วันที่ 18 ก.พ. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสุนทร วิลาวัลย์ อดีตรองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย
ซึ่ง กกต.เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ได้เข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการสอบสวนกรณียุบพรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตย โดยหลังชี้แจง นายสุนทร เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการฯได้สอบถามว่าได้รับเงินสนับสนุนจากทางพรรคหรือไม่ ซึ่งได้ชี้แจงว่า ไม่เคยรับเงินสนับสนุนจากนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค มีแต่กลุ่มของพวกตนช่วยกันออกเงินเองครั้งละ 1-2 หมื่นบาท และก่อนการเลือกตั้งก็มีการประชุมเพียง 2 ครั้งเท่านั้น โดยได้ห้ามผู้สมัครของพรรคซื้อเสียงด้วย ส่วนเรื่องจะยุบพรรคหรือไม่นั้น ไม่เกี่ยวกับตนแล้ว เพราะได้ลาออกจากพรรค ตั้งแต่วัน 15 ก.พ.ที่ผ่านมา และไม่ขอพูดเหตุการณ์ภายในพรรค
ด้านนายบุญทัน ดอกไธสง ประธานคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนกรณีการยุบพรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตยเปิดเผยว่า
ได้ฟังคำชี้แจงในส่วนพรรคมัชฌิมาธิปไตย ซึ่งผู้ชี้แจงได้ระบุว่า ทางพรรคไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทุจริตเลือกตั้ง พร้อมปฏิเสธเรื่องการจ่ายเงินให้กับผู้สมัคร โดยจะนำหลักฐานเป็นสมุดบัญชีของผู้สมัครมาให้ ทั้งนี้จากการรับฟังคำชี้แจงของทั้งสองพรรคการเมือง ก็มีความเห็นว่ายังจำเป็นต้องเชิญเลขาธิการของทั้งสองพรรคมาให้ปากคำเพิ่มเติม โดยจะเชิญเลขาธิการพรรคชาติไทยมาในวันที่ 20 ก.พ. และเลขาธิการพรรคมัชฌิมาธิปไตย มาในวันที่ 25 ก.พ. ทั้งนี้ ก็เพื่อที่จะให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน เพราะตอนนี้ยังเหมือนหนังที่ยังฉายไม่หมดยังขาดบางตอน เช่นพรรคมัชฌิมาธิปไตยที่เขาชี้แจงว่าในพรรคมีหลายกลุ่ม จึงจะเอาข้อมูลมาดูอีกทีและจะให้เลขาธิการพรรคมาชี้แจง ทั้งนี้ การสรุปสำนวนทั้งสองพรรคเสนอต่อ กกต. ในทันทีที่ข้อมูลพร้อม
ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย รักษาการหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้เข้าชี้แจงต่ออนุกรรมการสืบสวนสอบสวนกรณียุบพรรคฯที่มีนายบุญทัน ดอกไธสง เป็นประธาน
หลังชี้แจง พล.ต. อินทรัตน์เปิดเผยว่า อนุกรรมการฯได้ถามคำถาม 8 ข้อ เน้นเรื่องกรณีทุจริตเลือกตั้งที่ จ.ปราจีนบุรี ของนายสุนทร วิลาวัลย์ ผู้สมัคร ส.ส.ปราจีนบุรี อดีตกรรมการบริหารพรรคที่ กกต.ได้มีมติให้ใบแดงว่า พรรคมีส่วนรู้เห็นหรือเป็นไปตามมติของพรรคหรือไม่ ซึ่งได้ชี้แจงว่าพรรคไม่ได้เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคเลย หลังจากวันที่ 4 ธ.ค. 2550 ที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค ทำให้กรรมการบริหารพรรคต้องพ้นสภาพไปด้วย เป็นเพียงรักษาการกรรมการบริหารพรรคเท่านั้นและไม่มีส่วนรู้เห็น ซึ่งมั่นใจว่า กกต.จะให้ความเป็นธรรมกับพรรคจึงไม่หนักใจหรือห่วงเรื่องใด และขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามความจริง ที่ต้องยอมรับ
เมื่อถามว่าเป็นห่วงการชี้แจงของนายสุนทร จะมีผลต่อให้ยุบพรรคหรือไม่ พล.ต.อินทรัตน์ตอบว่า ไม่ห่วง พรรคจะทำงานเพื่อประชาชนต่อไปและคาดว่าอนุกรรมการฯจะรีบสรุปเรื่องของพรรคพร้อมกันกับพรรคชาติไทยในคราวเดียวกัน