นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (20 ก.พ.) ว่า ในการเดินทางเยือนประเทศเพื่อนบ้านหลังรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ประเทศแรกที่จะเดินทางไปเยือนคือประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จากนั้นจะเป็นประเทศกัมพูชา มาเลเซีย และสหภาพพม่า สำหรับการเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาในวันที่ 3 มี.ค. เป็นการเยือนประเทศที่ 2 ส่วนกรณีระบุว่า วันเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปร่วมตีกอล์ฟกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นเรื่องที่ตนไม่ทราบจริงๆ ไม่เคยทราบและไม่เคยนัดหมาย ทราบเพียงจากข่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า การเดินทางเยือนประเทศกัมพูชาครั้งนี้จะเป็นการไปพบกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และตนก็ไม่ตีกอล์ฟ เป็นการไปเยือนปกติธรรมดาและแนะนำตัวในฐานะนายกรัฐมนตรีคนใหม่
โดยตนต้องการใช้เครื่องบินพาณิชย์เที่ยวธรรมดาเท่านั้น เนื่องจากเห็นว่าน่าจะปลอดภัยมากกว่าเที่ยวบินพิเศษด้วยซ้ำ "เรื่องนี้ผมคำนึงในเรื่องค่าใช้จ่าย รวมทั้งความสะดวก ถ้าใครในโลกสามารถเดินทางไปไหนมาไหนด้วยเครื่องบินธรรมดาได้ ผมก็ขอใช้เครื่องบินธรรมดา ขณะนี้กำลังตกลงกับกระทรวงการต่างประเทศ ขอความกรุณาเพียงให้ผมไปก่อนเวลา คงไม่ต้องไปรับที่สนามบินทุกครั้งไป" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ผบ.ทบ.ร่วมคณะนายกฯ เยือนประเทศเพื่อนบ้าน
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ขอร่วมเดินทางไปเยือนประเทศเพื่อนบ้านด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวไม่ได้เป็นเรื่องที่ใครชวนใครไป แต่เป็นเรื่องที่ ผู้บัญชาการทหารบกแจ้งว่าจะเดินทางไปรอบๆประเทศอาเซียนและครั้งนี้ขอไปด้วยก็ต้องขอบคุณที่ ผู้บัญชาการทหารบกแจ้งให้ทราบ ส่วนรายละเอียดต่างๆของประเทศเพื่อนบ้านนั้นได้มีการพูดคุยกันก่อนหน้านี้แล้ว ยืนยันว่าการเดินทางไปเยือนประเทศเพื่อนบ้านของตน จะเป็นเพียงคณะเล็กๆ เพื่อความคล่องตัว ถือไปทำหน้าที่และกฎเกณฑ์ของกระทรวงการต่างประเทศทุกประการ
ด้าน นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันเดียวกันว่า
นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับภารกิจด้านต่างประเทศในหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ เวลา 18.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี จะมีการพบปะระหว่าง ครม. กับคณะทูตานุทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายว่า ขอให้ ครม.เข้าร่วมงานดังกล่าวทุกคน อย่างน้อยจะได้ทำความรู้จักมักคุ้นกับคณะทูตานุทูต และจะถือโอกาสนี้ชี้แจงนโยบายด้านการต่างประเทศด้วย