ผบ.ทบ.ขอเข้าเฝ้าฯ ให้ทรงคลายทุกข์ - เตือน แม้ว อย่าดึงทหารไปปฏิวัติ
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลินโดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤษภาคม 2549 06:51 น.
ผู้บัญชาการทหารบกเผย เตรียมขอเข้าเฝ้าฯ ในหลวง เพื่อให้พระองค์ทรงคลายทุกข์จากปัญหาบ้านเมือง พร้อมย้ำจุดยืนทหารไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง และไม่ยอมให้รัฐบาลใช้ทหารเป็นเครื่องมือ ลั่นไม่ยอมให้มีรัฐประหารเด็ดขาด เผยเคยเตือนนายทหารรุ่น 10 ตั้งแต่ผู้ช่วย ผบ.ทบ.จนถึง ผบ.พล 1 อย่าเคลื่อนไหวโดยพลการ
วันนี้ (17 พ.ค.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้ทำหนังสือผ่านตามขั้นตอนเพื่อขอพระบรมราชานุญาตเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะมีความรู้สึกว่าพระองค์ท่านทรงเป็นทุกข์มาก เนื่องจากมีปัญหาบ้านเมืองหลายอย่าง ซึ่งการขอเข้าเฝ้าฯ เพื่อให้พระองค์ท่านมีความสบายพระทัย ว่างานในหน้าที่กองทัพทั้งเรื่องการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการพัฒนากองทัพนั้นจะทำอย่างเต็มที่และสมบูรณ์ที่สุดในส่วนที่กองทัพรับผิดชอบ เพื่อไม่ให้พระองค์ท่านเป็นห่วงเรื่องนี้
ผมทราบว่าในช่วงที่เกิดปัญหาการเมือง ท่านจะยืนมองทอดสายตาไปที่ทะเล ผมคิดว่าพระองค์ท่านทรงเป็นทุกข์อย่างที่ผมเคยบอกแล้วว่าพระองค์ท่านทรงเป็นทุกข์ ทหารก็ไม่สบายใจ ผบ.ทบ.ระบุ
ผบ.ทบ.กล่าวว่า บ้านเมืองขณะนี้มีปัญหา ซึ่งเรื่องทางการเมืองก็ต้องแก้ด้วยการเมือง สำหรับตนขอยืนยันว่า จะไม่ใช้วิธีทางทหารเข้าไปแก้ไข ทหารอาชีพก็คือจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองก็อย่าเข้ามายุ่งกับทหาร แต่ทหารเราต้องทำตามนโยบายของรัฐ ถึงจะเรียกว่าทหารอาชีพ และรัฐต้องดูแลทหารด้วย และอย่าเอาทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง
ผบ.ทบ.ยอมรับด้วยว่า มีคนส่งจดหมายเข้ามาอยากให้ทหารเข้าไปแก้ไขปัญหาการเมือง ในจำนวนทั้งหมดมีกว่า 50% ต้องการให้ทหารแก้ไขปัญหา แต่อีกส่วนหนึ่งเห็นว่าเราวางน้ำหนัก และวางตัวถูกต้องในสถานการณ์การเมืองเช่นนี้ และไม่ต้องการให้ทหารออกมาทำอะไรเช่นในอดีต ในส่วนของตนยังคงย้ำหนักแน่นว่าจะไม่มีการปฏิวัติแน่นอน เพราะเท่ากับเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย สิ่งที่กองทัพต้องทำในขณะนี้ คือ การให้ความรู้ และต้องทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่ถูกชี้นำ
การปฏิวัติ ทหารทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะได้เคยบอกกับน้องๆ โดยเฉพาะเตรียมทหารรุ่น 10 (ตท.10 ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ถ้าใครคิดทำอะไรนายกรัฐมนตรีคงแย่ และคิดว่านายกรัฐมนตรีคงไม่สั่งอะไร เพราะรู้ว่าแต่ละคนมีศักยภาพแค่ไหน ซึ่งผมบอกกับเตรียมทหารรุ่น 10 เสมอว่าหากมีใครทำอะไรนายกรัฐมนตรีจะลำบาก อาทิ พล.ต.พฤณฑ์ สุวรรณทัต ผบ.พล 1 รอ.ก็มีความสนิทกันดี และน้องๆ รุ่น 10 ที่คุมกำลังทหารก็ฟังผม รวมถึง พล.อ.พรชัย กรานเลิศ ผู้ช่วย ผบ.ทบ.ก็ฟังผมดี ไม่มีปัญหา ผมขอยืนยันว่า เรื่องการปฏิวัติทหารเราทำไม่ได้อยู่แล้ว ผมได้เคยบอกท่านนายกรัฐมนตรี เสมอว่า จะใช้กำลังทหารทำปฏิวัติไม่ได้ เพราะคนที่แย่ คือ นายกรัฐมนตรี ซึ่งน้องๆ ทหารในกองทัพก็ฟังผมทุกคน ผบ.ทบ.กล่าว
ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวเชิงลึกมานานหลายสัปดาห์แล้วว่ามีความพยายามเคลื่อนไหวอย่างผิดสังเกตจากฝ่ายนายทหารจำนวนหนึ่ง จนนำไปสู่การคาดหมายว่าอาจมีการก่อการรัฐประหารเกิดขึ้น
พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตนได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งรับตำแหน่ง ผบ.ทบ. พระองค์ท่านทรงตรัสถึงเรื่องการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะเรื่องระบบการสื่อสารของทหาร ตำรวจ พลเรือน สามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ รวมถึงการประสานงานร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาไม่มีการประสานงานร่วมกัน และงานด้านการข่าวของทหารไทยไม่ค่อยดี ซึ่งจะต้องเน้นเรื่องการข่าวเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวถามว่า การทำงานการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีปัญหากับฝ่ายการเมืองหรือไม่ โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลงานด้านความมั่นคง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ถึงแม้จะแตกต่างกันทางด้านความคิดแต่เราทำงานร่วมกันได้
เมื่อถามว่า เหลือเวลาอีก 1 ปี ในตำแหน่ง ผบ.ทบ.หากรัฐบาลมอบหมายให้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ คิดว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า คิดว่าถ้าให้ทหารรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาก็คงจะบรรลุผลมากขึ้น แต่ถ้าเกิดให้ทำงานร่วมกันก็ไม่เป็นปัญหา เพราะกองทัพไม่มีความขัดแย้งกับใคร เราจะนำสิ่งที่ไม่เหมือนกันมาเป็นพลัง ถ้าเมื่อไหร่ที่เราทะเลาะกัน อีกฝ่ายจะยิ้ม เราต้องทำให้เกิดความสามัคคี นอกจากนี้ ตนคิดว่าหากมีการจ้างงานหนึ่งแสนคนโดยนำคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเข้ามาทำงาน การแก้ไขปัญหาจะคืบหน้ามากขึ้น เพราะที่เราจ้าง 3-4 หมื่นคน ซึ่งไม่ได้ผล เพราะไม่ใช่คนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง