สมัคร เตือน ขรก.อย่าเอาใจเกินเหตุ

เช้าวันที่ 25 ก.พ. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี  และ  รมว.กลาโหม ได้เป็นประธานการประชุมชี้แจงนโยบายของรัฐบาล ต่อผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐ

โดยมีข้าราชการระดับสูงเข้าร่วมรับฟังอย่างพร้อมเพรียง โดยนายกฯได้ใช้เวลาในการชี้แจงนโยบายดังกล่าวนานกว่า  2  ชั่วโมง ทั้งนี้ ก่อนที่นายสมัครจะชี้แจงนโยบาย ได้กล่าวตำหนิรัฐมนตรี และข้าราชการที่ลุกขึ้นยืนแสดงความเคารพพร้อมกันในขณะที่นายกฯเดินเข้าห้องประชุมว่า ขอให้ระมัดระวังเรื่องการแสดงความเคารพที่มากเกินเหตุ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยโดนแบบนี้จนถูกกล่าวหา ถึงการแสดงความเคารพต่อนายกฯ ดูเหมือนกับเป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ควรระมัดระวังด้วย
อย่างเช่น กรณีที่มีฝนตกแดดออก หากจะกางร่มให้นายกรัฐมนตรี ก็ต้องระมัดระวังโดยเฉพาะร่มที่มีด้ามยาว เขาจะกางให้เฉพาะเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน อาจจะทำให้นายกฯต้องซวยโดนชี้หน้าด่า ขณะที่รัฐมนตรีคนอื่นๆก็ขอให้ระมัดระวังเรื่องนี้ด้วย  

นายสมัครกล่าวชี้แจงนโยบายรัฐบาล โดยมีใจความสำคัญเรื่องหลักๆ  4  เรื่อง

คือ 1. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯและปริมณฑล 2. ระบบขนส่งรถไฟทั่วประเทศ 3. ระบบน้ำ และ 4. ระบบเศรษฐกิจในภาพรวม สำหรับระบบขนส่งกรุงเทพฯและปริมณฑลนั้น ยังคงเน้นย้ำถึงการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้า 8 สาย 8 แฉก โดยกล่าวว่า ระบบขนส่งอย่างนี้มีประโยชน์หลายทาง สามารถสร้าง 4  ทิศ จะได้ใช้งานภายใน  3  ปี โดยรัฐบาลชุดนี้จะอยู่ถึง 4  ปี อีก  3  ปีครึ่ง ทำไม่ได้ให้มันรู้ไป

ทั้งนี้ มีแนวคิดที่จะให้บริษัทเอกชนเข้าร่วมประมูล ให้ได้ 7 บริษัทร่วมกันทำทุกทิศทาง ถึงราคาจะแพงหน่อยแต่ได้เนื้องาน ไม่ใช่คิดแต่เพียงจะเอาถูกๆ ให้บริษัทเดียวทำ 7 ท่อนมันช้า ไม่ได้งานด้วย

นายกฯกล่าวถึงการพัฒนาระบบรถไฟไทยที่เดิมมีอยู่ 3,700 กม. ว่า จะไม่แตะต้องรางเก่า แต่จะวางรางใหม่ 3,700 กม. รวมแล้วทั้งสิ้น 7,400 กม. โดยการวางรางใหม่จะสามารถรับน้ำหนักได้มากกว่าเดิม  เพราะใช้หมอนหนุนคอนกรีต  ทั้งนี้  เอารถไฟขบวนเก่าออกจากราง นำขบวนใหม่ที่มีคุณภาพมากกว่ามาใช้ จากเชียงใหม่ 12 ชั่วโมง ก็เหลือ 6 ชั่วโมง ขอฝากการรถไฟแห่งประเทศไทยและกระทรวงคมนาคมว่า จะเสียเงินเท่าไหร่ก็จะทำ  

นายสมัครกล่าวถึงเรื่องการพัฒนาระบบน้ำว่า ระบบเขื่อนต่างๆของประเทศไทยที่มีอยู่เดิมเป็นประโยชน์มาก

อย่างไรก็ตาม การสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นที่โดนขัดขวาง สามารถกักเก็บน้ำได้ถึง 1,200 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำประโยชน์ได้หลายด้านทั้งยังป้องกันน้ำท่วม  แต่ก็ถูกปลุกระดมขัดขวางโดยเอาเรื่องไม้สักทอง  500  ต้น มาอ้าง ทั้งที่ตอนนี้ไม่มีแล้ว เอารัฐธรรมนูญมาอ้าง พูดกันจะเป็นจะตาย ก็ขอรับประกันว่าถ้าสร้างจริงๆ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับผลตอบแทนจริงๆ  นโยบายทั้งหลายเหล่านี้จะเป็นไปได้ โดยวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้จะเล่าให้ฟังในรายการสนทนาประสาสมัคร
 

นายสมัครกล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายการปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาดของรัฐบาล
 
วันนี้ถูกแปรความว่าเป็นนโยบายฆ่าตัดตอน ก็ตกใจกันใหญ่ สหประชาชาติก็เข้ามาสอบถามว่า  สมัย  พ.ต.ท.ทักษิณมีผู้เสียชีวิต 2,500 ศพ พอมารัฐบาลนายสมัครจะฆ่ากันตายถึง 5,000 ศพ เลยอย่างนั้นหรือ มันจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว  

นอกจากนี้ นายสมัครยังเน้นย้ำถึงข้าราชการที่ได้รับผลกระทบจากการโยกย้ายไม่ได้รับความเป็นธรรม สมัยรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจว่าจะเยียวยา

แต่ไม่ใช่การฟื้นฝอยหาตะเข็บ ยอมรับว่าจะปล่อยให้เป็นไปตามคนที่ยึดอำนาจทำ วางเอาไว้ไม่ได้ รัฐบาลที่เข้ามาจากการเลือกตั้ง จะเข้ามาปรับปรุงให้มันเข้าที่เข้าทาง อย่างไรก็ตาม การยึดอำนาจที่ผ่านมาถือเป็นอุบัติเหตุ จะไม่กล่าวหาใคร รวมทั้งจะไม่มีการล้างแค้นเช็กบิล ทุกอย่างจบแล้วขีดเส้นใต้ 2 เส้น เดินหน้ากันต่อเพื่อบ้านเมืองของเรา 

“ผมได้รับการเลือกตั้งเข้ามา ถ้าสื่อมวลชนจะดูหมิ่นดูแคลน ก็กรุณาให้พวกเราดูกันเองพอสมควร ถ้าอยากจะดูแคลนใครเอาไว้ในใจ จะได้ไม่ต้องบาดหมางน้ำใจกัน เพราะทำงานกับพวกเดียวกันอยู่ ถ้าทำดี ก็ไม่ต้องสนับสนุนออกนอกหน้า ไม่ต้องเชียร์ คนเป็นหัวหน้ารัฐบาล คนจ้องจะด่าเรื่อย สมัครจะพูดอย่างนั้น อย่างนี้ ผมไม่ใช่นักประนีประนอม แต่ทำความเข้าใจกับ ทุกคนที่ผมสนทนาด้วย และทำความเข้าใจปัญหาของคน ที่ผมสนทนาด้วย และจะปฏิบัติเท่าที่จะทำได้ และถ้าทำไม่ได้จะอธิบายว่าเพราะอะไร เหมือนวันนี้ที่ผมเอานโยบายมาแปรเป็นรายละเอียดตรวจสอบท่านทั้งหลายว่า ท่านคิดจะทำกับเราได้หรือไม่ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ แต่ถ้าได้โปรดสนับสนุน ต่อไปนี้ก็ถึงเวลาทำงาน” นายสมัครกล่าว