ชีวิตเร่ร่อน527วัน ของ ผู้นำพเนจร

'ไม่มีแผ่นดินไหนจะให้ความอบอุ่นกับผมเท่ากับแผ่นดินไทย' คือคำพูดที่กลั่นออกมาจากใจของ 'พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ในระหว่างเปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนกว่า 100 ชีวิต ที่โรงแรมเพนนินซูล่า หลังจำต้องร่อนเร่-รอนแรมอยู่ต่างแดนถึง 527 วัน

"ไม่มีแผ่นดินไหนจะให้ความอบอุ่นกับผมเท่ากับแผ่นดินไทย"

คือคำพูดที่กลั่นออกมาจากใจของ "พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ในระหว่างเปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนกว่า 100 ชีวิต ที่โรงแรมเพนนินซูล่า หลังจำต้อง "ร่อนเร่-รอนแรม" อยู่ต่างแดนถึง 527 วัน นับจากก้าวเท้าออกจากบ้านเกิดในวันแห่งการก่อ "ปฏิวัติ 19 กันยายน"

9 กันยายน 2549 พ.ต.ท.ทักษิณและคณะเดินทางออกจากประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมประชุมกลุ่มประเทศเอเชีย-ยุโรป (อาเซ็ม) ที่กรุงเฮงซิงกิ ประเทศฟินแลนด์

10-14 กันยายน 2549 พ.ต.ท.ทักษิณแวะพักผ่อนที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หลังมีอาการไข้ขึ้น

15-17 กันยายน 2549 พ.ต.ท.ทักษิณเข้าร่วมประชุมกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (นาม) ที่กรุงฮาวานา ประเทศคิวบา

18 กันยายน 2549 พ.ต.ท.ทักษิณแวะพักผ่อนที่เมืองแคนคูน ประเทศเม็กซิโก

19 กันยายน 2549 พ.ต.ท.ทักษิณเตรียมตัวเข้าร่วมประชุมผู้นำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ ก่อนถูกรัฐประหารในวันเดียวกัน

ปิดฉากนายกฯ คนที่ 23!!!

หลังจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปพบ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรสาว ซึ่งศึกษาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ โดยมี "คุณหญิงพจมาน ชินวัตร" ภริยา ตามมาสบทบในวันที่ 25 กันยายน 2549

ในช่วงแรกเขาเข้าพักที่ 55 พาร์ค เลน อพาร์ตเมนต์หรูซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับโรงแรมดอร์เชสเตอร์ มีเจ้าของชื่อ "โมฮัมหมัด อัลฟาเยด" เจ้าของห้างสรรพสินค้าแฮร์รอดส์ ก่อนจะซื้อคฤหาสน์เก่าสไตล์อังกฤษ ขนาด 3 ไร่ ที่เวย์บริดจ์ไว้ในครอบครอง ทั้งนี้ พ.ต.ททักษิณและครอบครัวชินวัตรเคยจัดงานปาร์ตี้เรียบง่ายที่คฤหาสน์หรูแห่งนี้ จนมีภาพหลุดมาให้ "แฟนานุแฟน" ในไทยได้ดูกัน

ส่วนชีวิตในลอนดอนของ พ.ต.ท.ทักษิณส่วนใหญ่หมดไปกับการเดินช็อปปิ้ง กินกาแฟราคาแพง กินวาฟเฟิล อ่านหนังสือ ฯลฯ

กลางเดือนตุลาคม 2549 พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปเยี่ยม "ยงยุทธ ติยะไพรัช" ซึ่งเดินทางไปศึกษาต่อปริญญาเอกด้านสิ่งแวดล้อมที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) ประเทศสหรัฐ และยังสมัครเรียนเล่นกอล์ฟที่โรงเรียนสอนกอล์ฟชื่อดัง Jim McLean เมืองไมอามี มลรัฐฟลอริดา ของสหรัฐ ในเวลาต่อมา

30-31 ตุลาคม 2549 พ.ต.ท.ทักษิณแวะมาหาเพื่อนเลิฟที่ชื่อ "ชาญชัย รวยรุ่งรือง" หรือ "เหยียน ปิน" นักธุรกิจชาวไทย ที่ประเทศจีน ในช่วงเวลาเดียวกับที่ "พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์" นายกรัฐมนตรี เดินทางไปนครหนานหนิง ประเทศจีน เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (อาเซียน ซัมมิท)

16-22 พฤศจิกายน 2549 พ.ต.ท.ทักษิณนัดฉลองวันคล้ายวันเกิดปีที่ 50 ให้ศรีภริยาอย่าง "คุณหญิงอ้อ" (วันที่ 22 พฤศจิกายน) ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย

12-16 มกราคม 2550 พ.ต.ท.ทักษิณปรากฏตัวที่ประเทศสิงคโปร์ โดยได้ "ทิ้งบอมบ์" ใส่รัฐบาล "สุรยุทธ์" และ คมช. ผ่านการให้สัมภาษณ์สื่ออินเตอร์หลายสำนัก อาทิ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น สำนักข่าวเอ็นเอชเค วอลล์ สตรีท เจอร์นัล เกี่ยวกับเหตุการณ์รัฐประหารที่เกิดขึ้น

ทำให้ถูกลงโทษด้วยการเพิกถอนพาสปอร์ตการทูตในวันที่ 25 มกราคม 2550

21 พฤษภาคม 2550 พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมด้วยผู้ติดตาม ถูก "มือดี" ฉกกระเป๋าของผู้ติดตาม ในขณะกำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ในร้านแมคโดนัลด์ ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย สูญทรัพย์สินไป 1.2 ล้านบาท รวมถึงหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ บัตรเครดิต วีซ่า บัตรประชาชนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ฯลฯ

5 กรกฎาคม 2550 พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยทากุโชกุ ไปบรรยายพิเศษหัวข้อ "รูปแบบการทำธุรกิจและอุตสาหกรรมในเอเชีย" ให้คณะอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยทากุโชกุ

กรกฎาคม 2550 พ.ต.ท.ทักษิณซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถือหุ้นทั้งหมด 75 เปอร์เซ็นต์ โดยประธานสโมสรคนใหม่ของให้แฟนทีมเรือใบสีฟ้าเรียกตัวเองว่า "แฟรงค์ ชินาตรา"

ก่อนเลือกตั้งวันที่ 23 ธันวาคม 2550 พ.ต.ท.ทักษิณใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่เกาะฮ่องกง ท่ามกลางการจับตามองว่ามาบัญชาการเกมรบของพรรคพลังประชาชน (พปช.) และยังลุกลามไปถึงการจัดรัฐบาลผสม 6 พรรค การจัดโผ ครม.

28 กุมภาพันธ์ 2551 พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยการบินไทย เที่ยวบินที่ทีจี 603

ถือเป็นการเหยียบแผ่นดินไทยเป็นครั้งแรก หลังผ่านการเดินทางที่แสนยาวนานถึง 527 วัน!!!