จากกรณีที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายก รัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ได้เกิดอาการ “วูบ” เป็นลมหมดสติ
ขณะกล่าวปาฐกถาเรื่อง “การตลาดประเทศ ไทย” ในงานโพสต์ ฟอรัม 2008 ต้องเข้ารักษาตัวอยู่ที่หอผู้ป่วยหนัก หัวใจและหลอดเลือด CCU ตึกข้าราชการตำรวจ ชั้น 1 โรงพยาบาลตำรวจนั้น วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันได้มีบุคคลสำคัญนำกระเช้าดอกไม้มาเยี่ยมอาการนายมิ่งขวัญด้วยความเป็นห่วงกันเป็นจำนวนมาก
โดย พล.ต.ต.นพ.อรรถพันธ์ พรมณฑารัตน์ รองแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ
ในฐานะแพทย์เจ้าของไข้ กล่าวว่า ได้เอกซเรย์ตรวจหัวใจ พบว่า กล้ามเนื้อหัวใจ ลิ้นหัวใจ หลอดเลือดหัวใจ รวมทั้งสมองความดัน ปกติดี ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเป็นลม น่าจะเกิดจากความอ่อนเพลียจากไข้หวัด เพราะทราบว่าคนไข้เป็นไข้หวัดมา 2 วันแล้ว ประกอบกับพักผ่อนน้อย กินอาหารไม่เพียงพอ ได้แนะนำให้หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ และพักผ่อนให้เต็มที่ ส่วนใบหน้าไม่มีบาดแผลแต่อย่างใด ที่เห็นเป็นเพียงรอยฟกช้ำเท่านั้น
ต่อมาเวลา 14.15 น. นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ได้เดินทางกลับไปพักฟื้นที่บ้าน หลังจากแพทย์ได้ตรวจร่างกายอย่างละเอียด
โดยนายมิ่งขวัญมีสีหน้าที่สดใส ยิ้มแย้มและทักทายกับผู้สื่อข่าว โดยกล่าวว่าแข็งแรงดีแล้ว จะเดินทางกลับบ้านเพื่อไปพักฟื้น หลังจากเมื่อวานนี้เป็นลมทั้งยืน เนื่องจากมีไข้ ทานข้าวน้อย ไม่ได้พักผ่อน อาการโดยรวม ทางคณะแพทย์โรงพยาบาลตำรวจยืนยันทุกอย่างดีขึ้น ไม่มีปัญหาโรคแทรกซ้อน อาจจะมีไข้บ้าง แพทย์แนะนำให้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน 2-3 วัน ก่อนกลับมาทำงานที่กระทรวงต่อ
อีกเรื่อง วันที่ 26 ก.พ.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
ได้รับมอบหมายจากนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ให้ไปดูข้อกฎหมาย และระเบียบเกี่ยวกับการแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่า สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปี 2550 หรือไม่ เพราะทุกพรรคได้เสนอว่าควรมีตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี แต่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน แย้งว่า ขณะนี้รัฐธรรมนูญและกฎหมายเปลี่ยนไปมาก จึงอยากให้ช่วยดูระเบียบและข้อจำกัดว่าสามารถกระทำได้หรือไม่ ส่วนตัวเห็นว่า กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีไม่ใช่มีอยู่ใน พ.ร.บ.ข้าราชการการเมือง ทำงานภายใต้ระเบียบที่ออกมารองรับ แต่ก็ไม่ควรตั้ง ส.ส. มารับตำแหน่งนี้ เพราะอาจมีปัญหา แต่ถ้าเป็น ส.ส.สอบตกหรือคนนอกก็ไม่มีปัญหา คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบระเบียบประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้นจะรายงานที่ประชุม ครม.รับทราบในวันที่ 4 มี.ค. ส่วนจะมีจำนวน 30 คนเหมือนเดิมหรือไม่ ยังไม่ทราบขอดูข้อกฎหมายก่อน