บวรศักดิ์ ยก กม.โต้อ้างมี กกต.3 คน ก็คุมเลือกตั้งได้

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤษภาคม 2549 15:43 น.

บวรศักดิ์ ร่ายยาวกฎหมาย ยัน กกต.เหลือแค่ 3 คนก็ทำงานได้ แต่ลงมติต้องเป็นเอกฉันท์ทั้งหมด ระบุการกำหนดวันเลือกตั้งต้องรอมติ กกต.ก่อน โต้ศาลอุ้ม พี่หนา และพวกยันประชุมพรรคการเมืองไม่ใช่การลงมติแค่หารือ ส่อเค้าเลื่อนวันเลือกตั้ง ชี้ 22 ต.ค.เป็นวันออกบวชของมุสลิมอาจมีปัญหาเรื่องทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง


วันนี้ (17 พ.ค.) นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายสุชน ชาลีเครือ รักษาการประธานวุฒิสภา เตรียมส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความกรณีการใช้มาตรา 138 (3) ในการสรรหาบุคคลมาเป็นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แทนบุคคลที่ลาออกและเสียชีวิตว่า ตนไม่ทราบเรื่อง แต่นั่นคือสิ่งที่วุฒิสภาเคยส่งเรื่องให้รัฐบาลพิจารณา เพื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างที่เคยกล่าวไปแล้ว ดังนั้น เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของวุฒิสภา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไป จะยังสามารถใช้มาตรา 138(3) ได้หรือไม่ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ เมื่อวุฒิสภาบอกว่าไม่ได้ในอดีต ก็คงจะต้องหาทางออกว่าจะทำอย่างไร จึงต้องส่งศาล ถ้าศาลบอกว่าได้ ก็ดำเนินการต่อไป เรื่องนี้ตนไม่ได้เป็นคนหลักลอย หรือเป็นคนพลิกลิ้น การพูดทุกอย่างมีหลักเกณฑ์ ก็เห็นกันอยู่ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะเอาความเห็นของตัวเองออกมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ กกต.ที่เหลือเพียง 3 คน จะสามารถทำหน้าที่ต่อได้หรือไม่ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ในรัฐธรรมนูญและกฎหมาย กกต.บอกว่า องค์ประชุมของ กกต.นั้น มีจำนวน 4 ใน 5 และมาบีบว่าต้องใช้เสียงข้างมาก เว้นแต่ที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ซึ่งต้องใช้มติเป็นเอกฉันท์ ก็ต้องเป็นเอกฉันท์ ถ้าดูตามตัวบทกฎหมายก็ไปได้ แต่ว่าอย่ามี กกต.คนใดไปเข้าโรงพยาบาลอีกสักคนก็แล้วกัน เพราะถ้าเหลือ 2 คนจะไม่เป็นคณะกรรมการแล้ว เมื่อไม่เป็นกรรมการแล้วก็ยุ่ง

เมื่อถามย้ำว่า เจตนารมณ์ในการร่างรัฐธรรมนูญนั้น การจะใช้มาตรา 138 (3) นั้น จะต้องผ่าน (1) และ (2) ก่อนหรือไม่ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า เคยพูดไปแล้ว ไม่พูดอีกแล้ว เดี๋ยวจะถูกด่าอีก เพราะพอพูดถึงหลักเกณฑ์ ก็ไม่ตรงใจเวลานี้เขาไม่ดูความถูกต้อง เขาดูความถูกใจ เขาดูว่าใครพูด แต่เขาไม่ได้ดูเนื้อหาและเหตุผล พูดไปก็ไม่ถูกใจ พูดไปก็ทำร้ายตัวเอง

เมื่อถามอีกว่า ตอนนี้รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร หลังจากที่ประชุม 3 ศาลมีมติเช่นนี้ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ก็ดำเนินการต่อไป เพราะ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต.ก็ชี้แจงชัดเจนว่า การหารือเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น ไม่ได้เป็นการประชุม กกต.แต่เป็นการรับฟังความเห็น และจะมีการประชุม กกต.อีกครั้ง อย่าเพิ่งไปด่วนสรุป ศาลเขาก็พูดชัดเจนว่า ถ้าถือว่าวันที่ 15 พ.ค.เป็นการประชุม นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะ 3 จาก 4 ไม่ถึง 4 ใน 5 แต่ถ้าเอาเข้าที่ประชุม กกต.ในวันนี้ แล้ว กกต.ที่เหลือทั้ง 3 คน มีมติเป็นเอกฉันท์ มันก็ถูกต้อง ดังนั้น สำนักเลขาธิการ ครม.ต้องรอมติของ ที่ประชุม กกต.ก่อน เพราะเราไม่มีอะไรต้องรีบ

อย่างไรก็ตาม นายบวรศักดิ์ เห็นว่า การหารือในวันที่ 15 พ.ค.นั้น ยังไม่ใช่มติ แต่เป็นข่าวว่ามีการปรึกษากันอย่างนี้ มีการกำหนดอย่างนี้ และเรื่องการกำหนดวันเลือกตั้ง เป็นวันที่ 22 ต.ค.นั้น ตนได้ให้เจ้าหน้าที่ประสานงานไปแล้วว่า วันนั้นเป็นวันออกบวชของชาวมุสลิม ก็จะมีปัญหาได้ เพราะต้องใช้มัสยิดในการเฉลิมฉลอง ก็จะเกิดเหตุว่าไปเลี้ยงในวันเลือกตั้งอีก และมัสยิดหลายแห่งก็ต้องใช้เป็นหน่วยเลือกตั้งด้วย ซึ่งตนได้ให้เจ้าหน้าที่ติดต่อเพื่อแจ้งให้เลขาธิการ กกต.รับทราบแล้ว โดยเป็นการประสานงานในระดับเจ้าหน้าที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้จะมีผลทำให้การออกพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดวันเลือกตั้ง ต้องสะดุดหรือไม่ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ล่าช้าแน่นอน เพราะเดิมกำหนดจะออก พ.ร.ฎ.ในวันที่ 22 ส.ค.แต่หากนับเวลาให้ดี จะพบว่าเป็นเวลา 62 วันเลยต้องเลื่อนไปเป็นวันที่ 24 ส.ค.

เมื่อถามว่าจะสามารถออก พ.ร.ฎ.ไว้ก่อนเพื่อรอประกาศวันบังคับใช้ได้หรือไม่ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ไม่สมควร จะพูดอย่างนั้นไม่ได้ เพราะอยู่ที่สำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง ว่าจะนำเรื่องขึ้นกราบบังคมทูลฯ เมื่อไร ดังนั้น อย่าไปพูดอย่างนั้นเลย ซึ่งหลังจากนี้ตนก็จะประสานกับสำนักราชเลขาธิการต่อไป ทำให้เรื่องถูกต้อง เหมาะสม

เมื่อถามอีกว่า ปัญหาขณะนี้มีทางออกหรือไม่ เพราะดูเหมือนทุกอย่างถูกปิดล็อก นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ทุกอย่างมีทางออก เพราะถ้าที่ปรึกษากฎหมายบอกว่าทำไม่ได้ ก็ส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ถ้าศาลบอกว่าได้ก็จบ และตอนนี้ถือว่าเกิดปัญหาขึ้นแล้ว ทั้งกรณีของ พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ และ นายจรัล บูรณพันธุ์ศรี ไม่ใช่เป็นข้อสมมติ แต่เป็นปัญหาจริงแล้ว ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญสามารถรับวินิจฉัยได้ ทำอะไรก็ได้ให้เรื่องยุติเร็ว บ้านเมืองจะได้เดินต่อไป ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า ศาลรัฐธรรมนูญ จะรับวินิจฉัยเรื่องการใช้ มาตรา 138 (3) ได้ ถ้าศาลบอกว่าได้ก็คือได้ แต่ถ้าบอกว่าไม่ได้ก็จะเกิดเดดล็อก

เมื่อถามว่า ระยะเวลาการเลือกตั้งที่ยาวนาน ในที่ประชุม ครม.วานนี้ (16 พ.ค.) ได้มีการหารือเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายในเดือน ต.ค.หรือไม่ นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า การโยกย้ายก็ต้องทำ แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจาก กกต.ก่อน เพราะอยู่ระหว่างการยุบสภา ก็ต้องดำเนินการตามมาตรา 215 เวลานี้ก็ทำได้ เพียงแต่ต้องขอความเห็นชอบจาก กกต.เท่านั้น และต้องเป็นกรณีที่ ครม.เห็นชอบด้วย ส่วนการโยกย้าย แต่งตั้งข้าราชการระดับ 9 นั้น ไม่จำเป็นต้องรอให้ที่ประชุม ครม.เห็นชอบ สามารถดำเนินการได้ตลอดเวลา