10 ปมปริศนาทำไม พี่หนา ไม่ออก ??
พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต.โดย ผู้จัดการรายวัน 17 พฤษภาคม 2549 12:48 น.
ความชอบธรรมในการทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดที่มีพล.ต.อ. วาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธาน สิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่าการจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมาตกเป็นโมฆะ อีกทั้งการจัดเลือกตั้งแซม ก็ถูกศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งระงับเช่นกัน แต่เหตุไฉน กกต. ชุดดังกล่าวกลับดึงดันดื้อด้านดิ้นรนอยู่ในอำนาจเพื่อจัดการเลือกตั้งครั้งต่อไปท่ามกลางเสียงสาปแช่งก่นด่าของผู้คนทั่วบ้านทั่วเมือง ไม่ต่างไปจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่กู่ก้องคับฟ้าว่า กูไม่ออก แข่งกับเสียงตะโกนขับไล่ ทักษิณ ออกไป
ปมปริศนาทำไม กกต. ไม่ออก ลุกจากเก้าอี้ไม่ได้ จะเป็นด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ ใช่หรือไม่ ??
หนึ่ง การจัดทำคำวินิจฉัยผลการเลือกตั้งไม่เสร็จ ค้างอยู่บานตะไท แถมยังมีปัญหามีคำสั่งก่อนมีคำวินิจฉัยซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการออกคำสั่งที่ไม่ตรงกับคำวินิจฉัย ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่หมักหมม เน่าเฟะอยู่ข้างใน ใช่หรือไม่?
สอง ปัญหาทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างในแทบทุกเรื่อง ทุกโครงการ ที่ใช้การประมูลแบบ วิธีพิเศษ ประเคนงานให้พวกพ้อง วงศ์วานว่านเครือ ผูกขาดกันในหมู่ผู้ชิดใกล้ผู้หลักผู้ใหญ่ในกกต. ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างสำนักงาน, การจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง, การเช่ารถ ฯลฯ ใช่หรือไม่
สาม ปัญหาการใช้จ่ายงบประมาณ งบเลือกตั้ง และสารพัดงบ ที่ใช้กันอย่างอีลุ่ยฉุยแฉก แต่กลับไร้ซึ่งปัญหาเพราะว่า ฝ่ายตรวจสอบ เงินของแผ่นดิน ทั้งที่มาจากทางราชการและเอกชน ต่างเป็น เจ้าประจำ ที่ซี้ปึ๊กกันดีกับผู้ใหญ่ในกกต. ใช่หรือไม่?
สี่ ปัญหาการใช้งบลับ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวในและนอกประเทศ กินเลี้ยง ล้วนแต่ งบลับ งานราชการลับ ที่ไม่อาจตรวจสอบได้ หรือถ้าจะตรวจสอบก็ขอให้ย้อนกับไปดูข้อที่สาม ทำให้ปริศนางบลับดำมืดตลอดกาล ใช่หรือไม่?
ห้า การปรับองค์กรกกต.ให้เป็น รัฐตำรวจ ได้เปิดช่องให้เกิดการ รีดไถ เรียกรับผลประโยชน์จากคดีร้องเรียน คดีฟ้องร้อง การออกใบเหลือง ใบแดง ซึ่งมีวิธีพิสดารสารพัด สามารถเรียกได้ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ตามวัฒนธรรมความเชี่ยวชาญของรัฐตำรวจ เจ้าหน้าที่ในสำนักงานกกต. ต่างเล่าขานกันว่า หากเงินถึงหลักสิบล้านขึ้นไป ก็สามารถทำให้ใบแดงกลายเป็นขาวจั๊วะ ได้ภายในพริบตา ใช่หรือไม่?
หก การปรับรื้อโครงสร้างการทำงานที่ถูกวางระบบให้ตรวจสอบถ่วงดุลซึ่งกันและกันระหว่างฝ่ายสอบสวน ฝ่ายวินิจฉัยคดี ถูกรื้อทิ้งและจัดการรวมศูนย์เป็นฝ่ายเดียวกัน ทำให้การสมคบคิดทุจริตในกระบวนการสอบสวน วินิจฉัย เป็นไปได้โดยสะดวก ใช่หรือไม่ ?
เจ็ด การจัดแบ่งงานระหว่างกกต.ที่ไม่ยึดตามความเชี่ยวชาญของกกต.แต่ละคน มาสู่การแบ่งพื้นที่รับผิดชอบรายภาคเหมือนรัฐตำรวจ นำไปสู่ การซื้อยกภาค ได้ง่าย ไร้ปัญหา ใช่หรือไม่ ?
แปด กกต. อาศัยกฏที่ต้องลงมติเป็นเอกฉันท์ในการออกใบแดง เป็นช่องทางให้มีการ ซื้อ และ ขาย เพียงหนึ่งเสียง ก็ทำให้รอดพ้นใบแดงได้ ใช่หรือไม่
เก้า เกิดกระบวนการฉ้อฉลในระบบบุคลากรที่เพิ่มปริมาณขึ้นมหาศาลในยุค พล.ต.อ. วาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธาน และด้วยความฉ้อฉลส่วนใหญ่จึงได้คนคุณภาพห่วย โดยวัดจากประสิทธิภาพของผลงานที่ผ่านมา บุคลากรของกกต. ได้เพิ่มจาก 300 กว่าคน ในยุคก่อตั้ง พุ่งพรวดขึ้นมาถึง 2,000 2,500 คน ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการที่เออร์ลี่ รีไทม์ มาจากตำรวจ ทหาร มหาดไทย เป็นสำคัญ ใช่หรือไม่?
นอกจากนั้น บุลคลากรที่เป็นกกต.จังหวัด ต่างมาจากบรรดาหัวคะแนนพรรคการเมือง ผู้ใหญ่ในจังหวัด ญาติพี่น้อง ฯลฯ กลายเป็น เครือข่ายซอมบี้ ที่แผ่รากหยั่งลึกไปทั่วประเทศ ใช่หรือไม่ ?
สิบ เสียงร่ำลือว่า งานอดิเรกของเบอร์หนึ่งกกต. ชอบสะสมพระและมีมากเป็นพิเศษ จนต้องเช่าตึกเก็บซ่อนไว้โดยเฉพาะ เช่นเดียวกับที่ดิน ซึ่งพิสมัยแถบจังหวัดทางตะวันออกเป็นพิเศษ ใช่หรือไม่? ขณะที่นายพลอีกคนก็รักการสะสมที่ดินไว้เช่นเดียวกัน แต่ชอบทำเลแถบที่ราบสูงถิ่นดอกคูณ มากกว่า ใช่หรือไม่?