ชท.-มหาชน ขานรับมติ กกต.แก้ล็อก 90 วัน เชื่อกลุ่มชลย้ายกลับ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤษภาคม 2549 16:37 น.

ชาติไทย หนุนเลือกตั้ง 22 ต.ค.ชี้ เปิดโอกาสนักการเมืองย้ายรังตามอุดมการณ์ ระบุต้องรอมติ ครม.ก่อน เชื่อ ชูวิทย์-กลุ่มชล กลับรังเดิม ส่วน มหาชน รับปลดล็อก 90 วัน เปิดทางดึงคนพรรคอื่น-หน้าใหม่เข้าร่วมมากขึ้น หวังปรับเป้าเก้าอี้ ส.ส.ได้มากกว่าเดิม เรียกร้องสรรหา กกต.ใหม่ช่วงทอดเวลา

วันนี้ (15 พ.ค.) นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย แถลงภายหลังที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติกำหนดวันเลือกตั้งวันที่ 22 ต.ค.2549 ว่า เห็นด้วยอย่างมาก แต่คงต้องรอว่า ครม.จะมีความเห็นอย่างไร จะมีปัญหาอะไรหรือไม่ เพราะขณะนี้เรามีภารกิจสำคัญของประเทศ คือ การจัดงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้คนไทยทุกคนต่างมุ่งมั่นที่จะเฉลิมฉลองพิธีดังกล่าว นอกจากนี้ ยังเป็นการปลดล็อกทางการเมืองโดยอัตโนมัติไม่ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเป็นผลดีต่อนักการเมืองได้เลือกลงสมัครพรรคการเมืองใดตามวิถีทางของตัวเอง ซึ่งเชื่อว่า การย้ายพรรคของนักการเมืองจะไม่เป็นเหมือนในอดีต หรือใครจะตั้งพรรคใหม่ถือเป็นโอกาสดี ทั้งนี้ เห็นว่า การสังกัดพรรค 90 วันมีผลเสียมากกว่าผลดี เหมือนเซ้งอำนาจของประชาชนไปสู่พรรคการเมืองแทน อย่างไรก็ตามการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปทำให้เราหายใจได้ไปอีกระยะหนึ่ง แต่วิกฤตศรัทธาที่เกิดขึ้นก็ยังมีอยู่ไม่ได้หายไป ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดยังยืนยัน กกต.ควรลาออก

รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า จากนี้ไปหากมีผลกระทบกับพรรคชาติไทย ไม่ว่าจะมีนักการเมืองของพรรคย้ายออก หรือเข้าพรรคเราก็ยินดี โดยเฉพาะคนที่ย้ายเข้าจะต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไป ว่า มีนโยบายไปในทิศทางแนวเดียวกันหรือไม่ เพราะคับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ลำบาก ขณะนี้มีนักการเมืองใหม่ๆ จำนวนมากเดินมาหาเราทุกวัน ซึ่งเราก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะไม่รู้ว่าจะมีระยะเวลาเท่าไหร่ แต่ถ้าวันนี้ใครคิดว่าทางสายกลางเป็นทางออกที่ดีสำหรับสังคมไทยก็เชิญมาสมัครที่พรรคชาติไทย ส่วน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย จะมีโอกาสกลับมาหรือไม่นั้น นายนิกร กล่าวว่า มีโอกาสมาก เพราะเดิมคิดว่าเวลาจะไม่ครบ ซึ่งเราก็ให้โอกาสนายชูวิทย์อย่างเต็มที่ หากคิดว่าพรรคชาติไทยจะเป็นช่องทางในการทำงานเพื่อสังคมได้ เพราะที่ผ่านมาพรรคก็ภูมิใจในตัวของนายชูวิทย์ ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีต่อนายชูวิทย์และพรรค

เมื่อถามว่า กลุ่มชลบุรี จะกลับมาอยู่พรรคชาติไทยเหมือนเดิม รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า ได้ยินแต่ข่าวเหมือนกันยังไม่ชัดเจน ความผูกพันยังมีอยู่มาก เรื่องการเมืองก็เรื่องการเมือง เรื่องของคนตัดกันไม่ขาด คนเรารู้จักกันมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน ในครั้งหนึ่งวันเกิดพรรคชาติไทยที่ผ่านมาเขาก็ยังส่งข้าวหลามหนองมนมาให้ ไม่ใช่ข้าวหลามที่ผูกพันกัน แต่น้ำใจผูกพันกันต่างหาก จริงๆ น่าจะส่งสายบัวมาให้จะได้รู้ว่าตัดกันไม่ขาด

ด้าน นายอรรคพล สรสุชาติ รองหัวหน้าพรรคมหาชน กล่าวถึงการออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งหลังจากที่มีพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า พรรคมหาชนไม่มีปัญหา การให้มีพระราชกฤษฎีกาหลัง 90 วัน นับตั้งแต่วันนี้ เป็นสิ่งที่ดี ไม่เพียงแต่จะปลดล็อกทางการเมืองในเรื่องสังกัดพรรค ยังเป็นการให้ความสำคัญคนใหม่ๆ ที่จะเข้ามาร่วมงานการเมืองได้มีโอกาสลงเลือกตั้งในครั้งหน้า ถ้ามีระยะเวลาออกไป และการเลือกตั้งเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม ทำให้คนที่เข้ามาใหม่ สามารถเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคได้ อย่างไรก็ตาม พรรคอยากเรียกร้องให้รัฐบาลมีความนิ่งทางการเมือง เพื่อดูแลการจัดงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติให้ออกมาเรียบร้อยและดีที่สุด และควรใช้เวลาที่มีอยู่ขณะนี้เร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยเฉพาะปัญหาทางเศรษฐกิจก่อน เพราะประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก ทั้งเรื่องราคาน้ำมัน ราคาสินค้า ฯลฯ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลละเลยเรื่องนี้มัวห่วงอนาคตการเมืองของตัวเอง

นายอรรคพล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ถ้ามีการทอดระยะเวลาการเลือกตั้งออกไป พรรคเรียกร้องให้ใช้เวลาระหว่างนี้ สรรหา กกต.ชุดใหม่ เพราะไม่ทำให้มีการหยุดชะงักแต่อย่างใด เพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้าง กกต.และได้ กกต.ชุดใหม่ที่ได้รับความน่าเชื่อถือ รวมทั้งควรให้ศาลเข้ามามีบทบาทในการจัดการเลือกตั้ง ไม่ใช่แค่มีบทบาทในฐานะกรรมการเฉยๆ แต่ให้ศาลเป็นกกต.จังหวัดมีอำนาจเต็มในการดูแลการเลือกตั้งโดยรวมด้วย ดังนั้น เวลาที่มีช่องว่างขณะนี้พรรคอยากให้ กกต.พิจารณาตัวเองเพื่อแสดงความรับผิดชอบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจังเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม

การทอดระยะเวลาออกไป ทำให้การเมืองเปิดขึ้นจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในพรรคการเมืองมาก คนที่เขาต้องการจะเปลี่ยนพรรค ก็มีกระบวนการตัดสินใจของเขาอยู่แล้ว และการตัดสินใจค่อนข้างเกิดขึ้นเร็ว พรรคยินดีต้อนรับ ช่วงต้นได้มีการคุยอยู่บ้าง แต่เราแบ่ง 2 ส่วน คือ ส่วนนักการเมืองจากพรรคอื่น กับส่วนของคนรุ่นใหม่ที่พร้อมเข้ามาทำงานการเมือง และคนที่ไม่พอใจการเมืองที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ถ้าเงื่อนไขการเมืองยังเป็นแบบเดิมยังมีการใช้อำนาจรัฐนำการเลือกตั้ง หรือใช้อำนาจเงินมากเป็นประโยชน์ต่อพรรคใหญ่ที่เป็นรัฐบาล ก็มีผลต่อกระบวนการตัดสินใจของ ส.ส.ที่อาจจะเปลี่ยนพรรค นายอรรคพล กล่าว และว่า สำหรับพรรคมหาชนนั้นถ้ากติกาเปลี่ยนไปจนสร้างความบริสุทธิ์ในการเลือกตั้งได้ เป้าหมายเก้าอี้ ส.ส.ของพรรคก็อาจปรับเพิ่มขึ้นได้

รองหัวหน้าพรรคมหาชน กล่าวด้วยว่า ส่วนแนวทางทำงานร่วมกับพรรคชาติไทย และประชาธิปัตย์นั้น ขณะนี้ยังไม่มีการนัดคุยอย่างเป็นทางการ แต่มีข้อตกลงเบื้องต้นว่าฝ่ายค้านจะมีจุดยืนร่วมกันในการปฏิรูปการเมือง ซึ่งจะชูพร้อมๆ กัน ส่วนเรื่องๆ อื่นนั้นยังไม่มีการหารือแต่อย่างใด

ด้าน นายตุ่น จินตะเวช อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคมหาชน กล่าวว่า ตนยังไม่คิดที่จะย้ายไปอยู่พรรคไหน ยังคงรักพรรคมหาชนเหมือนเดิม แต่ยอมรับว่ามีหลายพรรคติดต่อมาให้ย้ายไปอยู่ด้วย ซึ่งตนยังไม่ได้พิจารณาแต่อย่างใด