อภิสิทธิ์ ติง สมัคร เข้าใจสื่อฯ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าววานนี้ (2 มี.ค.)

กรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชาชน โจมตีการทำงานของสื่อมวลชนผ่านรายการสนทนาประสาสมัครว่า ถือเป็นสิทธิส่วนตัว แต่ขออย่าไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน เข้าใจว่านายสมัครอาจจะไม่อยากตอบคำถามสื่อ แต่นายสมัครต้องเข้าใจเพราะประเด็นที่สื่ออยากถาม คือเรื่องที่สังคมอยากทราบ หากไม่อยากตอบ ก็บอกว่าไม่ตอบหรือใช้ วิธีการอื่น ทั้งนี้ตนไม่อยากเห็นภาพการใช้อารมณ์ เมื่อถามว่า นายสมัครมักมีอารมณ์กับเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนอมินี พ.ต.ท.ทักษิณ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า เป็นเรื่องที่นายกฯต้องพิสูจน์ตัวเอง ว่าการบริหารราชการแผ่นดินได้ใช้อำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่ หากตอบด้วยคำพูดสื่อก็คงถามต่อ ดังนั้น ต้องตอบด้วยการกระทำ 

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่แกนนำพรรคพลังประชาชนและรัฐมนตรีบางส่วน เข้าพบ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เพื่อหารือเรื่องการปรับ ครม.

นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ต้องดูว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในส่วน ครม. กรรมการบริหารพรรคและ ส.ส. ถ้าไม่มีภาพเช่นนี้เกิดขึ้นจะดีที่สุด หากมีก็จะยิ่งทำให้เกิดเครื่องหมายคำถาม จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น โดยเฉพาะในสายตาของต่างชาติ เขาจะมองระบบของเราอย่างไร เข้าใจว่าการไปพบปะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ขอให้มีความชัดเจนว่าการบริหารพรรค การบริหารงานทางการเมืองจะต้องเป็นไปตามระบบ หากมีการเข้าหารือกับคุณหญิงพจมานและ พ.ต.ท.ทักษิณจริง ก็จะเกิดผลเสียหายต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเคยพูดไว้แล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ดังนั้น จึงอยากแนะนำว่าบุคคลใกล้ชิด ส.ส.และรัฐมนตรี หากไปปรึกษาเรื่องส่วนตัวถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่อย่าให้ เกินเลยไปถึงขั้นที่ทำให้ถูกมองว่ามีการแทรกแซงการบริหาร จะไม่เป็นผลดีต่อใครทั้งสิ้น 

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเงากล่าวว่า

พรรคประชาธิปัตย์ไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะวางมือทางการเมือง อย่างที่ประกาศต่อสาธารณชน ทั้งนี้ เนื่องจากพฤติกรรมในอดีตของ พ.ต.ท.ทักษิณ มักจะสวนทางกับคำพูดทั้งสิ้น ดังนั้น การที่กลับมาประกาศจะวางมือทางการเมืองอีกครั้ง จึงสร้างความสงสัยให้กับหลายฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณในวันนี้จึงต้องพิสูจน์ว่าวางมือทางการเมืองด้วยการกระทำมากกว่าคำพูด และเชื่อว่าหากพิสูจน์แล้วสังคมก็จะให้ความเชื่อถือ นอกจากนี้ พ.ต.ท. ทักษิณยังมีคดีในกระบวนการยุติธรรมอยู่ พรรคไม่อยากเห็นการแทรกแซง ควรจะปล่อยให้เป็นไปตามครรลองของคดี เพื่อให้คำตัดสินเป็นที่ยอมรับของสังคม เพราะหากมีการแทรกแซงก็จะทำให้คำตัดสินไม่เป็นที่ยอมรับและจะทำให้เกิดปัญหาตามมา 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่อดีตผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายประพันธ์ คูณมี อดีตผู้สมัคร กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมกับองค์กรภาคประชาชน เคลื่อนไหวต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ

นายองอาจตอบว่า ถือเป็นสิทธิ์ของบุคคลเหล่านั้น และพรรคไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเนื่องจากบุคคลดังกล่าวเป็นเพียงอดีตผู้สมัครของพรรคเท่านั้น เมื่อการเลือกตั้งผ่านไปแล้วก็สามารถทำได้ ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เล่นการเมืองใต้ดิน หรือยืมมือประชาชนโค่นอำนาจระบอบทักษิณแน่นอน

อย่างไร ก็ตาม การเคลื่อนไหวใดๆ ก็ขอให้อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ
 
เมื่อถามว่านายสมัครมีแนวคิดจะเปิดบ่อนกาสิโน นายองอาจตอบว่า หากรัฐบาลมีแนวคิดดังกล่าวจริง ควรที่จะศึกษาถึงผลดีผลเสีย เพราะการเปิดบ่อน ถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ดังนั้น การทำสิ่งผิดกฎหมายให้เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย ต้องศึกษาให้รอบด้าน เพราะสมัยรัฐบาลทักษิณ ก็มีแนวคิดเช่นเดียวกัน แต่สุดท้ายก็ไม่มีความชัดเจน