นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
กล่าวถึงเว็บไซต์ไฮ-ทักษิณ ว่า เป็นอย่างที่น.พ. สุรพงษ์ได้ระบุว่า เป็นเรื่องสิทธิ เสรีภาพ เรื่องเว็บ และสื่อภาคประชาชนไม่เกี่ยวอยู่แล้ว ทั้งที่เกิดก่อนหน้านี้ หรือเกิดในช่วงที่มีปัญหาทางการเมืองก็ตาม สำคัญต้องทำให้สื่อมีความหลากหลาย ในหลักการต้องเสริมสิทธิเสรีภาพและการแสดงออกของสื่อที่แสดงจุดยืนทางการเมือง
เมื่อถามว่าจะมีมาตรการอย่างไรหากมีเนื้อหาที่นำเสนอพาดพิงถึงสถาบันและบุคคลสำคัญ
นายจักรภพ กล่าวว่า สถาบันระดับสูงรัฐบาลจะเป็นผู้ดำเนินการ มีวิธีป้องกัน โดยให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนถ้าพาดพิงบุคคลธรรมดาประชาชน แนวนโยบายนั้นผู้เสียหายก็ต้องร้องเรียน และดำเนินการตามกระบวนการยุติ ธรรม สร้างความชอบธรรม ส่วนกรณีประธานองคมนตรีนั้น ก่อนหน้านี้ สนช.ได้เคยมีความพยายามที่จะออกกฎหมายเพิ่มโทษเกี่ยวกับประธานองคมนตรี องคมนตรีและรัชทายาท สนช.ในขณะนั้นได้ถอนเรื่องออกไป ในขั้นนี้จึงไม่มีกฎหมายที่ครอบคลุมในเรื่องนี้ ซึ่งรัฐบาลต้องดูว่ามีความเสียหาย หากเป็นพระบรมวงศานุวงศ์นั้นรัฐบาลต้องมีปฏิบัติการพิเศษ จะเป็นโจทก์เองแต่หากเป็นคนธรรมดาก็มีสิทธิตามกระบวน การยุติธรรม จะไม่มีการเลือกปฏิบัติ หากเป็นคนอื่นก็ต้องเท่าเทียมกัน
นายจักรภพยังกล่าวถึงการอภิปรายในสภาฯเกี่ยวกับสื่อว่า
หมายถึงสื่อของรัฐ ซึ่งสื่อสิ่งพิมพ์ไม่สามารถก้าวล่วงได้ แต่ที่พูดหมายถึงสื่อวิทยุโทรทัศน์มีส่วนในการสร้างความร้าวฉานในสังคม คือให้ข้อมูลขาดความสมบูรณ์ และที่เข้าไปดูแลก็เพื่อประเมินผลเท่านั้น ส่วนวิธีการ 2-3 อาทิตย์ก็ทราบ และสื่อดังก็ไม่จำเป็นต้องเซ็นเซอร์ตัวเอง