เปิดแถลงนโยบายรัฐบาล

การประชุมรัฐสภาเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น.

โดยเริ่มจากนายพิฑูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการรัฐสภา อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี จากนั้นนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา ระบุว่า การบริหารราชการแผ่นดินนั้นต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจ เศรษฐกิจโลกที่มีความรุนแรง คือปัญหาซับไพรม์ และปัญหาน้ำมันมีแนวโน้มราคาสูงขึ้น ดังนั้น 4 ปีต่อจากนี้ไป จะดูแลปัญหาดังกล่าวทั้งระยะสั้นและระยะยาว ภายใต้หลักการสำคัญ คือสร้างความสมานฉันท์แก่คนไทยทุกภาคส่วนให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้ และจะเร่งแก้ปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย ขณะที่นโยบายจะแบ่งเป็น 2 ระยะ มีทั้งหมด 8 ข้อ

นายสมัคร แถลงนโยบายเร่งด่วนรัฐบาลว่า

นโยบายปราบปรามยาเสพติด และผู้มีอิทธิพล แก้ไขปัญหาค่าเงิน ราคาพลังงาน ให้เพิ่มศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จัดสรรงบประมาณ เอสเอ็มแอล ให้ครบทุกชุมชนสานต่อโครงการธนาคารเพื่อประชาชนสนับสนุนสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อม สนับสนุนสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ พักหนี้เกษตรกรรายย่อยและยากจน สร้างระบบประกันความเสี่ยงให้เกษตรกรจากภัยธรรมชาติ สร้างโอกาสที่อยู่อาศัยให้ทั่วถึง เช่น บ้านเอื้ออาทรเร่งรัดการลงทุนที่สำคัญ รถไฟฟ้า 9 สาย ลดผลกระทบจากราคาพลังงาน ฟื้นความเชื่อมั่นด้านการลงทุนและการท่องเที่ยว ประกาศให้เป็นปีท่องเที่ยวไทย ขยายพื้นที่ระบบชลประทาน พัฒนาแหล่งน้ำผิวดินและใต้ดิน บรรเทาโลกร้อน ส่งเสริมสนับสนุนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 
 
นายกรัฐมนตรี ยังแถลงนโยบายรัฐบายระยะ 4 ปี ด้านสังคมว่า

รัฐบาลจะจัดระบบเตือนภัยการว่างงาน ให้ความคุ้มครองมาตรฐานแรงงานไทย จัดระบบประกันสุขภาพให้ถ้วนหน้า ระบบสาธารณสุขให้ครบวงจร จัดให้มีการลดปัจจัยเสี่ยงภาวะขาดแคลนโภชนา ดำเนินนโยบายเฝ้าระวังโรคอุบัติใหม่ สร้างแรงจูงใจขยายงานอาสาสาธารณสุข ส่งเสริมให้ประชาชนทุกระดับออกกำลังกาย สร้างนิสัยรักกีฬา อุปถัมภ์คุ้มครองพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ ให้ประชาชนเข้าใจ ฟื้นฟูและส่งเสริมโบราณสถานให้เป็นมรดกระดับโลก ประสานเชื่อมโยงกองทุนผู้สูงอายุ และสร้างสังคมในการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตั้งแต่เด็กแรกเกิด สร้างหลักประกันความมั่นคงให้เด็กสตรี คนพิการ ที่ด้อยโอกาส เตรียมความพร้อมให้กับผู้สูงอายุ สร้างสภาพแวดล้อมให้กับสังคมเมือง.
 
นายสมัคร กล่าวต่อว่า รัฐบาลมีนโยบายให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ

มีภูมิคุ้มกันต่อความเสี่ยง วางโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรม เกษตร บริการ ดำเนินนโยบายการเงิน ดูแลค่าเงินบาทให้สอดคล้องกับภาคเศรษฐกิจ รักษาวินัยการคลังให้เกิดความยั่งยืนและการคลังระยะยาว ครอบคลุมถึงเงินงบประมาณ ปฏิรูปงบประมาณแผ่นดินทั้งระบบให้สอดคล้อง ปรับปรุงระบบภาษีอย่างเป็นธรรม ส่งเสริมการออม วางระบบการดูแลและส่งเสริมการเคลื่อนย้ายเงินทุน ปรับปรุงตลาดทุนให้ทัดเทียบตลาดโลก ปรับปรุงมาตรการ สิ่งจูงใจ ตราสารหนี้ ปรับปรุงกลไกพัฒนารัฐวิสาหกิจเป็นกลไกขับเคลื่อนพัฒนา ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ภาคเกษตรให้สอดคล้องกับรสนิยมผู้บริโภค ยุทธศาสตร์เป็นศูนย์อาหารของโลก เป็นศูนย์ผลิตพืชพลังงาน ส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าเกษตร โดยการแปรรูป ส่งเสริมวิจัยมาตรฐานผลิต เร่งรัดการเจรจาขยายตลาดสินค้าและอาหารเกษตรสู่ตลาดโลกส่งเสริมการเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ ส่งเสริมสถาบันเกษตร เพื่อให้เกษตรกรมี่ส่วนในการพัฒนาด้วยตนเอง.