นพดลมั่นใจสานต่อประชานิยม

นายนพดลให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุม ส.ส. ของพรรค ถึงกรณีการเตรียมความพร้อมในการแถลงนโยบายว่า

สมาชิกของพรรคและพรรคร่วมรัฐบาลก็มีความพร้อมแล้ว เมื่อถามว่าแต่พรรคฝ่ายค้านมีการตั้งเป้าที่จะอภิปรายโจมตีนโยบายประชานิยม นายนพดลกล่าวว่า รัฐบาลสามารถชี้แจงได้ทุกเรื่อง เพราะนโยบายประชานิยมดำเนินการเพื่อบุคคลรากหญ้าระดับล่าง ฉะนั้นต้องทำให้เต็มที่ทั้งนโยบาย 30 บาท ธนาคารประชาชน และเรื่องของสาธารณูปโภค จึงไม่น่าที่จะมีปัญหาซึ่งก่อนหน้านี้ ฝ่ายค้านก็พยายามที่จะนำแนวคิดของพรรคที่ถูกยุบไปใช้ในการหาเสียง ดังนั้นไม่ใช่นโยบายที่จะลดแลกแจกแถมแน่นอน ทั้งนี้เราได้อำนาจมาจากประชาชน ก็ต้องสานต่อเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนตามที่ได้ให้ไว้ในการหาเสียง ส่วนพรรคฝ่ายค้านหากจะมีการอภิปรายในประเด็นอื่นที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ตนก็เห็นว่าไม่สมควร และขอให้ออกจากเงามาวิจารณ์

เมื่อถามว่าจะใช้นโยบายของพรรคไทยรักไทยเดิมทั้งหมดเลยใช่หรือไม่

นายนพดลกล่าวว่า นโยบายใดที่ดีก็ไม่ยกเลิก ต้องสานต่อและมีการเพิ่มมาอีกหลายเรื่อง ทั้งเรื่องของการขยายเบี้ยยังชีพ เรื่องของผู้สูงอายุต้องต่อยอดดำเนินการ ถึงแม้จะเป็นนโยบายของรัฐบาลที่แล้ว หากเป็นเรื่องที่ดีต้องทำต่อ

เมื่อถามถึงกระแสความขัดแย้งในพรรคโดยเฉพาะกรณีที่คอลัมน์นายประดาบ ในเว็บไซต์ ไฮทักษิณ เขียนเตือน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว. มหาดไทย ให้ทำเพื่อพรรคไม่ใช่ครอบครัว

นายนพดลกล่าวว่า ไม่มีปัญหาภายในพรรค เพราะการดำเนินการใดๆ ต้องคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน หากมีความขัดแย้งเกิดขึ้นก็ไม่สามารถทำงานต่างๆ ได้เต็มที่ ดังนั้นไม่มีปัญหาแน่นอนทุกอย่างเรียบ ร้อยดี อยากให้ทุกฝ่ายดูที่การทำงานให้เห็นผลงาน ไม่ใช่คำนึงถึงเรื่องตำแหน่งเป็นหลัก

วอนคนในพรรคช่วยสมัครทำงาน

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าเรื่องการแต่งตั้งเลขานุการและที่ปรึกษารัฐมนตรีจะเป็นชนวนปัญหา นายนพดล กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อมีคนมาก ก็ต้องพิจารณาให้ดี ไม่ใช่เรื่องของความแตกแยก ส่วนที่ถามเรื่องตำแหน่งประธานกมธ.ที่เกรงว่าจะมีความขัดแย้งเกิดขึ้นอีกนั้น ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งประธาน กมธ. ก็คือว่าเป็นผู้ที่ตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหาร และเป็นที่ที่จะฝึกคนเป็นรัฐมนตรี ดังนั้นจึงต้องดูให้ดี

เมื่อถามว่านายกฯ รู้สึกหนักใจหรือกดดันกับปัญหาที่เกิดขึ้นหรือไม่

นายนพดลกล่าวว่า นายสมัครเป็นผู้ที่มีความสามารถ แต่ก็อายุถึง 72 ปีแล้ว ดังนั้นทุกฝ่ายในพรรคต้องช่วยกันทำงาน เพราะตำแหน่งหัวหน้าพรรคและนายกฯ เป็นงานที่หนัก ส่วนตัวจะดูในแง่ของแนวคิดเป็นหลัก และหวังว่านายกฯ จะมีกำลังใจที่เข้มแข็ง

เมื่อถามว่าดูเหมือนการตัดสินใจก็ยังต้องผ่านกลุ่มและมุ้งต่างๆ

นายนพดล กล่าวว่า แนวทางการเมือง ก็ต้องเสนอความคิดเห็นร่วมกัน เสนอกลุ่มตัวเองเข้ามาสู่ที่ประชุม แต่ท้ายที่สุดก็ต้องผ่านมติของพรรค และออกมาเป็นมติ ครม. เมื่อถามว่านายกฯ เปลี่ยนตำแหน่งที่ปรึกษาเพียง 1-2 ตำแหน่งเท่านั้น จากที่ระบุว่ามีกว่าครึ่งที่ต้องนำกลับมาทบทวน นายนพดลกล่าวว่า ก็ต้องดูความสามารถบางคนอาจจะบุคลิกไม่เหมาะ แต่อาจจะมีความสามารถและตรงกับงานก็ต้องดูกันต่อไป