้งนี้นายอรรถพล กล่าวว่า จะตรวจสอบข้อร้องเรียน และส่งให้ฝ่ายที่รับผิดชอบของสำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการตามขั้นตอนและหากกลุ่มนายสุรพงษ์ มีหลักฐานเพิ่มเติมให้มายื่นเพิ่มได้