ตามคาด! 3 เกลอยื้อผลสรุปจ้างพรรคเล็ก-สั่งสอบเพิ่ม 7 วัน

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤษภาคม 2549 20:08 น.

3 เกลอ กกต.ยื้อผลสอบอนุกรรมการสั่งสอบเพิ่มพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กให้เวลาอีก 7 วัน อ้างยังสอบผู้เกี่ยวข้องไม่ครบทุกปาก พี่หนา ลั่นผดุงยุติธรรมถูกเป็นถูกผิดเป็นผิดแม้แต่พ่อก็ไม่เว้น ถ้าหัวหน้าพรรคใหญ่ผิดก็ต้องเรียกมาเค้น อ้างที่ทนอยู่เพราะมีภาระต้องสางปัญหาคำวินิจฉัยยันถ้าเสร็จตัดสินใจแน่ ยืนยันไม่กลัวคุก

วันนี้ (17 พ.ค.) พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ในการประชุม กกต.ช่วงเช้าที่ประชุมได้มีการนำรายงานผลการสืบสวนสอบสวนของคณะอนุกรรมการกรณีพรรคใหญ่จ้างพรรคการเมืองเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง ที่มี นายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานศาลฎีกา เป็นประธาน เข้าพิจารณา โดยที่ประชุมได้พิจารณาแล้วเห็นว่าในภาพรวมของการสืบสวนสอบสวนยังไม่สมบูรณ์ ยังไม่ได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องจนครบทุกปาก และมีบางประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน จึงให้อนุกรรมการไปดำเนินการสอบสวนเพิ่มให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน อย่างไรก็ตาม ตนไม่สามารถที่จะเปิดเผยรายละเอียดต่างๆ ได้ เพราะเรื่องของการสอบสวนเป็นมารยาทที่หากผลการสอบสวนยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จและยังไม่มีมติใดๆออกมา ไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้

เรื่องดังกล่าวมีตัวละครเยอะ อย่างเช่น มีตัวละคร 10 คน สอบมาแค่ 7 ก็ต้องให้ไปสอบอีก 3 ที่เหลือให้ครบ แล้วที่สอบมามันก็ยังไม่หมดประเด็น ก็ต้องให้ไปสอบให้ครบถ้วนถ้าครบ หากที่ให้ไปสอบใหม่ครั้งนี้กลับมาแล้วยังไม่ครบถ้วนอีกก็ต้องให้ไปสอบใหม่อีก ครบเมื่อไหร่ ที่ประชุม กกต.ก็จะมาพิจารณาว่าผิดหรือไม่ผิดถึงตอนนั้น ถ้าผิดก็จะมีมติให้อนุกรรมการเชิญหัวหน้าพรรคที่ถูกกล่าวหามาชี้แจงต่ออนุกรรมการ พล.ต.อ.วาสนา กล่าว

พล.ต.อ.วาสนา กล่าวอีกว่า การสั่งให้อนุกรรมการสอบเพิ่ม ไม่กลัวว่าจะถูกกล่าวหาว่าช่วยพรรคไทยรักไทย เพราะว่าตนไม่ใช่ทำอะไรตามกระแส และว่าไปตามข้อเท็จจริงหลักฐาน ถ้าผิดก็ดำเนินการ ซึ่งไม่อยากพูดว่า ถ้าคนๆ นั้นเป็นพ่อของตนแล้วทำผิด ตนก็ต้องว่าผิด

เมื่อถามว่า เรื่องการยุบพรรคกฎหมายให้อำนาจนายทะเบียนเพียงคนเดียว ไม่จำเป็นต้องเป็นมติของ กกต.น่าจะดำเนินการได้เลย พล.ต.อ.วาสนา กล่าวว่า ไม่ได้ เพราะเรื่องดังกล่าวมีปัญหาไปเกี่ยวข้องกับมาตราอื่น ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาข้อโต้แย้งมาตรา 19 ของ พ.ร.บ.กกต.ที่ระบุว่า ต้องเป็นมติของที่ประชุม กกต.

ส่วนกรณีที่ กกต.สอบปากคำพรรคเล็ก และได้ข้อมูลว่า พรรคประชาธิปัตย์จ้างพรรคเล็กเพื่อล้มการเลือกตั้ง รวมทั้งมีการร้องเรียนจากพรรคไทยรักไทยให้ กกต.ดำเนินการเอาผิดพรรคประชาธิปัตย์ นั้น พล.ต.อ.วาสนา กล่าวว่า ได้มอบให้เลขาธิการ กกต.ไปดำเนินการ ว่าจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนหรือดำเนินการอย่างใดหรือไม่แล้ว

พล.ต.อ.วาสนา ยังกล่าวถึงกระแสกดดันต่างๆ ให้ลาออกขณะนี้ ว่า ความจริงตนก็เบื่อหลายๆอย่างที่นี่ ทั้งปัจจัยภายในและภายนอก แต่ที่ยังไม่ลาออกขณะนี้ ก็เพราะยังติดเรื่องของการจัดทำคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น และการเลือกตั้ง ส.ส.ใหม่ ที่แม้ศาลจะสั่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ แต่ กกต.ได้ประกาศรับรองไปแล้ว และก่อนการประกาศรับรองก็ได้พิจารณาคำร้องต่างๆ ซึ่งต้องเขียนคำวินิจฉัย โดยทั้งหมดค้างอยู่ประมาณ 500 เรื่อง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกิน 1 เดือน

สำหรับผมมีแค่เรื่องนี้ถ้าทำเสร็จก็ต้องตัดสินใจแล้ว แต่ กกต.คนอื่นผมไม่ทราบ ตอนนี้ถ้าออกไปแล้วจะเซ็นคำวินิจฉัยเหล่านี้ได้อย่างไร ตอนท่านจรัล เสีย ก็ค้างอยู่ 2-3 พันเรื่อง ผมก็ต้องมาเซ็นรับรองอยู่ตอนนี้ว่าเป็นเรื่องที่ท่านเคยร่วมประชุมและมีมติเห็นด้วย ซึ่งในกรณีของพล.อ.จารุภัทร ก็เหมือนกันออกไปแล้วก็จะมาเซ็นย้อนหลังไม่ได้ ผมก็ต้องมาเป็นคนเซ็นรับรอง ถ้าออกกันหมดแล้วใครจะเซ็น คนที่เข้ามาใหม่เขาไม่ได้มาประชุมร่วมและมีมติด้วย เขาไม่รู้เรื่องแล้วจะเซ็นได้อย่างไร พล.ต.อ.วาสนา กล่าว

เมื่อถามว่า ถ้ารอคำวินิจฉัยเสร็จอาจจะมีพระราชกฤษฎีกาวันเลือกตั้งแล้วการลาออกอาจทำให้เกิดปัญหาไม่มีคนจัดการเลือกตั้ง พล.ต.อ.วาสนา กล่าวว่า ไม่เป็นไรในบ้านเราคนเก่งๆ เยอะ และตนก็มาจากกระบวนการสรรหาเหมือนกัน กฎหมายก็บอกไว้แล้ว เรื่องเหตุของการพ้นจากตำแหน่ง

เมื่อถามต่อว่า ไม่ลาออกในขณะนี้อาจถูกศาลใช้คดีอาญาต้องพ้นจากตำแหน่ง พล.ต.อ.วาสนา กล่าวว่า ตนเชื่อความยุติธรรมคงมี เชื่อในความบริสุทธิ์ ตนก็มีความคิดเป็นของตัวเองเหมือนกัน โตมาขนาดนี้แล้วไม่ต้องไปปรึกษาใคร ตอนเป็นตำรวจมาเป็นเลขา ปปง.ยังไม่ปรึกษาใครเลย และไม่ว่าจะอยู่ที่นี่ หรือพ้นไปแล้วถ้ามันผิดมันก็ติดคุกได้เหมือนกัน เมื่อถามต่อว่า ที่ยังอยู่นี่มีการขอร้องจากรัฐบาลหรือไม่ พล.ต.อ.วาสนา กล่าว่า ไม่มีไม่เคยคุยกันเลย