โปรดเกล้าฯ อภิสิทธิ์ ผู้นำฝ่ายค้าน

ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ วันที่ 29 ก.พ. เมื่อเวลา 09.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์

นายพิฑูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อัญเชิญพระบรม ราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทน ราษฎร โดยมีนายยงยุทธ  ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร ลงนามผู้รับสนองพระบรมราชโองการ  โดยพิธีดังกล่าว จัดขึ้นที่ห้องประชุมชั้น 3 อาคาร 100 ปี 
 

ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช โดยมีแกนนำและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก  นายอภิสิทธิ์กล่าวภายหลังรับพระบรมราชโองการฯ ว่า

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ขอยืนยันว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตามเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญ ทุกประการ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทุกคนตระหนักดีว่า บ้านเมืองยังอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องเศรษฐกิจ การพัฒนาระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เชื่อว่าการมีฝ่ายค้านในสภาที่เข้มแข็ง ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นใหญ่ จะมีส่วนสำคัญทำให้ บ้านเมืองฟันฝ่าวิกฤติต่างๆ ทั้งการเมืองหรือเศรษฐกิจไปได้ ตนและสมาชิกฝ่ายค้านทุกคนจะมุ่งมั่นในการปฏิบัติ หน้าที่ เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลอยู่ บนความถูกต้อง ยึดมั่นผลประโยชน์ของประชาชนและ ของส่วนรวมเป็นใหญ่ นอกจากนี้ จะได้ใช้ช่องทางของรัฐธรรมนูญ เปิดโอกาสให้ ส.ส.ได้ปฏิบัติการตรวจสอบรัฐบาลอย่างเต็มที่ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนต่อไปได้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์

ถึงกรณีที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายก-รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระการคลัง ระบุว่าจะให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นที่ปรึกษาว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้กลับมาแสดงเจตนาที่ชัดเจนแล้วว่า ไม่ ประสงค์จะเกี่ยวข้องกับการเมือง การที่รัฐมนตรีหรือรัฐบาล จะขอคำแนะนำ หรือรับฟังความคิดเห็นจากอดีตนายกฯ ก็เหมือนกับการได้รับฟังจากประชาชนคนหนึ่ง ไม่มีความ จำเป็นต้องแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่ง เพราะเกรงว่าจะมีปัญหา ตามมาว่า ไม่ตรงกับเจตนาที่ได้แสดงเอาไว้ในเรื่องที่บอกว่า ไม่อยากเกี่ยวข้องทางการเมือง ส่วนเรื่องให้คำแนะนำด้านเศรษฐกิจหรือเรื่องอื่นๆ ถือเป็นเรื่องปกติสามารถทำได้อยู่แล้ว 

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินสาย พบผู้ใหญ่หลายๆ คน

อาทิ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ประธาน คมช. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีสิทธิเสรีภาพเหมือนคนไทยคนหนึ่ง จะไปไหนมาไหน จะไปพบใครย่อมทำได้ แต่แนะนำว่า ให้ปฏิบัติกับ พ.ต.ท.ทักษิณเหมือนคนไทยคนหนึ่ง ส่วนเรื่องคดีก็ดำเนินไปตามกระบวนการขั้นตอน อย่าไปกังวล หรือตั้งข้อสงสัยจนเกินเหตุ เชื่อว่าหากมีอะไรที่ไม่ถูกต้องสังคมจะตรวจสอบ รวมทั้งเราในฐานะฝ่ายค้านก็ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณควรจะวางตัวอย่างไร

นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ก็ควรทำอย่างที่พูดและอย่าไปทำอะไรให้คนเคลือบแคลงสงสัย ดีที่สุดคือกลับเข้ามาต่อสู้คดี ไม่คิดแทรกแซงกระบวนการดีที่สุด ส่วนนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ก็ยังเป็นนายสมัคร มีอำนาจเต็มที่ ยังยืนยันว่าขอให้ใช้อำนาจเต็มที่ เพราะเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน อยากให้เป็นตัวของตัวเอง ใครที่แนะนำอะไรมาหากเป็นเรื่องที่ดีและมีประโยชน์ก็ทำ แต่หากอะไรที่แนะนำมาแล้วไม่ดีก็อย่าทำ