ม็อบถ่อยคลั่งรื้อเต็นท์-ทำร้ายสื่อหลังให้กำลังใจ พี่หนา

ม็อบถ่อยคลั่งรื้อเต็นท์-ทำร้ายสื่อหลังให้กำลังใจ พี่หนา

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤษภาคม 2549 19:26 น.

พี่หนา น้ำตาไหลพรากต่อหน้าคนมาให้กำลังใจ พูดชัดถ้อยชัดคำจะปฏิบัติหน้าที่ตามครรลองคลองธรรมต่อไป แม้จะอยู่หรือไม่อยู่ที่ กกต.แล้ว ขณะที่ม็อบถ่อยบุกทำลายรื้อเต็นท์กลุ่มนักศึกษาที่ชุมนุมขับไล่คณะกรรมการการเลือกตั้งจนเสียหายยับเยิน ขณะที่ตำรวจยืนดูเฉย

วันนี้ (17 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น.ได้มีชาวบ้านจังหวัดจันทบุรี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคน อ.แหลมสิงห์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ พล.ต.อ.วาสนา ประมาณ 700 คน เดินทางมาให้กำลังใจ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต.โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้จัดห้องประชุมชั้น 10 ของอาคารศรีจุลทรัพย์ เป็นสถานที่รับรองผู้มาให้กำลังใจ โดยมีการชูป้ายข้อความสนับสนุนการทำงานของ กกต.ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.วาสนา ก็ลงมาแสดงความขอบคุณและรับมอบดอกไม้ด้วยตนเอง โดยเมื่อได้พบหน้ากับชาวจันทบุรี ซึ่งเป็นญาติผู้ใหญ่ที่ พล.ต.อ.วาสนา ให้ความเคารพคนหนึ่ง พล.ต.อ.วาสนา ก็โผเข้ากอด พร้อมกับมีน้ำตาไหลออกมาด้วยความตื้นตันใจ

จากนั้นตัวแทนชาวบ้านจันทบุรี ยังได้มอบรูปหล่อพระเจ้าตากสินองค์สัมฤทธิ์ พร้อมด้วยพระแก้วมรกต สมเด็จพระเจ้านเรศวรมหาราช ดอกไม้ ผลไม้มาให้กำลังใจ แก่ พล.ต.อ.วาสนา ขอให้อดทนที่จะต่อสู้กับอธรรม เหมือนดังเช่นที่พระเจ้าตากสินเคยต้องต่อสู้กับข้าศึก

ทั้งนี้ พล.ต.อ.วาสนา ได้ขึ้นเวทีกล่าวขอบคุณผู้ที่มาให้กำลังใจทุกคน และขอปฏิญาณต่อชาวจันท์ ว่า ไม่ว่าจะอยู่ที่ กกต.หรือไม่ได้อยู่แล้ว ก็จะปฏิบัติตนให้เหมือนเดิม คือ จะยึดมั่นในครรลองคลองธรรม ไม่แสวงหาผลประโยชน์ในตำแหน่งหน้าที่ พร้อมกับทิ้งท้ายด้วยคำกลอนที่มีความหมายกินใจที่มีเนื้อหาว่า ภูมิใจในชะตาที่เกิดมา ถือเป็นชาวจันทบุรี และถ้าตายไปแล้วก็ขอให้เกิดมาเป็นชาวจันทบุรีอีก

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการกล่าวให้กำลังใจ นายพิชา พิจิตศิลป์ หนึ่งผู้มาให้กำลังใจ กล่าวว่า ส่วนตัวประกอบอาชีพทนาย และได้อ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ได้สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ แล้วเห็นว่า เป็นการวินิจฉัยเกินอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ และจะไปยื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ให้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 197 และ 198 เพื่อดำเนินการต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งหลังจากนี้จะเดินทางไปยื่นเรื่องที่รัฐสภา ขอเชิญชวนบุคคลที่เห็นด้วยให้ไปพร้อมกันที่หน้ารัฐสภา เวลา 15.30 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกลุ่มผู้ให้กำลังใจต่อ พล.ต.อ.วาสนา จาก อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี กำลังจะเดินทางกลับไปนั้น แต่ยังมีคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเรียกตัวเองว่ากลุ่มพลังเงียบเพื่อสังคมไทยที่เป็นกลุ่มมักมาก่อกวนกลุ่มที่ชุมนุมขับไล่ กกต.อยู่เป็นประจำ และมักเข้าไปยั่วยุทำลายข้าวของภายในเต็นท์ของกลุ่มที่ปักหลักประท้วงการทำงานของ กกต.มาก่อนหน้านี้แล้ว โดยกลุ่มนี้ได้ยืนจับกลุ่มคุยกันที่บริเวณหน้าอาคารศรีจุลทรัพย์ และวิพากษ์วิจารณ์ด่าทอผู้ที่ต่อต้าน กกต.และรัฐบาล และพูดคุยในทำนองที่จะรื้อเต็นท์ของกลุ่มพันธมิตรที่ปักหลักประท้วงการทำงานของ กกต.

ระหว่างนั้นมีบางคนได้เตรียมกรรไกร เพื่อจะตัดป้ายผ้าและรื้อเต็นท์ รวมทั้งเชือกที่ผูกเต็นท์ และเมื่อกลุ่มผู้ให้กำลังใจ กกต.ได้ทยอยลงมาสมทบมากขึ้นเรื่อยๆ จึงมีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 3-4 คน เดินไปที่เต็นท์ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่คัดค้าน กกต.ที่ปักหลักอยู่ในเต็นท์ได้เดินเข้ามาเจรจาเพื่อขอร้องไม่ให้ทำลายป้ายและเต็นท์ แต่เมื่อเจรจาไปได้ระยะหนึ่ง หนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ก็ได้ชกต่อยชายที่มาเจรจาขอไม่ให้ทำลายป้าย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาความปลอดภัยก็ไม่ได้แสดงท่าทีที่จะเข้าไประงับเหตุ ในขณะที่ตำรวจอีกบางส่วนก็ยังคงนั่งอยู่ภายในอาคาร

จนกระทั่งเหตุการณ์เริ่มรุนแรง ตำรวจจึงทยอยออกไประงับเหตุ แต่ก็ไม่ทันการณ์ เพราะกลุ่มผู้ให้กำลังใจบางส่วนได้ใช้กรรไกร มีดพกขนาดเล็ก ที่เตรียมมา ไปกรีดและตัดทำลายป้ายผ้าที่ขึงไว้หมดแล้ว

จากนั้นกลุ่มผู้ให้กำลังใจก็ได้ขึ้นไปบนเวทีของ สนนท.และเครือข่ายนักศึกษา โดยเข้าไปกระชากฉากหลังเวทีออก รวมทั้งป้ายผ้าอื่นที่ติดไว้บนและข้างเวที โดยในระหว่างนี้ก็มีผู้ปรบมือและตะโกนเชียร์ให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตำรวจก็ไม่มีท่าทีที่จะเข้าไประงับการยั่วยุดังกล่าวแต่อย่างใด และทำเพียงยืนตรึงกำลังอยู่เท่านั้น นอกจากนี้ กลุ่มผู้ให้กำลังใจยังตรงเข้าไปรื้อทำลาย อุปกรณ์การประท้วงต่างๆ หรือป้ายที่ติดอยู่บนสะพานลอย ท่ามกลางสายตาประชาชนและสื่อมวลเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ คนกลุ่มนี้ยังไม่หนำใจ ยังเข้าไปรุมด่ากลุ่มผู้ชุมนุมที่คัดค้าน กกต.ที่อยู่ภายในเต็นท์ ด้วยถ้อยคำที่หยาบคายต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่ และมีชายคนหนึ่งได้นำรูปกระเบื้องที่ติดรูป กกต. เข้าไปโยนไว้ในเต็นท์ พร้อมกับทำลายรั้วที่ขึงด้วยผ้า และข้าวของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำ หรือแผงไข่ไก่ ที่เตรียมไว้ทำอาหารจนเสียหาย

หลังจากนั้น เหตุการณ์ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง โดยกลุ่มผู้ให้กำลังใจ กกต.กลุ่มนี้เริ่มพุ่งเป้ามาที่สื่อมวลชน โดยตะโกนด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ว่า บิดเบือนและเสนอข่าวไม่เป็นกลาง ไอ้เหี้ย ทีอย่างนี้พวกมึงมาทำข่าว ถ่ายเลยถ่าย แล้วให้ได้ออกด้วยนะ ระหว่างนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมก็เห็นโลโก้ของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง (เนชั่นทีวี) และเดินเข้าไปต่อว่าว่า ไอ้นี่เหรอที่ชอบเสนอข่าวด่ารัฐบาล พวกมึงน่ะไอ้เด็กเมื่อวานซืน นักข่าวจึงตอบกลับไปว่า ด่าหนูทำไม แล้วจู่ๆ ก็มีหญิงคนหนึ่งเอาร่มฟาดไปที่นักข่าวหญิงคนดังกล่าว แต่พลาดไปโดนช่างภาพคนหนึ่งซึ่งกำลังทำหน้าที่ ทำให้กลุ่มช่างภาพไม่พอใจพยายามที่จะฮือเข้าไปตอบโต้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้ามาระงับเหตุ

ในขณะที่กำลังชุลมุนอยู่นั้น กลุ่มผู้ให้กำลังใจ กกต.ก็ขว้างขวดน้ำพลาสติกเข้ามาในกลุ่มช่างภาพ แต่พลาดไปโดนศรีษะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้กลุ่มช่างภาพพยายามหาคนที่ขว้างขวดน้ำ แต่ตำรวจก็พยายามกันทั้ง 2 ฝ่ายออกไป อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง ชายคนหนึ่งเข้ามาชี้หน้าช่างภาพและท้าชกต่อยโดยบอกว่า ไอ้เหี้ย แน่จริงพวกมึงเข้ามา ซึ่งตำรวจก็เข้ามากัน และพาชายคนดังกล่าวหลบเข้าไปในตัวอาคาร เหตุการณ์จึงสงบลง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนก็ได้ถอนกำลังกลับก่อนที่เหตุการณ์จะสงบอย่างแท้จริง โดยบอกว่า ออกเวรแล้ว


รายงานข่าวแจ้งว่า ในระหว่างเหตุการณ์การรื้อถอนทำลายเต็นท์ครั้งนี้ น่าที่จะมีคนที่สั่งการอยู่เบื้องหลัง และจากการตรวจสอบทราบว่า มีแกนนำ 3 คน คอยบัญชาการซึ่งจะมีการสั่งผ่านเด็กให้ไปบอกกับกลุ่มนั้นว่าให้ทำอะไรบ้าง รื้ออะไรตรงไหนบ้าง บุคคลทั้ง 3 คน พยายามกีดกัน โดยตะโกนด่าเพื่อไม่ให้ช่างภาพทำการบันทึกภาพ โดยกล่าวว่า มึงอย่าถ่ายภาพนะ ถ้าถ่ายมึงโดนแน่ หลังจากที่สั่งไม่ให้ช่างภาพถ่ายภาพได้ก็หัวเราะชอบใจ และคอยเข้ามาสังเกตการณ์เวลาผู้ให้กำลังใจเข้าไปด่ากลุ่มผู้ชุมนุมขับไล่ กกต.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้ที่สัญจรผ่านบริเวณหน้าอาคารศรีจุลทรัพย์ จนบางครั้งถึงขั้นจอดรถดูเหตุการณ์ จนทำให้การจราจรบนถนนพระรามหนึ่งติดขัดจนถึงหน้าสนามศุภชลาศัย โดยตำรวจที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในวันนี้ควบคุมโดย พ.ต.ท.อัคสิทธิ กาญจนพิศาล สารวัตรปราบปราม สน.ปทุมวัน และมีตำรวจรักษาความปลอดภัยประมาณ 30 นาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเหตุการณ์ชุลมุนดังกล่าว นักศึกษาของ สนนท.ที่อยู่บริเวณหน้าอาคารก็ได้พยายามประสานไปยัง สนนท.และองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง และเครือข่ายนักเรียนนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตย รวมถึงแกนนำกลุ่มพันธมิตรให้มาร่วมชุมนุมที่หน้าสำนักงาน กกต.และเมื่อแกนนำกลุ่มนักศึกษามาถึง ก็ได้เข้าประสานกับช่างภาพผู้สื่อข่าวของสื่อทุกแขนงเพื่อสำเนาเทป และภาพถ่าย เพื่อนำไปแจ้งความต่อไป

แต่เมื่อกลุ่มนักศึกษาลงไปตรวจสอบความเสียหายของเวที ก็พบว่า ชายที่เป็นแกนนำในการรื้อเต้นท์ และเป็นคู่กรณีกับช่างภาพ ยังคงอยู่ในอาคารศรีจุลทรัพย์ ทำให้กลุ่มนักศึกษาที่ชุมนุมอยู่บริเวณภายนอกอาคารเกิดความไม่พอใจ โดยขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาคอยรักษาความปลอดภัย และนั่งพักผ่อนอยู่ในตัวอาคารพยายามตะโกนให้ตำรวจส่งตัวชายคนดังกล่าวออกมา แต่เมื่อไม่ได้รับการปฏิบัติตามที่ร้องขอ ทำให้บางคนไม่พอใจ และจะใช้ไม้เข้าตีกระจกประตู ส่งผลให้ตัวแทนนักศึกษาต้องขึ้นเวทีประกาศ ว่า ขอให้ทุกคนใจเย็น และย้ำว่า จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ทำลายข้าวของต่างๆ จากนั้นก็ได้มีการเปิดการปราศรัยโจมตีการทำงานของ กกต.และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ยอมระงับเหตุ ว่าเข้าข้างกลุ่มที่มาให้กำลังใจ กกต.

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์