"ชูศักดิ์ " เผย นายกฯขอมติที่ประชุมกก.บริหารพปช.จัดการรายชื่อเลขาฯ-ที่ปรึกษาฯรมต. ระบุ เข้าที่ประชุมครม. 20 ก.พ. นี้
(16กพ.) นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรี และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่า
ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แต่ก่อนที่รายชื่อจะถึงนายสมัครก็มีกรรมการคัดเลือกพอสมควรแล้ว ก็มีความลงตัวแล้วมากมาย แต่นายสมัครขอดูรายละเอียดบางประการ ซึ่งเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา นายสมัครได้ขอมติที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค ขอเป็นผู้จัดการในเรื่องนี้ เท่าที่ทราบจะมีการนำรายชื่อเลขานุการฯและที่ปรึกษาฯเข้าที่ประชุมครม.วันที่ 20 ก.พ. ซึ่งการประชุมเลื่อนมาจากวันที่ 19 ก.พ. เนื่องจากติดประชุมแถลงนโยบายรัฐบาล
สำหรับรายชื่อเลขานุการฯและที่ปรึกษาที่นำมาพิจารณาใหม่นั้น จะมีการสลับปรับเปลี่ยนบ้างแต่ไม่มากมาย เพราะรายชื่อส่วนใหญ่ที่วางไว้ค่อนข้างลงตัวแล้ว มีเพียง 1-2 เปอร์เซ็นต์ที่มีการสับเปลี่ยน
ผู้สื่อข่าวถามว่า
มีข่าวว่าจะมีการทบทวนรายชื่อที่ปรึกษารัฐมนตรีที่มีการเสนอ 2 ชื่อประกอบด้วย นายแสวง ฤกษ์จรัล ที่ปรึกษารมว.มหาดไทย และน.ส.ลีลาวดี วัชโรบล ที่ปรึกษารมว.ศึกษาธิการ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ต้องไปถามนายสมัครเอาเอง เพราะมอบอำนาจให้ไปแล้ว แต่การปรับเปลี่ยนจะทำในส่วนของพรรคพลังประชาชนเท่านั้น ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ๆ จะส่งรายชื่อมาอย่างไรคงไปยุ่งไม่ได้
อย่างไรก็ตามในส่วนของพรรคร่วมนายสมัครในฐานะหัวหน้ารัฐบาลก็มีสิทธิติติงหรือให้ไปทบทวนได้ หากพรรคร่วมเห็นแก่นายกฯก็อาจจะทบทวนให้
ผู้สื่อข่าวถามว่ารายชื่อที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างชื่อนายวัน อยู่บำรุง เลขานุการรมช.สาธารณสุข จะมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ นายชูศักดิ์ตอบว่า ไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับนายสมัคร
ต่อข้อถามที่ว่า การที่นายสมัครติงเรื่องรายชื่อเป็นการตักเตือนแบบพอเป็นพิธีหรือต้องปรับเปลี่ยนจริง นายชูศักดิ์ตอบว่า
นายสมัครบอกว่ามีความจำเป็นต้องทำ เพื่อให้ภาพของรัฐบาลและรัฐมนตรีเดินไปได้กับกระแสสังคม แต่จะทำได้มากน้อยเพียงใดต้องมาคุยกัน ส่วนตัวมองว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหาดังกล่าว เพราะเลขานุการฯและที่ปรึกษาฯมาจากส.ส. แต่ปัจจุบันมาจากส.ส.สอบตก ซึ่งต้องยอมรับว่า พรรคมีบุคลากรอย่างจำกัด ก็มีในระดับนี้แหละ จะเอาส.ส.สอบตกไปเทียบกับส.ส.สอบได้หรือรัฐมนตรีคงลำบาก
ถามว่า ที่ผ่านมานายสมัครมักแสดงบทบาทผ่านสื่อว่าไม่ใช่หุ่นเชิด เรื่องนี้ลูกพรรคได้เตือนนายสมัครบ้างหรือไม่ว่าควรไปพุดกันในพรรคไม่ควรไปพูดนอกพรรค นายชูศักดิ์ตอบว่า มีการพูดทำนองนี้เหมือนกัน แต่นายสมัครบอกว่าจำเป็นต้องแสดงบทบาทให้สังคมรับรู้เพราะเรื่องกระแสสังคมเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อเข้ามาใหม่ ก็ต้องแสดงบทบาทบ้าง แต่สุดท้ายแล้วคงต้องเข้ามาพูดในพรรคกันบ้าง
นายชูศักดิ์กล่าวว่า
ส่วนการจัดสรรตำแหน่งประธานกรรมาธิการ(กมธ.)สภาผู้แทนราษฎร ได้ข้อสรุปแล้วว่าจะมี 32 คณะโดยเป็นการเพิ่มกมธ.สื่อมวลชนขึ้นมาใหม่ คาดว่าจะแต่งตั้งได้เสร็จในสัปดาห์หน้า โดยพรรคพลังประชาชนจะได้โควตาประธานกมธ.จำนวน 13 คณะ พรรคประชาธิปัตย์ 11 คณะ ส่วนพรรคอื่น ๆ ก็ลดหลั่นกันไป ส่วนพรรคประชาราช แม้จะมีส.ส. 5 ที่นั่ง ก็ขอโควตาประธานกมธ.เพียง 1 คณะ ซึ่งพรรคพลังประชาชนก็ยอมสละโควตาให้ โดยเกลี่ยโควตาของส.ส.ระบบสัดส่วนของพรรคไปให้ ถือเป็นความใจกว้างของนายสมัคร สำหรับส.ส.อีสานของพรรคพลังประชาชนจะได้โควตาประธานกมธ. 5 - 6 คณะ ส่วนส.ส.เหนือและกลาง ก็จะได้ในจำนวนไล่เลี่ยกัน